เข้าสู่ระบบผ่าน

บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ นิยาย บท 490

บทที่ 490 ศึกนองเลือดกับกองพลพญาอินทรี

ม้วนกระดาษนี้เป็นใบรับรองของกองพลหมาป่าเหมันต์ที่หน่วยองครักษ์เสื้อแพรปลอมแปลงขึ้นมา ไม่รู้ว่าจะได้ผลหรือไม่ กระนั้นฉินเฟิงก็ส่งให้กับรองนายกองของกองพลพญาอินทรี และพยายามทำทุกอย่างให้ปกติ

อีกฝ่ายหยิบม้วนกระดาษแผ่นนั้น แล้วหันหลังเดินกลับ

หลังจากเดินไปได้ไม่กี่ก้าว ฉินเฟิงเห็นว่ารองนายกองยกม้วนกระดาษขึ้นสูงแล้วส่ายหัวเล็กน้อย บอกบางสิ่งบางอย่างกับนายกองฝ่ายตรงข้ามอย่างชัดเจน

หัวใจของฉินเฟิงกระตุกวูบ หรือว่ารูปแบบของหนังสือรับรองไม่ถูกต้อง?

ไม่ควรจะเป็นอย่างนี้สิ!

หนังสือรับรองคำสั่งของแต่ละกองทัพในเป่ยตี๋จะเขียนบนหนังแกะ แล้วจะเกิดข้อผิดพลาดขึ้นได้อย่างไร? หรือว่าหนังสือรับรองคำสั่งของกองพลหมาป่าเหมันต์แตกต่างออกไป?

ทันใดนั้น ความคิดหนึ่งก็แวบขึ้นมาในสมองของฉินเฟิง

นับตั้งแต่เกิดสงครามระหว่างทั้งสองแคว้น แม้ทหารม้าทั้งจากกองพลพญาอินทรีและกองพลหมาป่าเหมันต์จะถูกจับได้ แต่ก็ยังไม่เคยพบหนังสือคำสั่งใด ๆ ท้ายที่สุดแล้ว สนามรบที่กองกำลังอันทรงพลังทั้งสองนี้มุ่งหน้าไปก็ล้วนมีสภาพแวดล้อมที่อันตรายที่สุด ย่อมมีคนถูกจับอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ หากมีหนังสือคำสั่งก็มีแนวโน้มที่ข้อมูลทหารจะรั่วไหล

ฉินเฟิงเดาว่าทั้งกองพลหมาป่าเหมันต์และกองพลพญาอินทรีคงไม่มีหนังสือคำสั่งใด ๆ น่าจะมีเพียงรหัสลับเท่านั้น เห็นได้ชัดว่ารองนายกองคนนั้นหลอกลวงเขา ทั้งยังทำสำเร็จเสียด้วย

แย่แล้ว!

เมื่อเห็นว่ารองนายกองยังไม่กลับเข้าขบวน ฉินเฟิงจึงไม่มีเวลาคิดอะไร เขาตะโกนสั่งเสียงดัง “ฆ่า!”

ทหารม้าที่เตรียมพร้อมอยู่ก่อนแล้วยกธนูขึ้นมาทันที ยิงสุ่มใส่กองพลพญาอินทรี ในเมื่อกำลังรบไม่แกร่งเท่าศัตรู เช่นนั้นการชิงโจมตีก่อนย่อมได้เปรียบ!

นายกองของกองพลพญาอินทรีรู้อยู่แล้วว่าฉินเฟิงและคนอื่น ๆ ไม่ใช่กองพลหมาป่าเหมันต์ ต่อให้ไม่ใช่กองทหารศัตรูที่ปลอมตัวมาก็ต้องเป็นทหารหนีทัพเป็นแน่!

ครั้นนายกองกำลังจะออกคำสั่งให้โจมตีทหารม้าเกราะเบาเหล่านี้ กลับเกิดการโจมตีอย่างกะทันหัน เขาไม่คาดคิดเลยว่าจะถูกโจมตีก่อน

ทั้งสองฝ่ายอยู่ห่างกันเพียงสามสิบก้าว แม้ว่าทหารม้าเกราะเบาของฉินเฟิงจะไม่ใช่ยอดฝีมือชั้นสูงของอำเภอเป่ยซี แต่การฝึกยิงธนูเป็นหลักสูตรบังคับสำหรับทหารทุกคนที่นั่น

ระยะใกล้เพียงนี้ ทั้งยังเป็นการโจมตีอย่างฉับพลัน ประกอบกับการยิงที่อิสระและรวดเร็ว ทหารม้าของกองพลพญาอินทรีมากกว่าสิบคนจึงโดนยิงธนูใส่จนล้มลงจากหลังม้า

นายกองและรองนายกองได้รับความสนใจเป็นพิเศษ นายกองหลบลูกธนูอย่างรวดเร็ว แต่รองนายกองถูกยิงเข้าที่หลัง เสียชีวิตคาที่

สมแล้วที่กองพลพญาอินทรีเป็นกองกำลังชั้นยอด เมื่อต้องเผชิญกับสถานการณ์นี้ พวกเขาก็ยังไม่หลบหนี ทั้งยังชักคันธนูขึ้นมาเปิดการโจมตีโต้กลับทันที

ทหารม้าทั้งสองฝ่ายยืนอยู่ตรงข้ามกัน ห่างกันสามสิบก้าว พวกเขายิงลูกธนูโต้ตอบไปมา นี่แทบไม่ต่างจากการฆ่าตัวตาย ทุกคนเพียงแค่ยิงธนูใส่กันอย่างบ้าคลั่ง ไม่มีใครเต็มใจหันหลังหลบหนี หรือใช้กลยุทธ์การล่าถอย

ด้วยว่าระยะห่างใกล้เกินไป ใครหันหลังวิ่งก่อนย่อมเป็นการจุดอ่อนให้อีกฝ่าย และความสูญเสียจะยิ่งรุนแรง

ฉินเฟิงกระโดดลงจากม้า ซ่อนตัวอยู่หลังก้นม้า หวาดกลัวสุดขีด เขาเกรงว่าจะถูกลูกหลงจากธนูจนตาย แต่ขณะหลบก็ตะโกนบอกไปด้วย “อดทนไว้ อย่าได้กลัว แค่ยิงธนูต่อไปก็พอ ถ้าหนีจะถูกตามล่าเป็นแน่!”

ภายใต้เสียงคำรามแหบห้าวของฉินเฟิง แม้ทหารม้าเกราะเบาทุกคนจะเคยได้ยินชื่อเสียงอันโหดร้ายของกองพลพญาอินทรี แต่ก็ไม่มีใครหลบหนี

นอกเหนือจากความไว้วางใจในตัวฉินเฟิงแล้ว พวกเขายังเข้าใจดีว่ายามนี้อยู่ในดินแดนศัตรู หนีพระได้ หนีวัดไม่พ้น*[1] ไม่ช้าก็เร็วจะต้องตาย ในเมื่อเป็นเช่นนี้ก็สู้สุดชีวิตไปเลยดีกว่า อย่างไรเสียทุกคนก็มีสองไหล่หนึ่งหัว สวมชุดเกราะเบาเหมือนกัน ไม่มีใครดวงแข็งไปกว่าใคร!

เพียงแค่ไม่กี่อึดใจ ช่องว่างระหว่างทั้งสองฝ่ายก็ค่อย ๆ ปรากฏชัดเจน

แม้ว่ากองพลพญาอินทรีจะมีกองกำลังที่แข็งแกร่ง แต่พวกเขาก็เสียเปรียบในแง่ของจำนวน เดิมทีพวกเขามีกำลังพลประมาณหนึ่งร้อยคน แต่เมื่อถูกโจมตีกะทันหันจึงสูญเสียกำลังคนไปมากกว่าสิบ ทำให้เหลือทหารเพียงเก้าสิบคนเท่านั้น เมื่อเผชิญหน้ากับทหารม้าเกราะเบาสองร้อยคนของฉินเฟิง ที่ไม่ว่าจะด้านขวัญกำลังใจหรือทักษะการยิงธนูก็ไม่ได้ด้อยกว่า กองพลพญาอินทรีจึงสูญเสียกำลังพลเร็วกว่าฝ่ายของฉินเฟิงมาก

ยิ่งสูญเสียกำลังคนไปมากเท่าไร ช่องว่างของความแตกต่างยิ่งปรากฏชัดเจน อัตราการตายก็ยิ่งสูงขึ้น

บทที่ 490 ศึกนองเลือดกับกองพลพญาอินทรี 1

Verify captcha to read the content.ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ