บทที่ 47 ผู้มีอิทธิพลในอุตสาหกรรมน้ำตาล
จี้อ๋องชื่นชอบอาหารหวาน ทุกคนต่างรู้ ของขวัญชิ้นนี้ของฉินเฟิงถือว่ามอบให้ถูกคน
อีกอย่าง… แม้แต่คนโง่ยังรู้ว่า น้ำตาลทรายขาวของนายน้อยตระกูลฉินไม่ได้ด้อยไปกว่าของขวัญราคาแพงชิ้นอื่น ๆ เลย!
ตอนนี้พื้นที่การผลิตน้ำตาลอ้อยได้รับความเสียหาย ราคาเกล็ดน้ำตาลพุ่งไปถึงห้าตำลึงเงินต่อน้ำตาลหนักหนึ่งตำลึง อีกทั้งน้ำตาลทรายขาวก็ดีกว่าเกล็ดน้ำตาลมาก ไม่ว่าอย่างไรคงมีมูลค่าหลายร้อยตำลึงเงิน แค่กระสอบน้ำตาลทรายขาวที่ฉินเฟิงแบกมาวันนี้ก็หนักยี่สิบหรือสามสิบจินแล้ว นั่นย่อมมีค่าถึงหนึ่งหมื่นตำลึงเงินเชียวล่ะ!
ต่อให้จี้อ๋องจะชอบกินน้ำตาลแค่ไหน เขาก็ไม่สามารถกินน้ำตาลเป็นมื้ออาหารได้ น้ำตาลทรายขาวที่เหลือย่อมสร้างมูลค่าให้ไปโดยปริยาย
ฉินเฟิงไม่ต้องการอะไรมาก การส่งน้ำตาลหนึ่งร้อยจินต่อปีให้จี้อ๋องเทียบเท่ากับการส่งหลายหมื่นตำลึงเงินมาเพื่อสร้างสัมพันธ์ การกระทำเช่นนี้ แม้แต่ฮ่องเต้ก็ยังตำหนิไม่ได้ การให้น้ำตาลนับเป็นการทุจริตหรือ? แล้วอย่างนี้ จี้อ๋องจะไม่ชอบของขวัญจากนายน้อยตระกูลฉินได้อย่างไร?
หลี่รุ่ยเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน “เจ้าฉินเฟิงผู้นี้ ทำไมจู่ ๆ ถึงฉลาดขึ้นมานัก? สิ่งที่เขาให้คือน้ำตาลที่ไหนกัน? เห็นได้ชัดว่าตั้งใจส่งสัมพันธ์อันดีกับจี้อ๋อง!”
ฉินเทียนหู่เกลียดการติดสินบนมากที่สุดในชีวิต แต่การกระทำของบุตรชายทำให้เขาอดตกตะลึงไม่ได้ ฉินเฟิงไม่เพียงชนะใจจี้อ๋องเท่านั้น แต่ยังหลีกเลี่ยงการถูกครหาได้ด้วย เขาเป็นคนฉลาดและเที่ยงธรรมมาตลอดชีวิต ไยจึงให้กำเนิดบุตรชายที่มีศักยภาพของขุนนางกังฉินออกมาได้?
การส่งมอบน้ำตาลทรายขาวเป็นเพียงขั้นตอนแรก ขั้นตอนที่สองสำคัญที่สุด ฉินเฟิงหันกลับมาอย่างรวดเร็ว และตะโกนบอกทุกคนตรงนั้นว่า “ยังมีน้ำตาลทรายขาวอยู่ในจวนของข้า หากพวกเจ้าสนใจ สามารถติดต่อสอบถามพี่หญิงรองของข้า หลิ่วหงเหยียนได้ที่จวนฉิน เกล็ดน้ำตาลหนักหนึ่งตำลึงมีค่าห้าตำลึงเงิน ส่วนน้ำตาลทรายขาวนี้ หนึ่งจินมีค่าห้าร้อยตำลึงเงิน ไม่มากเกินไปใช่หรือไม่ ราคานี้ยุติธรรมแน่นอน ไม่มีหลอกลวง!”
หนึ่งจินมีค่าห้าร้อยตำลึงเงิน? แม้ใคร ๆ จะรู้ว่าน้ำตาลทรายขาวเป็นของดี แต่ราคาก็สูงเกินไปมาก
ตระกูลไหนจะสามารถซื้อความหรูหราฟุ่มเฟือยเช่นนี้ได้เล่า?
ฉินเฟิงต่ออีกประโยคทันที “เท่าที่ข้ารู้ พื้นที่การผลิตน้ำตาลอ้อยจะคัดเลือกเกล็ดน้ำตาลคุณภาพสูงจำนวนห้าร้อยจินส่งเข้าวังทุกปี คาดว่าพระราชวังคงใช้จนใกล้จะหมดแล้ว ไม่รู้ว่าปีนี้เขตการผลิตจะถวายเกล็ดน้ำตาลได้ตามเวลาหรือเปล่า แล้วก็ไม่รู้ด้วยว่าเมื่อใดฮ่องเต้จะได้เสวยน้ำตาลทรายขาวนี้…”
ดวงตาของทุกคนเป็นประกายทันที!
ตอนนี้ขนาดในวังก็ยังไม่มีน้ำตาลทรายขาว ถ้าส่งน้ำตาลทรายขาวเข้าวังก่อนได้ แม้ฮ่องเต้เพียงจดจำชื่อ ก็ถือเป็นความชอบใหญ่หลวงแล้ว
ผู้คนในงานเลี้ยงต่างสาวเท้าเข้ามาทีละคน
“นายน้อยฉิน จวนของเจ้ายังมีน้ำตาลอีกเท่าไหร่? มีถึงร้อยจินหรือไม่? ข้าขอจองก่อน!”
“ถอยออกไป ข้าต้องการห้าร้อยจิน!”
“แค่ห้าร้อยจิน เจ้าช่างกล้าเอ่ยปาก นายน้อยฉิน เจ้ามีน้ำตาลทรายขาวเท่าไหร่ ข้าเหมาทั้งหมด ต่อไปน้ำตาลทรายขาวที่ต้องใช้ในวัง ข้าจะเป็นคนจัดการเอง”
ฉินเฟิงไม่เคยกังวลเรื่องขายน้ำตาลทรายขาว แต่เขาไม่คิดมาก่อนว่าจะดุเดือดเพียงนี้ มุมปากของเขาแทบจะยกขึ้นสูงจรดฟ้า ชายหนุ่มโบกมืออย่างรวดเร็ว ส่งสัญญาณให้ทุกคนสงบสติอารมณ์
นายน้อยเจ้าสำราญกลั้นยิ้มสุดความสามารถ แต่ก็อดไม่ได้ที่จะเริงร่า “ไม่ต้องรีบร้อน ๆ วันนี้เป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพของจี้อ๋อง ควรฉลองวันเกิดกับท่านอ๋องก่อน เรื่องการซื้อน้ำตาลทรายขาว แค่ส่งบ่าวรับใช้ของพวกเจ้าไปติดต่อพี่หญิงรองของข้าเป็นใช้ได้”


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ