บทที่ 455 ทะลวงค่ายศัตรู
แม่ทัพเฝ้าประตูถูกยิงเข้าที่ไหล่ซ้าย ทั้ง ๆ ที่มีเกราะป้องกันแต่ก็ยังถูกลูกธนูแทงทะลุจนเลือดอาบย้อม
แม่ทัพเฝ้าประตูหักลูกธนูลงครึ่งหนึ่ง มือถือขวานด้ามยาว จ้องไปที่หนิงหู่แล้วคำราม “แม่ทัพฝ่ายศัตรู กล้าต่อสู้ตัวต่อตัวกับข้าหรือไม่!”
หนิงหู่ไม่สนใจอีกฝ่าย
แม่ทัพเฝ้าประตูคนนั้นก็แค่อยากสู้จนตัวตาย แม้ว่าหนิงหู่จะค่อนข้างมั่นใจในศิลปะการต่อสู้ของตนเอง แต่เขาก็จะไม่ให้โอกาสกองพลศัตรูแม้แต่น้อย ประการแรก ศึกครั้งนี้จะต้องรีบสู้รีบจบไม่อาจยืดยื้อ มิฉะนั้น ไม่ว่าทหารม้าจะกลับเข้าสู่แนวป้องกันหรือทหารยามจะตั้งหลักได้ แต่ก็เพียงพอแล้วที่จะเปิดช่องโหว่ให้ทหารค่ายเทียนจีพ่ายแพ้ย่อยยับ!
นอกจากนี้…
แม่ทัพเฝ้าประตูผู้นั้นถือขวานด้ามยาว จักต้องมีความแข็งแกร่งทางร่างกายเหนือคน เกราะบนตัวของหนิงหู่ หากโดนขวานด้ามยาวที่มีความสามารถในการทำลายเกราะที่น่าทึ่ง หากไม่ตายก็คงเจ็บหนัก
ในสนามรบ ไม่มีที่ว่างสำหรับการเล่นสนุก!
เมื่อเห็นว่าหนิงหู่ไม่กล้าต่อสู้ แม่ทัพเฝ้าประตูก็ตะโกนเสียงดัง “เจ้าและทหารต้าเหลียงต่างก็เป็นพวกชาติหนูไร้ศักดิ์ศรี!”
หลังจากด่าจบ ลูกธนูก็ถูกยิงออกไปอีกหนึ่งดอก แม่ทัพเฝ้าประตูผู้นั้นถูกยิงจนเสียชีวิตคาที่
แม้แต่แม่ทัพเฝ้าประตูก็ยังสิ้นชีพ ทหารยามที่อยู่รอบ ๆ พลันตกอยู่ในความสับสนวุ่นวายทันที มีทหารยามเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่โจมตีทหารค่ายเทียนจี ทหารส่วนใหญ่หากไม่ซ่อนตัวอยู่ข้างหลังก็หนีสงคราม แม้ว่าค่ายจะถูกยึด หรือท้องฟ้าจะถล่มลงมาก็ไม่สามารถห้ามพวกเขาไว้ได้
ช่วงขณะนี้เอง ทหารค่ายเทียนจีที่อยู่หลังค่ายก็พุ่งเข้าสังหารเช่นกัน
แม้จะมีทหารยามสามร้อยนาย แต่เนื่องจากสถานการณ์ที่วุ่นวาย ประกอบกับทหารยามถูกขนาบโจมตีจึงไม่อาจบอกได้อย่างชัดเจนว่าศัตรูมีกองกำลังกี่มากน้อย
ตอนนั้นเอง ไม่รู้ว่าใครเป็นคนตะโกนขึ้นมา “ศัตรูมีมากกว่า เราสู้ไม่ได้แล้ว”
เสียงร้องครวญครางนี้กลายเป็นฟางเส้นสุดท้ายที่ทับหลังอูฐตาย กองกำลังกระจัดกระจายจากหนึ่งไปสิบ สิบไปถึงร้อย กองทหารยามในค่ายแตกพ่ายออกไป
หนิงหู่นำทหารค่ายเทียนจีเดินตรงเข้าไป จุดไฟเผายุ้งฉาง
แค่เสบียงที่เก็บไว้ในค่ายนี้ก็เพียงพอจะเลี้ยงกองทัพห้าหมื่นนายในแนวหน้าเป็นเวลาสิบวันแล้ว
นอกจากเสบียงก็ยังมีสัมภาระในค่ายอีกจำนวนมาก
แสงเพลิงสว่างพร่างพราย ทั่วเขตสงครามสามารถมองเห็นได้
“ถอย!”
หลังจากยืนยันว่าไฟได้ลุกไหม้แล้ว หนิงหู่ก็ตัดสินใจพาทหารค่ายเทียนจีถอนตัวจากการต่อสู้ทันที
แล้วหลบหนีไปในม่านราตรีอย่างรวดเร็ว
เฉินซือที่อยู่ในค่ายแนวหน้า มองไปยังแสงไฟด้านหลังด้วยสายตาเคร่งขรึมอย่างยิ่ง “แนวหลังเกิดเพลิงไหม้! ศัตรูที่สามารถผ่านการขัดขวางจากกองทัพแนวหน้าและหน่วยนกฮูกราตรีไปจนถึงแนวหลังได้ มีเพียงทหารของค่ายเทียนจีเท่านั้น”
รองแม่ทัพที่อยู่ข้าง ๆ เคยสัมผัสกับความร้ายกาจของทหารค่ายเทียนจีมาหลายครั้ง จึงเอ่ยแนะนำอย่างรวดเร็ว “ท่านแม่ทัพ เราควรส่งกองกำลังไปล้อมปราบปรามทันที!”
เฉินซือโบกมือ สีหน้าดูอ่อนแรงเล็กน้อย “ไม่จำเป็น ถ่ายทอดคำสั่งของข้า แจ้งทุกค่ายรักษาความปลอดภัยให้แน่นหนา หลีกเลี่ยงการถูกทหารค่ายเทียนจีลอบโจมตีอีก นอกจากนี้ ให้ตรวจสอบว่าเสบียงเสียหายมากน้อยเพียงใด เช่นนี้จึงจะสามารถวางแผนล่วงหน้าได้”
รองแม่ทัพรับคำสั่งและจากไปทันที เฉินซือแอบถอนหายใจอยู่คนเดียว
ทหารค่ายเทียนจี ช่างน่าปวดหัวยิ่งนัก
แม้จะมีเพียงสามร้อยนาย แต่พลังการต่อสู้แสนทรงอานุภาพ เรียกได้ว่าเป็นยอดทหารราบ มีเพียงทหารม้าเท่านั้นที่สามารถสยบได้ แต่หากส่งทหารม้ากลุ่มเล็กไปก็มีแนวโน้มที่จะโดนทหารค่ายเทียนจีตอบโต้สูง ทว่าหากระดมทหารม้ากลุ่มใหญ่ก็ไม่อาจเป็นไปได้ ตอนนี้สงครามในแนวหน้าตึงเครียด จะมีกำลังเหลือมาล้อมทหารค่ายเทียนจีได้อย่างไร



ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ