บทที่ 473 บันไดสู่หมอชื่อดัง
เมื่อเห็นใบหน้าของฉินเฟิงเต็มไปด้วยความลำพองใจ ทั้งยังโบกมือให้ชาวบ้านรอบตัวไม่หยุด หมอเฉินก็ยิ่งรู้สึกคันยิบ ๆ เพราะความเกลียดชัง เขาอยากรู้นักว่าเจ้าหมอนี่จะกระโดดไปมาได้นานสักแค่ไหน!
ก่อนที่ฉินเฟิงจะเข้าไปในโรงพยาบาล หมอเฉินก็ก้าวออกไปต้อนรับ เขายืนติดกับประตู ขวางฉินเฟิงไว้ แล้วเขาก็มองฉินเฟิงด้วยสายตาดูถูกเหยียดหยามเป็นอย่างยิ่ง “ช้าก่อนฉินเชียนฮู่!”
“โรงพยาบาลเป่ยซีมีหน้าที่ช่วยชีวิตคนและรักษาผู้บาดเจ็บ ไม่อนุญาตให้คนที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปด้านใน”
คนที่ไม่เกี่ยวข้องหรือ?
สถานที่ที่เดิมมีเสียงดังเงียบงันลงทันที ชาวบ้านที่รวมตัวกันอยู่รอบ ๆ มองหมอเฉินด้วยสายตาเหลือเชื่อ พวกเขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่าหมอเฉินจะกล้าใช้คำว่า ‘คนที่ไม่เกี่ยวข้อง’ จำกัดความฉินเฟิง
จักต้องรู้ว่าอำเภอเป่ยซีทั้งหมดถูกสร้างขึ้นด้วยน้ำมือของนายน้อยฉิน
หากกล่าวให้ดูเล็กน้อยนี่เป็นคำพูดที่ไร้มารยาท!
หากพูดให้ใหญ่ขึ้นก็คือ นี่เป็นการสลับแขกเป็นเจ้าบ้านชัด ๆ
ถึงจะรู้สึกถึงความเป็นปรปักษ์ในสายตาของชาวบ้านรอบข้าง หมอเฉินก็ยังคงไม่เจียมตัว เขาเชิดหน้าขึ้น กล่าวอย่างไม่เปิดช่องให้โต้แย้ง “ข้าพูดผิดหรือ? มีเพียงคนที่รู้เรื่องทางการแพทย์เท่านั้นที่สามารถเข้าโรงพยาบาลได้ ส่วนชาวบ้านธรรมดาหรือหมอกำมะลอ…ที่ไหนเย็นสบายก็เชิญไปที่นั่นเถอะ มิใช่อำเภอเป่ยซีบอกว่าทุกคนเท่าเทียมกันหรือ? เหตุใดฉินเฟิงถึงได้รับสิทธิพิเศษและเป็นผู้นำในการละเมิดกฎเสียเองเล่า?”
ยิ่งเป็นสถานที่ที่ทุกคนเท่าเทียมกันก็ยิ่งต้องปฏิบัติตามกฎเกณฑ์
ไม่มีใครสามารถจับผิดหลักการของหมอเฉินได้ แม้แต่ฉินเฟิงก็มองหมอเฉินด้วยรอยยิ้มและไม่ได้ปฏิเสธ
เมื่อเห็นสถานการณ์เป็นเช่นนี้ หมอเฉินก็ยิ่งลำพองใจมากขึ้น
เดิมทีเขากังวลว่าหากฉินเฟิงเหยียบโชค รักษาแม่ทัพใหญ่กองทหารชายแดนหายได้ หากเป็นเช่นนั้นเขาจะคต้องถูกลงโทษฐาน ‘ทำให้ผู้บาดเจ็บเสียชีวิต’ ก่อนหน้านี้เขาถึงกับเตรียมพร้อมจะวิ่งหนีในชั่วข้ามคืนด้วยซ้ำ
แต่เมื่อเห็นแม่ทัพใหญ่กองทหารชายแดนยังหมดสติ หมอเฉินก็รู้สึกโล่งใจ
เขาไม่เพียงแต่ไม่ต้องวิ่งหนี แต่ยังสามารถใช้โอกาสนี้แก้แค้นฉินเฟิง สร้างชื่อเสียงในอำเภอเป่ยซีได้อีกด้วย
นี่เป็นจุดที่สำคัญที่สุด!
ซุนเฮ่อยังคงเงียบกริบไร้เสียง ตามความเห็นของหมอเฉิน เห็นได้ชัดว่าซุนเฮ่อพะวงเกี่ยวกับตัวตนของฉินเฟิงและยอมแพ้แล้ว
ในเมื่อเป็นเช่นนี้ก็… ดีมาก!
หลังจากวันนี้อำเภอเป่ยซีทั้งหมดจะได้รู้จักชื่อของเขา ในแง่ของชื่อเสียงบารมี ตำแหน่งหัวหน้าโรงพยาบาลต้องตกเป็นของเขา
ดังคำกล่าวที่ว่า ยอมเป็นหัวไก่ดีกว่าเป็นหางหงส์ ทุกคนในใต้หล้านี้ต่างสังเกตเห็นความแข็งแกร่งและทรงอำนาจของอำเภอเป่ยซี หากสามารถนั่งอย่างมั่นคงในฐานะหัวหน้าโรงพยาบาลอำเภอเป่ยซีได้ หนทางข้างหน้าย่อมโรยไปด้วยกลีบดอกไม้ มีความรุ่งโรจน์และความมั่งคั่งไม่รู้จบไปตลอดชีวิต
ในที่สุดฉินเฟิงก็มองออกว่าหมอเฉินเป็นปรมาจารย์แห่งการหน้าไว้หลังหลอกคนหนึ่ง
วันนี้เดิมทีซุนเฮ่อควรจะเป็นคนออกหน้า แต่หมอเฉินกลับขโมยจุดสนใจไปทั้งหมด สลับแขกเป็นเจ้าบ้านอย่างเห็นได้ชัด
หึ!
ภายนอกอีกฝ่ายเคารพนบนอบต่อซุนเฮ่อ แต่ในความเป็นจริง เขาเป็นคนเจ้าเล่ห์ มีแผนการมากมายทีเดียว!
ในอำเภอเป่ยซีคงจะมีคนแบบนี้อยู่มาก เป็นไปไม่ได้ที่ฉินเฟิงจะทำความสะอาดได้ทั้งหมด สิ่งที่นายน้อยเจ้าสำราญทำได้คือ จัดการกับพวกเขาทีละคน
ฉินเฟิงลอบขบขันอยู่ในใจ ‘เจ้าถึงกับคิดจะใช้ข้าเป็นบันไดไปสู่ความรุ่งโรจน์เชียวหรือ? ถ้าอย่างนั้นเรามาดูกันหน่อยว่าเจ้ามีความสามารถพอหรือไม่?’
ฉินเฟิงมองออกทะลุปรุโปร่งแต่ไม่ได้ชี้ให้เห็น เขาแค่วางมือไพล่หลัง จ้องมองไปที่หมอเฉินซึ่งมีทักษะการแสดงย่ำแย่พลางแย้มยิ้ม
“ข้าจะตรวจสอบอาการแม่ทัพใหญ่กองทหารชายแดนได้อย่างไร ถ้าข้าไม่เข้าไป?”
หมอเฉินคาดเดาได้นานแล้วว่าฉินเฟิงจะต้องพูดประโยคนี้
ไม่สำคัญว่าจะสามารถเข้าโรงพยาบาลได้หรือไม่ สิ่งสำคัญคือต้องให้ผู้คนในอำเภอเป่ยซีเข้าใจว่า วันนี้เขาได้ปราบปรามฉินเชียนฮู่ลง ทักษะทางการแพทย์ของเขาจึงจะมีอำนาจในของอำเภอเป่ยซีอย่างไม่ต้องสงสัย!


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ