บทที่ 411 โจมตีทางใจได้ผลดีกว่า
“ด้านนอกมีกำลังพลยกทัพมาเท่าใดกันแน่ ไหนท่านแม่ทัพกล่าวว่า การยึดอำเภอผิงหนานนั้นง่ายเหมือนหยิบของในถุงเพราะฮ่องเต้เฒ่ามิเหลือแรงกายแรงใจมาจัดการ”
“พวกเจ้าดูธงที่พลิ้วไหวอยู่นอกเมืองเร็ว นั่นเป็นกองกำลังของแม่ทัพรถม้าศึกเห็น ๆ”
“อะไรนะ?! คราวพวกเราก่อเรื่องก่อนหน้านี้ แม่ทัพรถม้าศึกหาเคยเคลื่อนพลสักนายไม่ บัดนี้พวกเราบุกยึดอำเภอผิงหนานใช้เป็นฐานทัพ แม่ทัพรถม้าศึกกลับยกทัพมา นี่มิใช่ว่าจงใจหลอกให้พวกเราติดกับหรอกหรือ?”
“ไม่ถูก! หากต้องการความดีความชอบ โอกาสดีที่สุดคือช่วงก่อนพวกเราบุกยึดเมือง สมควรอาศัยจังหวะนั้นโจมตี แต่ยามนี้พวกเราครองเมืองได้อย่างมั่นคงแล้วเขาถึงส่งกำลังพลมาล้อม นี่มิใช่ทางเลือกอันชาญฉลาดแน่นอน กองทัพรถม้าศึกถือเป็นเสาหลักแห่งแคว้น ไฉนเลยจะพลั้งพลาดได้เพียงนี้ ต้องมีบางอย่างไม่ชอบมาพากลแน่ รีบไปรายงานท่านแม่ทัพเสีย!”
ตอนนี้ภายในศาลาว่าการอำเภอผิงหนานชุลมุนไปหมด
ทหารส่งสารปราดเข้ามาคนแล้วคนเล่า ข่าวร้ายถูกส่งมาไม่หยุดยั้ง
“เรียนท่านแม่ทัพ แม่ทัพจากกองทัพรถม้าศึกประชิดเมืองแล้วขอรับ มีกำลังพลอย่างน้อยสองหมื่นนายขึ้นไป!”
“เรียนท่านแม่ทัพ นอกจากทัพใหญ่แล้ว ยังมีการทยอยลำเลียงยุทโธปกรณ์มาประชิดเมืองด้วยขอรับ”
“เรียนท่านแม่ทัพ อำเภอของเราถูกล้อมไว้หมดแล้ว ถูกตัดขาดจากภายนอกโดยสิ้นเชิง นับตั้งแต่เมื่อคืน ทหารส่งสารกว่ายี่สิบนายที่กองทัพซางกานส่งมามิมีผู้ใดสามารถออกจากเขตอำเภอผิงหนานได้ นอกจากกองทัพรถม้าศึก ทั้งอำเภอผิงหนานถูกหน่วยสอดแนมจากฝ่ายต่าง ๆ แทรกซึมปิดกั้น ทหารส่งสารของฝ่ายเราออกไปมิได้ ทหารส่งสารฝ่ายกองทัพซางกานก็เข้ามามิได้”
เวลานี้หวงเฉิงพลันลนลานทำอะไรไม่ถูก เขานั่งอยู่ใต้ป้ายกระจกใสกระจ่างของศาลาว่าการอำเภอ กุมขมับเอ่ยวาจา
ในใจด่าทอไปถึงโคตรเหง้าของตระกูลหลิน!
ครานั้นตกลงกันแล้วว่า กองทัพรถม้าศึก กองทัพทหารม้า และกองทหารชายแดน ทั้งสามฝ่ายจักไม่เคลื่อนพลแม้แต่น้อย เปิดทางเราสามารถบุกยึดอำเภอผิงหนานได้ง่ายดายราวหยิบของในถุง จากนั้นมิจำเป็นต้องลงใต้ ขอเพียงค่อย ๆ กลืนกินเขตแดนในมณฑลนี้ ขยายอำนาจเป็นพอ
เมื่อตอนนั้น ตระกูลหลินค่อยกราบทูลฝ่าบาท แล้วรับกำลังแต่ละฝ่ายของหวงเฉิงเข้าไปด้วยเงื่อนไขเยี่ยมยอด
ขณะเดียวกัน กองทัพซางกานจากเป่ยตี๋ก็จะเข้ายึดอำเภอเป่ยซีได้สำเร็จ กลับมาอยู่ในภาวะปฏิปักษ์กับแคว้นเหลียงอีกครั้ง กองกำลังจากตระกูลใหญ่ต่าง ๆ จะตักตวงผลประโยชน์จากการนี้ เช่นนี้มิใช่การทรยศแผ่นดิน หากแต่เป็นเกื้อหนุนแผ่นดินทางอ้อม
ขอเพียงอาศัยโอกาสนี้กำจัดเสี้ยนหนามตำใจอย่างฉินเฟิง กอบกู้ระบบกฎหมายของต้าเหลียง จักนับว่ามีคุณูปการใหญ่หลวง
อย่างน้อยจวบจนเมื่อวาน สถานการณ์ก็เป็นไปตามที่คนตระกูลหลินวางแผน ทว่าเมื่อเช้า สถานการณ์กลับตาลปัตร
แม่ทัพแห่งกองทัพรถม้าศึกที่ควรนิ่งดูดายกลับยกทัพล้อมเมือง!
เวลานี้เข้ายามอู่แล้ว กองทัพซางกานที่ควรกรีธาทัพจู่โจมอำเภอเป่ยซีกลับไร้วี่แวว
และที่ทำให้หวงเฉิงสิ้นหวังที่สุดคือ ทั้งอำเภอผิงหนานล้วนถูกกองกำลังของฉินเฟิงปิดตาย
ข่าวสุดท้ายที่หวงเฉิงได้จากโลกภายนอกมีเพียงเรื่องที่ฉินเฟิงถูกแต่งตั้งเป็นทูตปราบกบฏพิเศษ นำทัพทหารม้าทมิฬห้าร้อยนายกำกับศึก และเขาก็ได้สังหารแม่ทัพแห่งกองทัพรถม้าศึกไปสิบกว่านายเพื่อสร้างบารมี
หวงเฉิงกวาดทุกอย่างบนโต๊ะลง ลุกพรวดคำรามเดือดดาล “ผู้ใดอธิบายให้ข้าฟังได้บ้าง เจ้าเด็กฉินเฟิงที่สมควรอยู่รักษาการที่เมืองหลวง เหตุใดจู่ ๆ ถึงมาปรากฏตัวในชายแดนทิศเหนือได้?!”
“แล้วกองทัพซางกานมัวทำกระไรอยู่”
“เป่ยตี๋หวังพึ่งมิได้ คนตระกูลหลินยิ่งหวังพึ่งมิได้!”


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ