บทที่ 502 ไม่เห็นหน้าเลยด้วยซ้ำ
เมื่อเทียบกับวิธีโจมตีภูเขาและปราบพวกโจร เฉินผิงกังวลเรื่องตัวตนของศัตรูมากกว่า
สิ่งหนึ่งที่เฉินผิงแน่ใจคือแม่ทัพของศัตรูต้องมาจากอำเภอเป่ยซีและตามข้อมูลที่นกฮูกราตรีรู้ ในอำเภอเป่ยซีมีแม่ทัพมากความสามารถเพียงสี่คน ฉินเฟิงไม่จำเป็นต้องพูดถึง คนที่สองจ้าวอวี้หลง บุตรชายของผู้บัญชาการกองทัพมังกรซ่อนพยัคฆ์แห่งต้าเหลียงเป็นเลิศทั้งด้านบุ๋นและบู๊ แต่ในเวลานี้ เขาเป็นผู้นำกองทหารม้าทมิฬที่เข้าโจมตีกองทัพของเฉินซือจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะเข้ามาในอาณาเขตของเป่ยตี๋
คนที่สาม หลี่เซียวหลาน ก่อนที่ชายแดนเหนือจะพัฒนา ฮูหยินฉินเป็นผู้รับผิดชอบในนาม ทว่าในความเป็นจริง หลี่เซียวหลานเป็นคนจัดการ แต่ตอนนี้หลี่เซียวหลานกำลังช่วยแม่ทัพรถม้าศึกป้องกันเขตที่นา ยากที่จะปลีกตัวมาได้
คนสุดท้ายคือซื่อจื่อหลี่จาง บุตรชายคนโตของหมิงอ๋อง
หรือว่าจะเป็นหลี่จาง? แม้ว่าคนผู้นี้จะไม่เก่งเท่าแม่ทัพเฉินซือแต่ก็ไม่ได้ด้อยกว่ามากนัก อย่างน้อยเขาก็ไม่ได้ต่างกันมากมาย หากเป็นหลี่จางรับผิดชอบจริง ๆ ก็ยากที่จะรับมือ เฉินผิงรู้ถึงความสามารถของตัวเอง เมื่อเทียบเขากับเฉินซือแล้วก็เหมือนความแตกต่างระหว่างแสงดาวและแสงจันทร์ ด้วยเหตุนี้ เฉินผิงจึงไม่มั่นใจในการเอาชนะหลี่จาง
ยิ่งเป็นเช่นนี้ก็ยิ่งต้องระมัดระวัง หากเกิดเพลิงไหม้ที่แนวหลัง ย่อมส่งผลต่อสงครามแนวหน้า
ในเวลานี้ กองกำลังค้นหาและปราบปรามได้พุ่งเข้าไปในภูเขาชิงอวี้แล้ว
ทหารของฉินเฟิงที่ซ่อนตัวอยู่ในป่าทึบมองเห็นโอกาสที่เหมาะสมจึงตัดเชือกที่อยู่ตรงหน้าพวกเขาทันที คานไม้แนวนอนที่ห้อยลงมาจากกิ่งไม้ตกลงมาโดนศัตรูตรง ๆ
เมื่อเผชิญหน้ากับคานไม้อย่างกะทันหัน ทหารแถวหน้ายังไม่ทันได้ตอบโต้ ไม่ว่าใครก็ตามที่ถูกแรงเหวี่ยงของคานไม้กระแทกล้วนเสียชีวิตทันที
“มีกับดัก! ระวัง!”
“อย่าวิ่ง! กลัวอะไร ศัตรูมีแค่สองร้อยคน ส่วนเรามีมากถึงสามพันคน!”
ภายใต้คำดุด่าของผู้บังคับบัญชา กองกำลังค้นหาและปราบปรามแทบจะไม่สามารถรักษาตำแหน่งของตนให้มั่นคงได้ แต่ยังคงเดินหน้าต่อไปแม้จะได้รับผลกระทบจากกับดักตามทาง
ทหารภายใต้การบัญชาของฉินเฟิงเองก็ไม่ได้อยากจะสู้รบ พวกเขาตัดเชือกที่ผูกไว้ล่วงหน้า เปิดใช้กับดักคานไม้แล้วหันหลังกลับไปโดยไม่สนใจ
หลังจากเตรียมการมาทั้งวันทั้งคืน บริเวณเชิงเขามีกับดักคานไม้สามสิบอัน แค่เดินผ่านบริเวณกับดักแล้วโดนแรงเหวี่ยงของคานไม้ที่กระแทกใส่ กองกำลังค้นหาและปราบปรามศัตรูก็สูญเสียกำลังคนไปมากกว่าร้อยคน
เมื่อรู้ว่าคู่ต่อสู้มีกับดักควรหยุดโจมตีหรือกำจัดกับดักเพื่อลดการสูญเสีย ทว่าผู้คุมกองทัพที่สวี่เชียนส่งมาพยายามกระตุ้นให้กองกองกำลังค้นหาและปราบปรามเร่งบุกเข้าไปต่อโดยไม่สนใจกับดักในภูเขา
“ยืนหยัดให้มั่นคง ใครกล้าหนี อย่าโทษข้าที่ใจร้าย!”
“ศัตรูแค่สองร้อยนาย เวลาเตรียมการแค่หนึ่งวันหนึ่งคืน กับดักคานไม้เหล่านี้นับว่าเกินขีดจำกัดแล้ว พวกเราทุกคนวางใจ บุกเข้าไปได้! ด้านหลังไม่มีทางมีกับดักอีกแล้ว!”
ผู้คุมกองทัพพูดถูก เวลาหนึ่งวันหนึ่งคืนสามารถเตรียมทำกับดักได้ไม่มากจริง ๆ
แต่กับดักที่ทำยากไม่สามารถทำได้ ไม่ได้หมายความว่ากับดักธรรมดา ๆ จะไม่สามารถทำได้
เหล่าทหารที่ไปถึงหนึ่งในสามของไหล่เขาหยิบค้อนหินธรรมดา ๆ ขึ้นมาทุบ ‘หมุดระเบิด’ ที่เจาะไว้ล่วงหน้าในกำแพงหิน กำแพงหินทั้งหมดที่มีหมุดระเบิดผ่านการคัดเลือกจากฉินเฟิงมาเป็นอย่างดี พวกมันยื่นออกไปด้านนอก ตั้งอยู่บนทางลาดที่หันหน้าไปทางทิศใต้
ในขณะที่เหล่าทหารยังคงทุบแท่งไม้เข้าไปในหมุดระเบิด ก้อนหินขนาดใหญ่ที่มีน้ำหนักนับหมื่นจินก็แตกออกทีละก้อน เนื่องจากรูปทรงของหินและตำแหน่งของหลุมก็คัดสรรมาเป็นพิเศษ หลังจากที่หินแตก มันก็ก่อตัวเป็นรูปครึ่งวงกลมกลิ้งลงไปตามส่วนโค้งของไหล่เขาโดยอาศัยน้ำหนักของมันเอง
เมื่อได้ยินเสียงดังสนั่นมาจากด้านบน กองกำลังค้นหาและปราบปรามก็ตื่นตระหนกเป็นอย่างยิ่ง
“นั่นเสียงอะไร?”


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ