บทที่ 477 ยอมรับจากใจ
เมื่อเห็นแม่ทัพใหญ่กองทหารชายแดนฟื้นคืนสติ ผู้คนในที่เกิดเหตุต่างตื่นเต้นและส่งเสียงโห่ร้องยินดีอย่างต่อเนื่อง
“ฉินเชียนฮู่รักษาแม่ทัพใหญ่กองทหารชายแดนหายแล้ว!”
“แม่ทัพใหญ่กองทหารชายแดนหายแล้ว เยี่ยมมาก เช่นนี้กองทัพชายแดนก็จะไม่หาเรื่องอำเภอเป่ยซีของเรา”
“เจ้าพูดเรื่องอะไร! ไม่นานมานี้หากอำเภอเป่ยซีของเราไม่เร่งรีบไปช่วยเหลือพวกเขาโดยไม่สนใจว่าจะต้องสูญเสียมากน้อย กองทหารชายแดนคงถูกกองทัพเป่ยตี๋กวาดล้างไปนานแล้ว ไม่ต้องพูดถึงว่าจะรักษาแม่ทัพใหญ่กองทหารชายแดนหายดีเลย ต่อให้เกิดอะไรขึ้นจริง กองทหารชายแดนจะเนรคุณหรือ? นอกจากนี้ เป่ยตี๋ยังไม่สามารถทำอะไรอำเภอเป่ยซีของเราได้ นับประสาอะไรกับกองกำลังชายแดนเล่า”
“หยุดเถียงกันได้แล้ว แม่ทัพใหญ่ฟื้นขึ้นมาก็ดีแล้ว แต่จะว่าไป ความสามารถของใต้เท้าเชียนฮู่น่าทึ่งนัก เขาไม่เพียงแต่มีความเชี่ยวชาญในด้านกลยุทธ์การศึกเท่านั้น ทว่ายังมีทักษะการแพทย์ที่ล้ำเลิศเพียงนี้ด้วย”
“ใครบอกว่าไม่ใช่เล่า ใต้เท้าเชียนฮู่ของเราเป็นเลิศในกลยุทธ์ทางทหาร หัวการค้า สมุนไพรการแพทย์ ว่ากันว่าความสามารถทางวรรณกรรมของเขาก็โดดเด่นมากเช่นกัน ไม่เพียงแต่เขียนนิยายยอดนิยมอย่างเรื่อง ‘ตำนานแสงจันทร์’ เท่านั้น แต่บทกวี ‘ออกด่าน’ ซึ่งเป็นบทกวีที่มีชื่อเสียงและเป็นที่ชื่นชมของปัญญาชนจำนวนมากก็ประพันธ์โดยใต้เท้าฉินเชียนฮู่เช่นกัน”
“อะไรนะ?! ‘ออกด่าน’ ประพันธ์โดยใต้เท้าเชียนฮู่หรือ?”
พริบตาความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ทั้งหมดของฉินเฟิงถูกชาวบ้านเล่ากันปากต่อปากอีกครั้ง ชาวบ้านที่นับถือฉินเฟิงอยู่แล้วยิ่งกระตือรือร้นมากขึ้น ทุกคนกำหมัดแน่น หายใจรัวเร็ว ใบหน้าเปลี่ยนเป็นสีแดง จับจ้องไปยังร่างของนายน้อยเจ้าสำราญ
คนที่รู้ก็คิดว่าชาวบ้านบูชาคลั่งไคล้ฉินเฟิง
คนที่ไม่รู้… คงคิดว่าฉินเฟิงกระทำเรื่องชั่วช้าพาให้ชาวบ้านไม่พอใจ เตรียมพร้อมจะพุ่งเข้าไปอัดฉินเฟิงสักยก
แม่ทัพใหญ่กองทหารชายแดนเข้าใจสถานการณ์โดยรวมแล้ว เขาก้มมองบาดแผลบนไหล่ที่ถูกลูกธนู
ตอนนั้นที่เมืองกองทหารชายแดน เขาไม่ต่างจากคนที่รอความตาย เพราะแม่ทัพใหญ่กองทหารชายแดนสร้างกองกำลังที่ชายแดนเหนือ หากกลับเมืองหลวงไปรักษา ไม่ต้องพูดว่าจะรอดไปถึงเมืองหลวงได้หรือไม่ เพราะต่อให้ไปถึงก็คงต้องถูกลงโทษอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ การมาอำเภอเป่ยซีแห่งนี้ ก็แค่รักษาม้าตายเหมือนม้าเป็นเท่านั้น*[1]
ใครจะคิดว่าบาดแผลจากลูกศรที่รักษายากที่สุดจะรักษาหายจริง ๆ อีกทั้งคนที่ช่วยชีวิตเขาไว้ก็คือฉินเฟิง!
แม้ว่าแม่ทัพใหญ่กองทหารชายแดนจะเป็นคนเจ้าอารมณ์แต่ก็แสดงออกอย่างตรงไปตรงมา เขาประสานหมัดไปทางฉินเฟิงทันที
“บุญคุณของฉินเชียนฮู่ยิ่งใหญ่ ข้าจะไม่มีวันลืม!”
ฉินเฟิงตกตะลึง เขาไม่คาดคิดว่าแม่ทัพใหญ่กองทหารชายแดนจะขอบคุณเขาต่อหน้าธารกำนัน ชายหนุ่มรีบโค้งคำนับกลับอย่างรวดเร็ว
“ท่านแม่ทัพจะทำให้ผู้เยาว์อายุสั้นเอานะขอรับ”
แม่ทัพใหญ่กองทหารชายแดนยังยืนกรานอย่างแน่วแน่ที่จะคำนับฉินเฟิง
“การคำนับนี้ไม่เพียงแต่เพื่อตัวข้าเท่านั้น แต่ยังเพื่อกองทหารชายแดน และกระทั่งเพื่อต้าเหลียง ในวันนั้นหากฉินเชียนฮู่ไม่ได้เป็นผู้บังคับบัญชาการรบและส่งกองกำลังเสริมไปให้แม่ทัพทหารม้า ผนึกกำลังมาสนับสนุนกองทหารชายแดนของเรา เกรงว่าชายแดนทางเหนือคงต้องตกอยู่ในอันตรายแล้ว ในชายแดนเหนือนี้ไม่มีลำดับอาวุโส มีเพียงผลงานเท่านั้น ฉินเชียนฮู่สมควรได้รับการคารวะ!”
ก่อนหน้านี้ แม้แม่ทัพใหญ่กองทหารชายแดนจะเคยได้ยินเกี่ยวกับพฤติกรรมต่าง ๆ ของฉินเฟิง แต่เขาไม่เคยติดต่อกับอีกฝ่ายเป็นการส่วนตัว
ตอนนี้ชีวิตเขาถูกฉินเฟิงลากกลับมาจากประตูนรก เป็นโอกาสให้ได้สนทนากับฉินเฟิงเล็กน้อย จึงได้รู้ว่าคนผู้นี้ไม่ได้เลวร้ายอย่างในข่าวลือ ตรงกันข้าม ชายหนุ่มเหมือนจะเป็นนายน้อยเจ้าสำราญ แต่จริง ๆ รู้จักสถานการณ์ เข้าใจกฎเกณฑ์เป็นอย่างดี เพียงพบหน้ากันครั้งนี้ แม่ทัพใหญ่กองทหารชายแดนก็มีความประทับใจที่ดีต่อฉินเฟิงแล้ว
ชาวบ้านที่อยู่ตรงนั้นเห็นแม่ทัพใหญ่กองทหารชายแดนคำนับฉินเฟิงก็มีความสุขมากขึ้นไปอีก เมื่อเป็นเช่นนี้ ตำแหน่งของอำเภอเป่ยซีที่ชายแดนเหนือก็ถือว่ามั่นคงอย่างสมบูรณ์ ในฐานะชาวบ้านของอำเภอเป่ยซี ใบหน้าของพวกเขาย่อมสดใสและรู้สึกภาคภูมิใจอย่างยิ่ง
ทันใดนั้นเองก็มีเสียงที่ไม่หวังดีดังขึ้น
“ฉินเฟิง เจ้าโกงชัด ๆ เจ้าแอบจ้างแพทย์มาวินิจฉัยและรักษาท่านแม่ทัพ จากนั้นจึงรับเป็นความดีความชอบของตัวเอง คนเช่นเจ้าจะรู้กระไรเกี่ยวกับทักษะทางการแพทย์ เห็นได้ชัดว่านี่เป็นเพียงการซื้อใจผู้คน!”



ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ