บทที่ 422 ลงโทษแทนให้รางวัล
ตอนฮ่องเต้มอบสมรสพระราชทานให้เซี่ยอวิ๋นเอ๋อร์กับฉินเฟิง องค์ชายหกก็ไม่พอใจอยู่แล้ว เขาคิดอยากจะจัดการกับฉินเฟิงมานาน ตอนนี้องค์ชายสิบเอ็ดเป็นเพียงสายชนวนนำไฟ
เหตุผลที่เขาเลือกลงมือในวันนี้ ย่อมเป็นเพราะผลงานที่โดดเด่นของฉินเฟิง
หากปล่อยให้เป็นเช่นนี้ต่อไป ในภายภาคหน้าย่อมยากจะแก้แค้น ไม่สู้วางกับดักให้ฉินเฟิง อย่างแย่ที่สุดก็ให้อีกฝ่ายใช้ผลงานชดเชยความผิด ไม่มีรางวัลหรือการลงโทษใด ๆ เพียงรักษาสภาพที่เป็นอยู่ในตอนนี้ หากโชคดีก็อาจจะสามารถสร้างโอกาสให้ฮ่องเต้จัดการฉินเฟิงได้!
วันนี้บรรดาชาวบ้านบนท้องถนนต่างทักทายฉินเฟิงด้วยความเคารพ ทั้งยังเรียกฉินเฟิงว่า ‘เสาหลักของต้าเหลียง’ เรื่องนี้ได้แพร่กระจายไปทั่ววังแล้ว
ปกติฮ่องเต้ควรเรียกฉินเฟิงเข้าเฝ้าโดยเร็วที่สุด แต่ผ่านไปนานขนาดนี้กลับไม่มีการเคลื่อนไหวใด เห็นได้ว่าฮ่องเต้ทรงกังวลต่อบารมีของนายน้อยเจ้าสำราญในตอนนี้มาก
การหลอกล้อเซี่ยอวิ๋นเอ๋อร์คือความต้องการประการแรก ทำให้ฉินเฟิงตกหลุมพรางคือความต้องการประการที่สอง ปัดเป่าความกังวลให้ฮ่องเต้คือความต้องการประการที่สาม
ยิงศรดอกเดียวได้นกสามตัว!
ในดวงตาขององค์ชายหกเริ่มตื่นเต้นมากขึ้นเรื่อย ๆ รอคอยให้เซี่ยอวิ๋นเอ๋อร์ลงมือ ตราบใดแส้นั่นฟาดลงมา เขาจะชนะ!
“อวิ๋นเอ๋อร์ เจ้ารู้หรือไม่ว่าบนเตียงของข้ามีที่ให้เจ้าเสมอ แม้นางกำนัลในวังพวกนั้นจะงดงามแช่มช้อย แต่ก็ไม่มีใครเทียบเจ้าได้อย่างแน่นอน”
เมื่อเผชิญกับคำเหยียดหยามซ้ำแล้วซ้ำเล่าขององค์ชายหก เซี่ยอวิ๋นเอ๋อร์ก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป
นางผลักฉีหยางจวิ้นจู่ออก หยิบแส้ขึ้นมา ฟาดใส่องค์ชายหก
ผลัวะ!
เสียงที่ชัดเจนดังก้องไปทั่วจวนตระกูลเซี่ย
เจ็บน่ะถือว่าเจ็บจริง แต่องค์ชายหกทนแส้นี้ได้ เขาหัวเราะเสียงดังก่อนจะหันหลังกลับไปทั้งอย่างนั้น
ใบหน้าของฉีหยางจวิ้นจู่พลันเคร่งขรึมอย่างยิ่ง “อวิ๋นเอ๋อร์ เจ้าหาเรื่องแล้ว!”
เซี่ยอวิ๋นเอ๋อร์กำแส้แน่น ดวงตามุ่งมั่นเป็นอย่างมาก “แล้วอย่างไรเล่า! เป็นองค์ชายแล้วจะรังแกคนอื่นแบบนี้ก็ได้หรือ?”
“ต่อให้ข้าตาย ข้าก็ต้องพิสูจน์ว่าตระกูลเซี่ยของข้าจะไม่ทนต่อการถูกดูแคลนเช่นนี้”
ฉีหยางจวิ้นจู่สูดหายใจลึก หลับตาลง เรื่องนี้ไม่มีทางให้ถอยแล้ว นางเองก็ไม่มีหนทางอื่น จึงหันหลังออกจากจวนตระกูลเซี่ยพร้อมกับบรรดาคุณหนูที่หน้าซีดด้วยความหวาดดกลัว
ผ่านไปเพียงหนึ่งก้านธูปเท่านั้น ประตูจวนตระกูลเซี่ยก็ถูกกองทหารรักษาพระองค์บุกเข้ามา
เซี่ยอวิ๋นเอ๋อร์กำลังนั่งอยู่ในห้องโถง กำแส้อยู่ในมือ นางเผชิญหน้ากับทหารรักษาพระองค์ที่คุกคามแล้วยืนขึ้นอย่างสงบ “ไม่จำเป็นต้องลงมือ ข้าจะไปศาลต้าหลี่กับพวกเจ้าเอง! ข้าเซี่ยอวิ๋นเอ๋อร์ แม้จะเป็นสตรี แต่ก็กล้าทำกล้ารับ ไม่ให้คนอื่นต้องเดือดร้อน”
ผู้นำกองทหารรักษาพระองค์มีสีหน้าเคร่งขรึมเย็นชา “คุณหนูเซี่ย ข้าบอกเมื่อใดว่าเราจะไปศาลต้าหลี่”
เซี่ยอวิ๋นเอ๋อร์ขมวดคิ้ว “เจ้าหมายความว่าอะไร?”
ผู้นำกองทหารรักษาพระองค์เพิกเฉยต่อคำถามของนาง ก่อนจะโบกมือ “เซี่ยอวิ๋นเอ๋อร์ทุบตีองค์ชาย ก่ออาชญากรรมร้ายแรง คุมตัวนางไป ใครกล้าขวาง ฆ่าไม่ละเว้น!”
เซี่ยอวิ๋นเอ๋อร์ไม่ต่อต้าน เดิมทีก็ไม่สามารถต้านทานได้ นางถูกกองทหารรักษาพระองค์ร่างกำยำหลายคนคุมตัวออกจากจวน มิได้มุ่งหน้าไปศาลต้าหลี่หรือสำนักขุนนางฝ่ายใน แต่มุ่งหน้าไปที่ประตูเมือง
กระทั่งกองทหารรักษาพระองค์จากไป สาวใช้ก็กลับมามีสติร้องโอดครวญเสียงหลง “ไปหานายท่าน!”
“ไม่! ไม่ทันแล้ว ไปจวนตระกูลฉินก่อน!”
ช่วงเวลาเดียวกันนี้ ฉินเฟิงกำลังนั่งอยู่ในห้องโถง ดื่มชาไปพลาง ทบทวนบัญชีและแผนพัฒนาร้านธัญพืชตระกูลฉินไปพลาง
ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ