บทที่ 456 เชียนฮู่มาแล้ว
สวีโม่นำทหารม้าเกราะเบาไปรับฉินเฟิงแต่เช้า ในขณะที่คนอื่น ๆ กำลังรออย่างกระตือรือร้นอยู่บนกำแพงเมือง ชาวบ้านในเมืองต่างหลั่งไหลมาตามถนน ด้วยหวังว่าจะมีโอกาสได้พบฉินเฟิงสักครา
หญิงสาวคนหนึ่งพร้อมลูกชายวัยเจ็ดแปดขวบยืนอยู่ใกล้กับกำแพงเมือง จ้องมองไปทางเข้าอย่างคาดหวัง คิดอยากจะขอบคุณฉินเฟิงด้วยตนเอง
ท้ายที่สุดแล้วผู้คนมากกว่าครึ่งในเมืองนี้ก็เป็นผู้ประสบภัยอดอยากที่หนีมาพึ่งพิง และสำหรับผู้คนในอำเภอเป่ยซี บุญคุณของฉินเฟิงก็เหมือนกับการให้ชีวิตใหม่
“ท่านแม่ ฉินเชียนฮู่คือใครหรือขอรับ?”
เด็กชายเอียงศีรษะ ไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับความสำคัญของการมาถึงของฉินเฟิง
สตรีนางนั้นตื่นเต้นมาก นางไม่ได้ตอบ แต่ถามกลับว่า “ลูกรู้จักหลินฉวีฉีหรือไม่?”
เด็กชายพยักหน้ารับ “แน่นอนว่าข้ารู้ เขาเป็นใต้เท้านายอำเภอ เป็นขุนนางผู้ปกครองของเรา”
มุมปากของหญิงสาวยกขึ้นเล็กน้อย ดวงตาของนางร้อนแรงเป็นอย่างยิ่ง “ฉินเชียนฮู่เป็นหัวหน้าของนายอำเภอ เป็นนายน้อยที่แท้จริงของอำเภอเป่ยซี และเพราะฉินเชียนฮู่เราถึงได้กินอิ่มนอนอุ่น เจ้าไม่ได้ชื่นชอบทหารค่ายเทียนจีที่สุดหรอกหรือ ทหารค่ายเทียนจีล้วนได้รับการฝึกฝนโดยฉินเชียนฮู่”
ตอนแรก เด็กชายสับสนงุนงงและไม่ได้ตื่นเต้นมากนัก แต่เมื่อรู้ว่าทหารของค่ายเทียนจี เป็นฉินเฟิงฝึกฝน เด็กน้อยก็กระโดดขึ้นมาด้วยความตื่นเต้นทันที
“โอ้! ท่านแม่ ถ้าได้พบฉินเชียนฮู่แล้ว ท่านต้องบอกเขาว่าหากข้าโตขึ้น ข้าก็จะเป็นทหารค่ายเทียนจีนะขอรับ”
สตรีนางนั้นลูบศีรษะบุตรชายแสนรักแล้วยิ้มอย่างอ่อนโยน “ฉินเชียนฮู่สูงศักดิ์ปานนั้น พวกเราทำได้แค่มองดูได้จากไกล ๆ มิอาจเข้าใกล้ แต่ตราบใดที่เจ้าเชื่อฟัง ไปร่ำเรียนวิชาความรู้ที่สำนักศึกษา ไม่หนีไปเที่ยวเล่นสนุกอีก พอเจ้าเติบใหญ่ ฉินเชียนฮู่ย่อมรับเจ้าเข้าทำงานเป็นธรรมดา”
เด็กชายพยักหน้าหงึก ๆ “ท่านแม่ ข้าจะเชื่อฟัง”
ในขณะนี้เอง เสียงไชโยโห่ร้องก็ดังมาจากเหนือกำแพงเมือง
สตรีนางนั้นรีบจูงมือเด็กชายไปที่ประตูเมือง แต่ก็ถูกทหารหยุดไว้ ดังนั้นนางจึงต้องยอมแพ้และยืนดูอยู่ที่เดิม
ช่วงเวลาเดียวกัน ประตูเมืองที่ปิดแน่นก็ค่อย ๆ เปิดออก
ภายใต้การคุ้มกันของสวีโม่ ฉินเฟิงนอนแผ่อยู่บนหลังม้า ถูกแบกอยู่บนหลังม้าราวกับเป็น ‘ตัวประกัน’
เสียงโห่ร้องยินดีหยุดลงกะทันหัน ทุกคนมองไปยังนายน้อยฉิน ผู้มีท่าทีหมดเรี่ยวหมดแรงด้วยสายตาว่างเปล่า
“นี่… นี่คือฉินเชียนฮู่รึ?!”
กองทหารที่ยืนอยู่บนกำแพงเมืองเกณฑ์มาจากผู้ประสบภัยอดอยาก พวกเขาเฝ้ารอคอยนับวันเวลา อยากเห็นผู้มีพระคุณอันยิ่งใหญ่ของพวกเขา โดยเฉพาะหลังจากได้รับรู้ถึงผลงานความสำเร็จอันยิ่งใหญ่นับไม่ถ้วนของฉินเฟิง พวกเขาก็กระตือรือร้นที่จะได้ยลโฉมหน้า
และในที่สุดพวกเขาก็เห็นตัวจริง ทว่าอีกฝ่ายกลับกลายเป็นคนไร้ความสามารถที่นอนแผ่อยู่บนหลังม้าเหมือนกองโคลน ภาพอันงดงามในใจพวกเขาพลันพังทลายลง
ทุกคนที่ไม่เคยเห็นฉินเฟิง ในใจล้วนรู้สึกแบบเดียวกัน ชั่วขณะหนึ่ง กำแพงเมืองชั้นนอกเต็มไปด้วยเสียงพูดคุยกันอย่างดุเดือด
“เหตุใดฉินเชียนฮู่ในตำนานจึงมีหน้าตาเช่นนี้เล่า?”
“นั่นน่ะสิ! ข้าคิดว่าฉินเชียนฮู่ต้องสวมชุดเกราะ ห้อตะบึงอาชาพันลี้ล้ำค่า รูปลักษณ์สง่าผ่าเผย แต่…กลับกลายเป็นคนไร้ความสามารถ? ขนาดนั่งก็ยังไม่อาจนั่งดี ๆ ได้”
“หรือว่า ความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของฉินเชียนฮู่ล้วนเป็นเพียงการอวดอ้างเท่านั้น”
บรรดาทหารใหม่ต่างงุนงง รีบถามไถ่กลุ่มทหารผ่านศึกอย่างรวดเร็ว
ทหารผ่านสึกเชิดหน้าขึ้น ใบหน้าฉาบฉายไปด้วยความภาคภูมิใจ “ไม่ต้องสงสัย คนที่ดูเหมือนพวกเอ้อระเหยลอยชายผู้นี้คือฉินเชียนฮู่จริงแท้แน่นอน”
หลังจากได้รับคำยืนยัน เหล่าทหารใหม่ก็ยิ่งสับสนงุนงง


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ