เข้าสู่ระบบผ่าน

บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ นิยาย บท 423

บทที่ 423 คลื่นใต้น้ำ

พิจารณาจากประสบการณ์ที่ได้รับจากการประลองไหวพริบและความกล้าระหว่างฉินเฟิงกับฮ่องเต้ต้าเหลียง การเข้าวังถือว่ามีหลักเกณฑ์ ส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับว่าฮ่องเต้ต้าเหลียงเรียกเขาไปที่ใด หากเรียกไปเข้าเฝ้าที่ท้องพระโรงมักได้รางวัลมากกว่าโดนลงโทษ หากถูกเรียกไปในห้องทรงพระอักษรเพียงลำพัง เช่นนั้นก็ต้องระวังเอาไว้ มีแนวโน้มที่ฮ่องเต้ต้าเหลียงจะลงมือโจมตีเขามากที่สุด

ตามที่ฉินเฟิงคาดเดา ตั้งแต่เข้ามาในห้องทรงพระอักษร ฮ่องเต้ต้าเหลียงก็ยังไม่ตรัสอะไรสักคำ เพียงก้มหน้าลง ตรวจสอบกีฎา ทำราวกับฉินเฟิงเป็นอากาศ

เวลาผ่านไปราว ๆ หนึ่งก้านธูป ฮ่องเต้ต้าเหลียงหยัดกายขึ้นยืน เหยียดกล้ามเนื้อ จิบแกงเมล็ดบัวที่จางซิวเย่ส่งให้อีกสองอึก จากนั้นก็ก้มหน้าตรวจสอบกีฎาต่อ

ช่วงเวลานี้ ฉินเฟิงกระแอมเตือนสองครั้ง แต่ฮ่องเต้ต้าเหลียงก็ยังคงเพิกเฉยต่อเขา

กระทั่งยามสองของคืนนั้น ในที่สุดฮ่องเต้ต้าเหลียงที่อดหลับอดนอนตรากตรำอยู่กับราชกิจก็ผลักกองกีฎาที่ตรวจสอบแล้วไปข้าง ๆ ก่อนจะอ้าปากกว้างหาว แล้วโบกมือให้ฉินเฟิง “วันนี้ดึกมากแล้ว เจ้ากลับไปพักผ่อนก่อนเถอะ รอวันพรุ่งเจิ้นจะคุยเรื่องชายแดนเหนือกับเจ้า ออกไปเถอะ”

หากเป็นเมื่อก่อน ฉินเฟิงคงจะถามให้ชัดเจนไปเลยว่าฮ่องเต้ต้าเหลียงคิดจะทำอะไรกันแน่ อีกฝ่ายเรียกเขามาที่ห้องทรงพระอักษร ให้ยืนรออยู่นานสองนาน จากนั้นก็โบกมือไล่ให้ออกไป นี่ล้อกันเล่นรึไร?!

แต่ครั้งนี้แตกต่างจากเมื่อก่อน นายน้อยเจ้าสำราญไม่ลังเล เพียงโค้งคำนับแล้วค่อย ๆ ถอยออกจากห้องทรงพระอักษร

ปรากฏว่าเดินไปได้สองก้าวก็ถูกจางซิวเย่รั้งตัวไว้​

จางซิวเย่ ขันทีเฒ่าผู้นี้ยังคงมีท่าทีแปลกประหลาดเช่นเคย “ฉินสือฮู่ เจ้าก็เห็น ฝ่าบาทขยันในเรื่องการเมือง ยุ่งอยู่กับหน้าที่ราชการ ครั้นพระองค์ยุ่งก็ลืมนอนลืมกิน แม้แต่มื้อเย็นก็ไม่มีประโยชน์ นับวันดู ฝ่าบาทไม่ได้กลับวังหลังมาสามเดือนแล้ว การเป็นฮ่องเต้นั้นลำบาก แต่การเป็นฮ่องเต้ที่ปราดเปรื่องนั้นยากยิ่งกว่า เจ้าอย่าได้ถือโทษพระองค์เพราะเรื่องนี้เลย”

ฉินเฟิงเหยียดหยามอย่างเย็นชาอยู่ในใจ ไม่ว่าเขาจะหยิ่งยโสแค่ไหนก็ไม่เคยตำหนิฮ่องเต้ต่อหน้าธารกำนัล ขันทีเฒ่าคนนี้กำลังวางกับดักชัด ๆ

ฉินเฟิงไม่ได้ติดกับ เพียงประสานมือไปทางห้องทรงพระอักษร “ต้าเหลียงโชคดีมีฮ่องเต้ที่ปราดเปรื่องเช่นนี้”

จางซิวเย่ยิ้มและพยักหน้า “จริงสิ มีบางเรื่องที่ฝ่าบาทลืมถาม ข้าก็เลยขอพูดมากหน่อย ยามฝ่าบาทนึกขึ้นมาได้จะได้ไม่ต้องให้ฉินสือฮู่ต้องลำบากเดินทางมาอีกรอบ ตอนนี้อากาศหนาวขึ้นแล้ว ฤดูใบไม้ผลิใกล้เข้ามา พิจารณาจากที่ปีก่อนหน้า ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อนี้ เป่ยตี๋จะต้องเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ ฉินสือฮู่คิดว่าปีนี้จะเป็นเช่นไรหรือ?”

จางซิวเย่เป็นขันทีไม่มีสิทธิ์ถามเกี่ยวกับกิจการของราชสำนัก ในเมื่อเขาถามคำถามนี้ คงเป็นคำสั่งของฮ่องเต้ต้าเหลียง

ฮ่องเต้ต้าเหลียงไม่ได้กล่าวถึงเรื่องขององค์ชายหกกับเซี่ยอวิ๋นเอ๋อร์แม้แต่คำเดียว รวมถึงการปราบกบฏหวงเฉิงของฉินเฟิงในชายแดนเหนือและการเอาชนะกองทัพซางกาน ด้วยต้องการปราบฉินเฟิงโดยไม่ปิดบัง ส่วนเหตุผลย่อมเป็นชื่อเสียงของฉินเฟิง ในตอนนี้ชื่อเสียงของเขามาถึงระดับที่ทำให้ฮ่องเต้ต้าเหลียงหวาดระแวงเสียแล้ว

ฝ่ายไท่เป่าหลินต้องกำจัด สงครามแคว้นก็ต้องสู้ แต่อำนาจของฉินเฟิงก็ต้องอ่อนลงเช่นกัน พูดกันตามตรง ในราชสำนักแห่งนี้ไม่เคยมีความสัมพันธ์ที่เรียกว่าฮ่องเต้ขุนนาง ใครมีอำนาจมาก ฮ่องเต้ต้าเหลียงย่อมต้องกำจัด ไม่มีข้อยกเว้น

ยามนี้จางซิวเย่​​​​กล่าวถึงช่วงเก็บเกี่ยวในฤดูใบไม้ผลิและสงครามเป่ยตี๋ ถือเป็นการแสดงความหมายว่าต้องการปลดอำนาจทางทหารของฉินเฟิงแล้ว

ฉินเฟิงรู้ดีอยู่ในใจว่า ฮ่องเต้ต้าเหลียงต้องการจะให้เขาเป็นเกาหมิงคนที่สอง มีอำนาจในนามมากกว่าอำนาจจริง สามารถปราบตระกูลผู้ดีทุกหัวระแหงได้ แต่ชีวิตอยู่ในกำมือของฮ่องเต้ต้าเหลียงที่สามารถกำจัดเครื่องมือชิ้นนี้ได้ทุกเวลา อย่างไรก็ตามพระองค์ไม่เคยต้องการให้ฉินเฟิงกลายเป็นไท่เป่าหลินคนที่สอง หลีกเลี่ยงไม่ให้ควบคุมไม่ได้ในภายหลัง

ฉินเฟิงรู้จักวิธีจัดการสิ่งต่าง ๆ ของฮ่องเต้ต้าเหลียงเป็นอย่างดี ดังนั้นเมื่อต้องเผชิญกับคำพูดของจางซิวเย่ ชายหนุ่มจึงดูผ่อนคลายอย่างมาก

“กองทัพซางกานอยู่แนวหน้า ไม่มีความตั้งใจจะถอยทัพ จุดสำคัญที่สุดคือเฉินซือแม่ทัพผู้โด่งดังของเป่ยตี๋มาถึงแนวหน้าแล้ว ตามที่คาดไว้ สงครามครั้งใหญ่จะปะทุขึ้นในช่วงเก็บเกี่ยวของฤดูใบไม้ร่วง การต่อสู้ครั้งนี้ น่าจะเกี่ยวข้องกับชะตากรรมของแคว้นอย่างมาก”

เมื่อได้ยินดังนั้น จางซิ่วเย่ก็หรี่ตาลง “ฉินสือฮู่แน่ใจขนาดนั้นเชียวหรือ?”

ฉินเฟิงไม่ลังเล เอ่ยอย่างเด็ดขาดว่า “แก่นแท้กลยุทธ์ของเป่ยตี๋ไม่เคยเปลี่ยนแปลง จุดประสงค์คือการฉีกขอบแดนต้าเหลียงออก ตราบใดแนวป้องกันชายแดนพังทลาย เป่ยตี๋ก็จะสามารถค่อย ๆ รุกล้ำเข้ามาในดินแดนต้าเหลียงได้ เมื่อพลาดโอกาสรบในฤดูใบไม้ร่วงไปและอากาศเริ่มหนาว เมื่อนั้นจะเกิดปัญหาในการจัดหาเสบียงในเป่ยตี๋ อย่างน้อยสี่ถึงหกเดือนจะไม่สามารถบุกต้าเหลียงได้”

“และช่วงเวลานี้ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้อำเภอเป่ยซีกลายเป็นป้อมปราการแนวหน้าที่มิอาจสั่นคลอน”

บทที่ 423 คลื่นใต้น้ำ 1

Verify captcha to read the content.ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ