เข้าสู่ระบบผ่าน

บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ นิยาย บท 457

บทที่ 457 พุ่งเข้าสู่แนวรบ

“ส่วนการสงครามสามครั้งแพ้สามครั้งก็สมเหตุสมผล เฉินซือผู้นั้นเชี่ยวชาญการศึก ทั้งยังเป็นทหารผ่านศึกในการรบหลายร้อยครั้ง แม้ซื่อจื่อจะเชี่ยวชาญศาสตร์แห่งสงคราม แต่นี่เป็นการต่อสู้ครั้งแรก ผลลัพธ์นี้นับว่าไม่เลวแล้ว นอกจากนี้ การโจมตีแนวรบด้านตะวันออกเป็นข้าที่ออกคำสั่ง ถ้าจะให้ใครรับผิดชอบก็ควรเป็นข้า ไม่สามารถตำหนิไปถึงเจ้าได้”

หลี่จางยังคงก้มหน้า เอ่ยด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “เจ้าไม่จำเป็นต้องพูดคำพูดดี ๆ เพื่อปลอบใจข้า แพ้ก็คือแพ้ ข้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเฉินซือจริง ๆ”

ฉินเฟิงตบไหล่หลี่จางแล้วเอ่ยให้กำลังใจ “ตอนนี้สู้ไม่ได้ ไม่ได้หมายความต่อไปก็จะสู้ไม่ได้ ประสบการณ์การต่อสู้จริงจะต้องสะสมไปช้า ๆ อำนาจทางทหารยังคงอยู่ที่เจ้า ในตอนที่ข้าไม่ได้อยู่ที่อำเภอเป่ยซี เมืองทั้งเมืองอยู่ในมือของเจ้า”

หลังพูดกับพลี่จางแล้ว ฉินเฟิงก็หันกลับไปทักทายหมิงอ๋องพร้อมรอยยิ้ม “คารวะหมิงอ๋อง!”

หมิงอ๋องโบกมือ “ระหว่างข้ากับเจ้า ไม่ต้องมากพิธี ข้าแค่มาร่วมสนุกดูเด็กน้อยอย่างพวกเจ้า ตอนนี้สงครามคือเรื่องสำคัญที่สุด คิดซะว่าข้าไม่ได้อยู่ตรงนี้ก็ได้”

ถึงจะกล่าวเช่นนี้ ฉินเฟิงก็ยังคงเคารพหมิงอ๋อง

หากหมิงอ๋องไม่ย้ายมาอยู่อำเภอเป่ยซี อยากจะประสานกองทัพทั้งสามทางชายแดนเหนือ คงไม่ต่างอะไรจากการคิดเพ้อฝัน สถานการณ์อาจจะร้ายแรงกว่าที่เป็นอยู่หลายเท่า

ฉินเฟิงหันไปมองทหารที่อยู่ตรงนั้น น้ำเสียงของเขาดูผ่อนคลายมาก “เมื่อข้ามาที่นี่ ข้าได้ลาดตระเวนทางด้านหลังแล้ว ผู้คนกำลังเริ่มขนส่งอาหารไปยังเขตสงคราม เขตสงครามได้รับการคุ้มกันโดยคนห้าคน ทหารหลายพันนายและม้าของนายพลและทหารม้า นอกจากนี้ เป่ยตี๋ยังอยู่ลึกเกินกว่าจะโจมตีได้”

“เราเพียงแต่ต้องตรึงกองทัพเป่ยตี๋ไว้ที่ทางตอนเหนือของอำเภอเป่ยซี ศึกครั้งนี้ต้องชนะ!”

“ส่วนเฉินซือผู้นั้นก็แค่คนป่าเถื่อนที่ร่างพิการแล้ว ไม่มีค่าให้พูดถึง!”

ฉินเฟิงเคารพเฉินซือจากก้นบึ้งของหัวใจ แต่ปากกลับต้องกล่าวด้อยค่าอีกฝ่ายเพื่อเพิ่มขวัญกำลังใจของกองทัพ ทำให้เหล่าทหารมีจิตฮึกเฮิมขึ้นมา มีความกล้าที่จะเผชิญกับสงครามครั้งต่อไป

ถ้าคำพูดเหล่านี้ออกมาจากปากของคนอื่น เหล่าทหารคงจะไม่สนใจ

แต่เมื่อออกมาจากปากของฉินเฟิงก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

ทหารในที่เกิดเหตุต่างกำหมัดแน่น เลือดพลุ่งพล่าน บางคนถึงกับเริ่มตะโกนเสียงดัง

“ฉินเชียนฮู่ ท่านมั่นใจจริง ๆ หรือว่าสามารถเอาชนะเฉินซือได้”

ทันทีที่สิ้นประโยคก็ดึงดูดสายตาโกรธแค้นนับไม่ถ้วนได้ทันที

กระทั่งสวีโม่ก็เกือบจะชักดาบไปบั่นคอคนที่ตะโกนเช่นนั้นแล้ว

อะไรคือการถามว่ามั่นใจหรือไม่? เกรงว่าต้องการทำให้ขวัญกำลังใจของกองทัพสั่นคลอน!

ฉินเฟิงยื่นมือออกไปหยุดสวีโม่ แล้วหันไปยิ้มให้กับทหารรักษาการณ์บนกำแพงเมือง เอ่ยพูดอย่างบ้าคลั่ง “เฉินซือ? เขานับเป็นตัวอันใด? ตอนนั้นถูกลูกธนูของทหารค่ายเทียนจียิงจนเกือบตาย หนีกลับไปรักษาที่เมืองหลวงเป่ยตี๋ ได้ยินมาว่าสูญเสียแขนไปหนึ่งข้าง ตอนที่เขายังสมประกอบก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของข้า นับประสาอะไรกับตอนที่เหลือแขนข้างเดียวเล่า?”

จู่ ๆ เสียงหัวเราะร่าเริงก็ดังขึ้นในที่เกิดเหตุ

ด้วยคำพูดหยอกล้อของฉินเฟิง เฉินซือผู้น่ากลัวก็ไม่นับว่ามีอะไรให้ต้องกลัวแล้ว

หลังจากปลอบใจทหาร ฉินเฟิงก็ยื่นมือออกไปดึงหลี่จางมาข้าง ๆ แล้วถามด้วยเสียงต่ำ “ทางด้านหนิงหู่ ไม่มีจดหมายมาเลยหรือ?”

หลี่จางพยักหน้า ก่อนจะส่ายหัวไปมา “การป้องกันในแนวรบด้านตะวันออกเหมือนกับถังเหล็ก อย่าว่าแต่หน่วยสอดแนมเลย แม้แต่องครักษ์เสื้อแพรก็ไม่สามารถเข้าไปได้ ไม่สามารถติดต่อกับหนิงหู่ได้เลย แต่ก่อนหน้านี้ ด้านหลังของเป่ยตี๋เกิดเพลิงไหม้ หน่วยสอดแนมที่อยู่ตามชายแดนเห็นแสงเพลิง ข้าคิดว่าต้องเป็นหนิงหู่แน่”

หลังจากยืนยันว่าหนิงหู่ยังมีชีวิตอยู่ ฉินเฟิงก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก

ในตอนที่ชายหนุ่มกำลังครุ่นคิดเกี่ยวกับวิธีช่วยเหลือหนิงหู่นั้นเอง ด้านหลังก็มีเสียงม้าพุ่งทะยานเข้ามา เป็นผู้ส่งสารที่ทั้งร่างเปื้อนไปด้วยเลือดรีบรุดหน้า ยังไม่ทันได้เข้ามาในประตูเมืองก็ตะโกนเสียงดัง “แย่แล้ว! เมืองสำคัญของกองทหารชายแดนแตกแล้ว กองทัพเป่ยตี๋บุกเข้าในเมืองแล้ว!”

บทที่ 457 พุ่งเข้าสู่แนวรบ 1

Verify captcha to read the content.ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ