บทที่ 445 พันธมิตรการค้า
“ฉินเชียนฮู่การสอบขุนนางเป็นเรื่องสำคัญของแคว้น สิ่งต้องห้ามที่สุดคือการเล่นพรรคเล่นพวกและการทุจริต ฮ่องเต้จะทรงเห็นด้วยกับเรื่องนี้ได้อย่างไร?”
“ถูกต้อง เจ้าคงกำลังพยายามหลอกล่อให้เรางับเหยื่อ พอจบเรื่องก็คงถีบหัวส่งเช่นเคยกระมัง”
พ่อค้าหลายคนในที่ประชุมค่อนข้างสนใจเงื่อนไขที่ฉินเฟิงเสนอ แต่ในใจพวกเขาก็ยังคงมีความกลัว ท้ายที่สุดแล้ว เมื่อเคยถูกงูกัดครั้งหนึ่งย่อมกลัวเชือกบ่อน้ำไปสิบปี
ในแวดวงผู้มีอำนาจในเมืองหลวง ใครจะไม่รู้ว่าฉินเฟิงไม่ใช่คนใจดี?
เหล่าบุตรหลานผู้สูงศักดิ์ที่อยู่ด้านข้างพากันด่าทอ
“พวกเจ้าพอแผลหายแล้วก็ลืมความเจ็บปวดกันหมด!”
“คำพูดของฉินเฟิง ไม่น่าเชื่อถือเลยสักนิด!”
“ทุกคนรู้ดีว่าฉินเฟิงร้ายกาจเพียงใด ใครก็ตามที่ตกหลุมพรางย่อมถูกกลืนกินและถูกกำจัด อย่าได้ยอมสูญเสียทรัพย์สินของตระกูลเพียงเพราะเห็นแก่กำไร!”
เมื่อต้องเผชิญกับข้อสงสัยของพวกพ่อค้าและการปฏิเสธของบรรดาบุตรหลานผู้ดี ฉินเฟิงยังคงสงบ ท้ายที่สุดแล้วตั้งแต่เขาตัดสินใจยืนเคียงข้างชาวบ้าน เขาก็ได้เตรียมใจพร้อมแล้วว่าต้องเป็นศัตรูกับฝ่ายผู้มีอำนาจ
แต่ตอนนี้ก็คือตอนนี้ ในเมื่อต้องการขอความช่วยเหลือจากผู้มีอุดมการณ์สูงส่งจากทุกสาขาอาชีพ ย่อมเผชิญกับการตั้งข้อสงสัยหรือกระทั่งการดูถูกเหยียดหยาม
ฉินเฟิงอธิบายทันที “ทุกคนเข้าใจข้าผิดแล้ว”
“ให้สิทธิในการพิจารณาก่อน หาใช่การรับเข้าราชการโดยตรง”
“หากอยากรับราชการก็ต้องขยันหมั่นเพียร หากมีผลคะแนนดีเลิศ ผ่านการแข่งขันกับผู้เข้าสอบคนอื่นได้ ก็สามารถใช้สิทธิในการเข้าพิจารณาก่อนได้ นี่เป็นสิทธิพิเศษสำหรับผู้มีความชอบ ไม่มีสิ่งใดไม่เหมาะสม ข้าเชื่อว่าผู้เข้าสอบทุกคนเองก็สามารถเข้าใจได้”
“นอกจากนี้ พ่อค้าทุกคนที่สนับสนุนการเก็บเกี่ยวในฤดูใบไม้ผลิจะถูกบันทึกรายชื่อไว้ ตราบใดที่ทำกิจการอย่างจริงจัง ไม่ทำร้ายผู้คน ย่อมอยู่ใต้ปีกของกิจการร้านค้าตระกูลฉินของข้า ภายใต้เงื่อนไขการช่วยเหลือกันและกัน ข้าจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับกิจการพวกท่าน เมื่อเทียบกับสมาคมการค้า กิจการร้านค้าสกุลฉินของข้าให้แค่ด้านความคุ้มครองเท่านั้น”
“หลังจากสงครามแห่งแคว้นสิ้นสุดลง ไม่ว่าแพ้หรือชนะ เส้นทางการค้าระหว่างแคว้นข้างเคียงของพวกเราจะเปิดขึ้นอีกครั้ง ถึงตอนนั้นก็จะสามารถจัดหาช่องทางการค้าให้กับทุกท่านได้”
ฉินเฟิงโยนผลประโยชน์มหาศาลสองอย่างออกมา พ่อค้าในที่ประชุมฉลาดพอจะตระหนักถึงโอกาสทางการค้าได้ทันที เมื่อเทียบกับสิทธิพิเศษในการสอบขุนนาง ผลประโยชน์ประการที่สอง ถือเป็นผลประโยชน์ที่แท้จริง!
ใต้หล้านี้ใครไม่รู้บ้างว่าตระกูลฉินทรงอำนาจเหนือราชสำนัก? ควบคุมฝ่ายสงครามนิยมและพรรคเถาหลิน นอกจากนี้ ฉินเทียนหู่เสนาบดีกรมกลาโหมยังดำรงตำแหน่งขุนนางดูแลการสงครามอย่างมั่นคง ขณะที่ทูตพิเศษดูแลการสงครามและยศเชียนฮู่เป็นฉินเฟิงที่ได้ครอบครอง ตำแหน่งขุนนางไม่ด้อยไปกว่าไท่เป่าในรัชสมัยนี้
ส่วนในแวดวงการค้า ปัจจุบันตระกูลฉินเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมน้ำตาลอย่างไม่ต้องสงสัย แม้จะขายสิทธิ์การจัดจำหน่ายไปแล้ว แต่ตราบใดที่ยังควบคุมแหล่งผลผลิต ตำแหน่งของพวกเขาย่อมไม่มีวันสั่นคลอน
ประกอบกับ ‘ลูกกวาด’ ที่ดังไปทุกหนแห่งยามนี้ ลองถามพ่อค้าในแวดวงต่าง ๆ ดูเถอะว่ามีใครไม่อิจฉาตาร้อนบ้าง?
นอกจากนี้ ร้านค้าธัญพืชตระกูลฉินยังขยายไปเหนือจรดใต้ ซื้อขายในราคาเป็นธรรม สิ่งนี้ส่งผลกระทบอย่างมากต่ออุตสาหกรรมธัญพืชในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วต้าเหลียง นับตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันหาได้ยากยิ่ง
ด้านการผลิตอาวุธก็แบ่งอำนาจกับกรมโยธา เนื่องจากโรงฝีมือค่ายเทียนจีผลิตอาวุธและชุดเกราะชั้นยอดจำนวนมาก ความต้องการวัตถุดิบ แร่ และทรัพยากรอื่น ๆ ก็สูงจนน่ากลัวอย่างยิ่งเช่นกัน
อีกทั้งไม่นานมานี้มีข่าวลือว่าค่ายเทียนจีและแคว้นที่ราบสูงได้จัดตั้งพันธมิตรทางการค้าแล้ว แม้เส้นทางการค้าจะถูกปิดชั่วคราวเนื่องจากสงครามในแนวหน้า แต่ทุกคนก็รู้ดีว่าตราบใดสงครามสิ้นสุดลง ค่ายเทียนจีย่อมสามารถยืมกำลังของแคว้นที่ราบสูงขยายกิจการไปยังทุกแคว้นได้
พ่อค้าจากทุกสาขาอาชีพไม่มัวอิจฉาตาร้อนอีกต่อไป พวกเขาเงยหน้าขึ้นมองนายน้อยเจ้าสำราญ
ตอนนี้ฉินเฟิงเปิดโอกาสให้ทุกคนเข้าร่วมโลกการค้าขนาดใหญ่ของตระกูลฉิน ใครก็ตามที่สามารถคว้าโอกาสนี้ไว้ได้ ก็สามารถพึ่งพาอำนาจของตระกูลฉินและประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ได้



ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ