บทที่ 504 ไร้ร่องรอยฉินเฟิง
การดูถูกศัตรูถือเป็นข้อห้ามในสนามรบ!
แต่เมื่อเห็นว่าเหล่าทหารตื่นเต้นกันมาก ขวัญกำลังใจก็เพิ่มขึ้นสูง ฉินเฟิงจึงไม่ต้องการตบหน้าเรียกสติพวกเขาในเวลานี้
ฉินเฟิงรู้ดีว่าสถานการณ์ในยามนี้เป็นสถานการณ์ที่สิ้นหวังเสียยิ่งกว่าสิ้นหวัง
หากไม่มีกำลังเสริมมาถึง ในที่สุดทุกคนรวมถึงฉินเฟิงก็จะตาย จุดจบนี้ถูกกำหนดเอาไว้แล้วและไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้
เรื่องนี้มีแค่ฉินเฟิงรู้อยู่แก่ใจก็พอแล้ว ส่วนทหารทุกนาย พวกเขาจะต้องเปี่ยมล้นไปด้วยความหวังเสมอ
เพื่อสร้างความบันเทิงให้พี่น้องของตนเอง ฉินเฟิงสั่งฆ่าม้าศึกที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสทันที เขาใช้หม้อเหล็กที่ปล้นมาจากอำเภอผิงชางตุ๋นน้ำแกงจนเต็มหมอ ส่วนขาสองชิ้นที่เหลือก็โรยเกลืออย่างสิ้นเปลืองแล้วย่างบนกองไฟ อย่างไรเสียเครื่องปรุงรสอันล้ำค่าเหล่านี้ก็ปล้นมาทั้งนั้น เขาจึงไม่รู้สึกแย่ที่จะใช้อย่างสิ้นเปลือง
ฉินเฟิงและเหล่าทหารนั่งล้อมรอบหม้อเหล็กร่วมกันเฉลิมฉลอง บรรยากาศแห่งความสิ้นหวังที่แผ่ซ่านไปทั่วภูเขาชิงอวี้มลายหายไปจนสิ้น ถูกแทนที่ด้วยบรรยากาศแห่งความยินดีปรีดาแทน
ดูเหมือนว่าในสายตาของเหล่าทหาร การต่อสู้ที่สิ้นหวังนี้ได้กลายเป็นการออกทัศนาจรนอกบ้านในฤดูใบไม้ร่วง พวกเขาเพลิดเพลินไปกับสายลมที่โชยมา รู้สึกอิสรเสรีเป็นอย่างยิ่ง
กลิ่นหอมอันเข้มข้นของเนื้อจากภูเขาชิงอวี้ลอยมาตามสายลม
ทหารม้ากองพลพญาอินทรีที่อยู่รอบ ๆ กลืนน้ำลายตาม ๆ กัน อดไม่ได้ที่จะด่าสาปแช่งตลอดทาง
“ให้ตายเถอะ! เราอยู่ที่นี่เพื่อคุ้มกันสถานการณ์อย่างน่าสังเวช แต่พวกมันถึงกับตุ๋นเนื้อบนภูเขา! แถมดูเหมือนว่าจะมีเนื้อย่างด้วย!”
“คงใช้ชีวิตไม่ต่างไปจากตอนที่อยู่ในอำเภอเป่ยซีเลยกระมัง”
“ฮึ่ม ข้าอยากจะดูนักว่าชีวิตที่สะดวกสบายของพวกมันจะอยู่ได้อีกนานแค่ไหน!”
“แม่ทัพศัตรูคงถูกลาเตะเข้าที่หัว ในสถานการณ์สิ้นหวังเช่นนี้ เขายังกล้าฟุ่มเฟือยสิ้นเปลืองของกินอีกหรือ? ไม่รู้ว่าเสบียงที่มันปล้นมาจากอำเภอผิงชางจะอยู่ได้อีกกี่วัน!”
เหตุผลที่ฉินเฟิงกล้าฟุ่มเฟือยนั้นเป็นเพราะเขามีความมั่นใจในเสบียงระดับหนึ่ง
องครักษ์เสื้อแพรนำเสบียงสิ่งของมากมายมาเสริมให้ทหารค่ายเทียนจี รวมถึงเสบียงที่ปล้นมาจากอำเภอผิงชาง
ฉินเฟิงได้คำนวณเอาไว้อย่างละเอียดแล้ว ตอนนี้เขามีข้าวฟ่างจำนวนเก้าต้าน เสบียงทหารแบบพิเศษของอำเภอเป่ยซีสองต้านและม้าเชลยศึกสามสิบตัว เนื้อตากแห้งที่ถูกแขวนตากไว้บนยอดเขาเกือบจะครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมด เมื่อตากได้ที่คาดว่าจะหนักราวสิบต้าน
เมื่อรวมกับม้าศึกอีกห้าตัวที่เตรียมพร้อมอยู่ตรงหน้า เสบียงเหล่านี้เพียงพอที่จะอยู่ได้สองเดือนโดยอิงจาก ‘การกินและดื่มให้เพียงพอต่อการรักษาพลังการต่อสู้สูงสุด!’
หลังจากผ่านไปสองเดือนแล้วหากยังไม่มีกำลังเสริมมา การป้องกันยอดเขาแห่งนี้ก็ไม่มีความหมายมากนัก
นอกจากอาหารแล้ว น้ำดื่มก็มีความสำคัญอย่างยิ่งเช่นกัน
ทั้งภูเขาชิงอวี้มีลำธารบนภูเขาเพียงสายเดียวและตั้งอยู่บนไหล่เขา เมื่อกองทหารศัตรูโจมตีและยึดครองไหล่เขา พวกเขาจะถูกตัดขาดจากแหล่งน้ำ ผลที่ตามมาย่อมมิอาจคาดคิด
ฉินเฟิงจึงเติมน้ำลงในถุงน้ำทั้งหมดที่ปล้นมาจากเขตผิงชางแล้วนำไปไว้บนยอดเขาเพื่อเก็บไว้ มีถุงน้ำทั้งหมดสองร้อยถุง น้ำหนึ่งถุงกระเบียดกระเสียรพอให้ทหารหนึ่งนายดื่มได้ประมาณสองวัน
น้ำดื่มฉุกเฉินแค่นี้เป็นน้ำหนึ่งแก้วกับรถขนฟืนที่ไฟไหม้*[1] ฉินเฟิงจึงได้วางแผนที่จะสร้างอ่างเก็บน้ำบนยอดเขาขึ้นมา
แต่ว่าเหล่าทหารเหนื่อยล้าเป็นอย่างยิ่ง หลังจากพักผ่อนให้เรียบร้อยแล้วค่อยเริ่มงานอีกครั้งก็คงไม่สายเกินไปนัก


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ