บทที่ 426 ศึกสุดท้ายกำลังจะมา
ในพระราชวังต้องห้าม การประชุมราชสำนักเริ่มขึ้นในตำหนักใหญ่ ขุนนางบุ๋นบู๊รวมตัวกัน
เกี่ยวกับความเปลี่ยนแปลงล่าสุดในเมืองหลวง ทุกคนพอจะได้ยินมาบ้างและเข้าใจโดยธรรมชาติว่าท้องฟ้าเหนือราชสำนักเปลี่ยนไปแล้ว
ครั้งอดีต ต้องมีรับสั่งของฮ่องเต้ ฉินเฟิงถึงจะเข้าเฝ้าได้
แต่วันนี้ฉินเฟิงเข้าประชุมราชสำนักพร้อมขุนนางบุ๋นบู๊ อีกทั้งยังยืนอยู่ข้างฉินเทียนหู่ แม้เขาจะยศเล็กแค่สือฮู่ แต่สถานะก็อยู่ในระดับเดียวกับเสนาบดี
จางซิวเย่ถือคำสั่งของฮ่องเต้ไว้ในมือ ประกาศเสียงดัง “ด้วยโองการแห่งฟ้า ฮ่องเต้มีพระบัญชา ฉินเฟิงปราบกบฏชายแดนเหนือ กวาดล้างกบฏในอำเภอผิงหนาน สังหารผู้นำกบฏหวงเฉิง รักษาชายแดน เอาชนะกองทัพเป่ยตี๋ ส่งเสริมอำนาจแคว้น สร้างผลงานยิ่งใหญ่ พระราชทานยศเชียนฮู่ และหนึ่งหมื่นตำลึงเงินเป็นรางวัลสำหรับการทำงานหนัก หวังว่าผู้มีความรู้ทุกคนในต้าเหลียงจะมีฉินเฟิงเป็นแบบอย่าง สร้างความดีความชอบให้แก่ต้าเหลียง”
“ฉินเทียนหู่อบรมบุตรชายอย่างดี พระราชทานรางวัลเป็นเงินหนึ่งพันตำลึงทองและผ้าแพรร้อยพับ”
รางวัลใหญ่นี้เป็นสิ่งที่ทุกคนคาดคิดและสมเหตุสมผล แต่บรรยากาศในท้องพระโรงกลับอึมครึม เนื่องจากทุกคนรู้ดีว่ารางวัลของฮ่องเต้ไม่ใช่รางวัลจากใจจริงแต่เป็นการปลอบใจอย่างช่วยไม่ได้
ส่วนเรื่องการสกัดกั้นองครักษ์ชุดดำและผู้ส่งสารเมื่อวาน รวมถึงเรื่องตระกูลฉินย้ายไปอำเภอเป่ยซี กระทั่งเรื่องความขุ่นเคืองระหว่างองค์ชายหกกับตระกูลเซี่ย ล้วนไม่ได้กล่าวออกมาแม้แต่คำเดียว
ฮ่องเต้ต้าเหลียงคล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม ท่าทีที่มีต่อฉินเฟิงเปลี่ยนไปมาก “ต้าเหลียงมีขุนนางที่มีคุณธรรมเช่นฉินเชียนฮู่ นับเป็นโชค เจิ้นยินดีเป็นอย่างยิ่ง เดิมทีควรจัดงานเลี้ยงเฉลิมฉลองความสำเร็จของฉินเชียนฮู่ แต่การเก็บเกี่ยวในฤดูใบไม้ร่วงกำลังใกล้เข้ามา กองทัพเป่ยตี๋ก็พร้อมเคลื่อนไหวทุกเมื่อ ราชกิจควรมีความสำคัญเป็นอันดับแรก”
“ไม่รู้ว่าฉินเชียนฮู่มีความคิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับสงครามที่กำลังจะเกิดขึ้น?”
ชั่วขณะหนึ่ง ทุกสายตาในท้องพระโรงจับจ้องไปที่ฉินเฟิง แม้แต่ไท่เป่าหลินก็ยังเหลือบตามอง
ขุนนางบุ๋นบู๊ในราชสำนักรู้ดีว่าอำนาจของสงครามแคว้นครั้งนี้กำอยู่ในมือของพ่อลูกตระกูลฉินอย่างแน่นหนา แม้แต่ฮ่องเต้ต้าเหลียงก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะพูด
แม้พ่อลูกตระกูลฉินจะมีอำนาจมาก อีกทั้งยังสัมผัสกับเกล็ดย้อนของฮ่องเต้ต้าเหลียง แต่จะทำอะไรพวกเขาได้เล่า? ในราชสำนักทั้งคู่ได้รับการสนับสนุนจากฝ่ายสนับสนุนสงครามและพลพรรคเถาหลิน นอกราชสำนักมีอำเภอเป่ยซีคุ้มครอง ตอนนี้ทั้งภายในและภายนอกราชสำนักไม่มีใครแตะต้องพ่อลูกตระกูลฉินได้
อย่างน้อยก็ดูเป็นเช่นนั้น
แม้สถานการณ์วันนี้จะไม่ใช่ความตั้งใจเดิมของฉินเฟิง แต่เนื่องจากเขาถูกบังคับให้มาถึงจุดนี้ ฉินเฟิงจึงทำได้แค่ก้าวไปข้างหน้าอย่างองอาจเท่านั้น ท้ายที่สุดแล้วตอนนี้ตระกูลฉินก็ไม่มีทางเลือกให้ถอยหลัง มิเช่นนั้นก็จะต้องกระดูกแหลกสลาย!
เมื่อทบทวนจนแน่ใจแล้ว ยามเผชิญหน้ากับการไต่สวนของฮ่องเต้ต้าเหลียง ฉินเฟิงจึงรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้นกว่าที่เคย “นับตั้งแต่การเผชิญหน้าระหว่างทั้งสองแคว้น ไม่เพียงแต่ต้าเหลียงของเราที่กำลังคนและกำลังทรัพย์สูญเปล่า คิดว่ากำลังทรัพย์ของเป่ยตี๋ก็ลดลงเช่นกัน คาดว่าเป่ยตี๋คงไม่มีกำลังพอที่จะฝืนต่อไปแล้ว ไม่มีทางละทิ้งโอกาสช่วงเก็บเกี่ยวในฤดูใบไม้ร่วงนี้ อีกฝ่ายจะต้องทุ่มเทกำลังทั้งหมดเป็นแน่”
“สิ่งที่เรียกว่ายุทธวิธีนั้นไม่มีอะไรมากไปกว่าความเป็นไปได้สองประการ”
“ประการแรก ส่งกองทัพขนาดใหญ่ โจมตีเต็มกำลัง ปล้นเสบียง ใช้สงครามหล่อเลี้ยงสงคราม”
“ประการที่สอง แน่นอนว่าต้องรวบรวมกองกำลังที่เหนือกว่า โจมตีอำเภอเป่ยซีด้วยกำลังทั้งหมด กำจัดแนวหน้าที่สำคัญออก บุกทะลวงแนวป้องกันชายแดนต้าเหลียงในจุดหนึ่ง”
“ประการแรกคือการเตรียมพร้อมสำหรับการเผชิญหน้าทางทหารในระยะยาว ประการสองคือการหาโอกาสบุกต้าเหลียง เมื่อพิจารณาจากสถานการณ์ เป่ยตี๋มีแนวโน้มมากที่จะใช้กลยุทธ์อย่างหลัง เหตุผลก็เดาได้ไม่ยาก สุดท้ายแล้วหากเผชิญหน้าระยะยาว เมืองชายแดนที่สำคัญของต้าเหลียงจะยิ่งสมบูรณ์แบบมากขึ้น เวลาฟ้าดินไม่เอื้ออำนวยให้เป่ยตี๋”
เมื่อเผชิญกับการวิเคราะห์ที่มีข้อมูลสนับสนุนอย่างดีของฉินเฟิง ขุนนางในราชสำนักก็พยักหน้าเห็นด้วย
แม้ตอนนี้ฮ่องเต้ต้าเหลียงจะเกลียดฉินเฟิงอย่างสุดซึ้ง แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเด็กคนนี้เป็นอัจฉริยะด้านการทหารที่หาตัวจับได้ยาก
ฮ่องเต้ต้าเหลียงครุ่นคิดก่อนจะตรัสถามว่า “ถ้าเราเตรียมพร้อมอย่างเต็มที่สำหรับศึกสุดท้ายกับเป่ยตี๋ แต่เป่ยตี๋เปลี่ยนยุทธวิธีกะทันหันจะรับมืออย่างไร?”
ฉินเฟิงยักไหล่ พูดอย่างไม่ใส่ใจนัก “อยากจะเปลี่ยนก็เปลี่ยน! พิจารณาจากสถานการณ์ปัจจุบันแล้ว กลยุทธ์ใดล้วนไร้ความหมาย มีเพียงสองกองทัพจัดกำลังพลทหาร เผชิญหน้าตรง ๆ เพื่อเอาชนะอีกฝ่ายจึงจะบรรลุชัยชนะอย่างเด็ดขาด”



ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ