บทที่ 506 ผ้าแพรเมฆาหนึ่งฉื่อ
ในพระทัยของฮ่องเต้ต้าเหลียงมีมาตรวัดอยู่หนึ่งอย่างที่ปัจจัยภายนอกไม่สามารถสั่นคลอนได้
ด้านหนึ่งมาตรวัดนี้ใช้เพื่อวัดภัยคุกคามของคนหนึ่งคนต่ออำนาจของราชวงศ์ ส่วนอีกด้านใช้เพื่อวัดคุณค่าของพวกเขา
หากมีคุณค่ามากกว่าภัยคุกคามย่อมสามารถใช้ต่อไปได้ หากภัยคุกคามมีมากกว่าย่อมต้องกำจัดทิ้งโดยไม่ลังเล
ฮ่องเต้ต้าเหลียงไม่รู้ว่าพระองค์ชั่งน้ำหนักฉินเฟิงไปกี่ครั้งแล้ว ทุกครั้งที่ชั่งวัด ฮ่องเต้ต้าเหลียงรู้สึกตกใจกับการเติบโตของอีกฝ่าย ในขณะเดียวกันคุณค่าของฉินเฟิงก็ไร้ที่ติ
ยกตัวอย่างเช่น สงครามแคว้นในครั้งนี้ ฮ่องเต้ต้าเหลียงไม่สามารถหาใครที่ทำได้ดีกว่าพ่อลูกตระกูลฉินอีกแล้ว
ส่วนความคิดของไท่เป่าหลิน ฮ่องเต้ต้าเหลียงมีหรือที่จะไม่รู้ ตาเฒ่านั่นก็แค่ถือโอกาสขัดขาฉินเฟิง เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว ฮ่องเต้ต้าเหลียงยิ่งรังเกียจไท่เป่าหลินมากขึ้นกว่าเดิม
ตั้งแต่เกิดสงครามที่ชายแดนเหนือ โดยพื้นฐานแล้วตระกูลฉินไม่สนใจความขัดแย้งเรื่องพรรคพวกตระกูลหลินเลย แต่มุ่งเน้นไปที่สงครามแคว้นเป็นอันดับแรก
ในทางกลับกัน ทั้ง ๆ ที่ไท่เป่าหลินรู้ว่าสงครามทางตอนเหนือนั้นตึงเครียด ต้าเหลียงตกอยู่ในอันตราย แต่เพื่อที่จะสยบผู้เห็นต่าง ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อนี้เขาก็ยังพยายามทำร้ายตระกูลฉิน
สิ่งนี้ไม่เรียกว่าน่ารังเกียจอีกต่อไปแต่เป็นบาปมหันต์ สมควรตายหมื่นครั้ง!
ฮ่องเต้ต้าเหลียงจดเรื่องนี้ไว้พระทัยแล้ว รอสงครามแคว้นสิ้นสุดลงย่อมรวมต้นทบดอกทวงบัญชีนี้จากตระกูลหลินอย่างแน่นอน
ในขณะนี้ ไม่เพียงแค่ชายแดนเหนือไม่เหมาะที่จะเปลี่ยนแม่ทัพเท่านั้น แต่ยังต้องให้ความสำคัญกับเสถียรภาพในท้องพระโรงด้วย เขาไม่อาจกระตุ้นความขัดแย้งใดให้รุนแรงขึ้น
พระพักตร์ของฮ่องเต้ต้าเหลียงยังคงสงบนิ่ง ถึงกับยิ้มให้ไท่เป่าหลินด้วยซ้ำ
“ไท่เป่าทุ่มเทกายใจเพื่อต้าเหลียงโดยแท้จริง เจิ้นรู้สึกซาบซึ้งใจนัก การแต่งตั้งผู้คุมกองทัพนั้นสมเหตุสมผล แต่เสนาบดีฉินเป็นผู้บัญชากองทัพ ฉินเชียนฮู่เป็นทูตพิเศษดูแลการสงคราม หากแต่งตั้งผู้คุมกองทัพในเวลานี้จะไม่ซับซ้อนเกินไปหน่อยหรือ ดังคำกล่าวที่ว่าการทหารรวดเร็วถึงจะดี คำสั่งทางทหารต้องกระชับและชัดเจน หากต้องผ่านการรายงานหลายระดับจะต้องทำให้สงครามล่าช้าอย่างแน่นอน”
เมื่อพูดมาถึงตรงนี้ ฮ่องเต้ต้าเหลียงก็หันไปมองจางซิวเย่แล้วพูดด้วยพระพักตร์ยินดีว่า “ไท่เป่าทำงานหนักมีความดีความชอบมาก เหนื่อยล้าทั้งกายและใจเพราะสงครามชายแดนเหนือ สมควรพระราชทานรางวัลถึงจะถูก จริงสิ ผ้าแพรเมฆาที่เป็นเครื่องบรรณาการจากตระกูลผู้ดีทางตอนใต้เหลืออยู่เท่าไหร่?”
จางซิวเย่ตอบอย่างรวดเร็ว “กราบทูลฝ่าบาท ผ้าแพรเมฆาเป็นอาภรณ์ที่ดีที่สุดในวัง ทุกปีส่งเป็นเครื่องบรรณาการมาแค่สามพันพับเท่านั้นและได้แจกจ่ายให้กับพระสนมในวังหลังแล้ว เมื่อต้นเดือนบ่าวให้สำนักพระราชวังตรวจสอบบัญชีพบว่าเหลือเพียง… หนึ่งฉื่อเท่านั้นพ่ะย่ะค่ะ”
ฮ่องเต้ต้าเหลียงพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม
“หนึ่งฉื่อก็หนึ่งฉื่อเถิด ท้ายที่สุดแล้วผ้าแพรเมฆานี้ก็ล้ำค่านัก มีคำกล่าวว่าผ้าแพรเมฆาทุกชุ่นเป็นดั่งทองคำ ยิ่งไปกว่านั้น ในแต่ละปีก็ทอออกมาได้แค่นี้ ทั้งหมดล้วนส่งเข้าวังเป็นเครื่องบรรณาการ ผู้คนภายนอกต่อให้มีเงินก็มิอาจหาซื้อได้ พระราชทานผ้าแพรเมฆาหนึ่งฉื่อให้กับไท่เป่าหลินเป็นรางวัล”
หลังจากกำชับเสร็จสรรพ ฮ่องเต้ต้าเหลียงก็ประกาศจบการประชุมราชสำนัก ลุกยืนขึ้นแล้วเสด็จออกจากท้องพระโรง
ในตอนที่ไท่เป่าหลินออกจากประตูวัง จางซิวเย่ตามเขาออกมาแล้วยื่นผ้าแพรเมฆาหนึ่งฉื่อที่ห่อไว้อย่างดีให้
ไท่เป่าหลินกล่าวขอบคุณเป็นพิธีแล้วมุ่งหน้ากลับจวนอย่างภาคภูมิใจโดยมีผ้าแพรเมฆาอยู่ในอ้อมแขน
ภายในหนึ่งชั่วยาม เรื่องนี้ก็มาถึงวังหลัง องค์หญิงใหญ่ตรงไปที่ตำหนักของกุ้ยเฟยเพื่อแสดงความยินดีกับนางด้วยตนเอง
“ได้ยินมาว่าในการประชุมราชสำนักวันนี้ ฮ่องเต้ชื่นชมไท่เป่าหลินต่อหน้าพร้อมพระราชทานผ้าแพรเมฆาหนึ่งฉื่ออย่างนั้นหรือ ผ้าแพรเมฆาเป็นอาภรณ์ที่ราชวงศ์ใช้โดยเฉพาะ นับตั้งแต่สถาปนาต้าเหลียง จำนวนคนที่ได้รับพระราชทานผ้าแพรเมฆามือข้างเดียวก็นับได้ครบ เห็นได้ว่าฮ่องเต้ให้ความสำคัญกับไท่เป่ามากเพียงใด”
กุ้ยเฟยยิ้มอย่างสดใสแล้วตอบด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อันใด มิต้องลำบากองค์หญิงใหญ่มาแสดงความยินดีด้วยพระองค์เอง ฮึ ๆ แต่จะว่าไปแล้ว ฮ่องเต้ให้ความสำคัญกับไท่เป่าหลิน นับเป็นวาสนาของตระกูลหลินข้า ทายาทตระกูลหลินของข้าย่อมอุทิศตนเพื่อต้าเหลียงจนกว่าชีวิตจะหาไม่”
นางกำนัลที่เพิ่งได้รับการเลื่อนตำแหน่งจากกุ้ยเฟยรู้มานานแล้วว่ากุ้ยเฟยและองค์หญิงใหญ่ไม่ลงรอยกัน เมื่อนางเห็นองค์หญิงใหญ่มาแสดงความยินดีถึงที่ ใบหน้าเล็ก ๆ ของนางก็แทบเงยขึ้นฟ้า
เพื่อทำให้กุ้ยเฟยได้มีหน้ามีตายิ่งขึ้นจึงเอ่ยแทรกเสียงเบา “ไท่เป่าได้อุทิศชีวิตให้กับต้าเหลียง ผู้อื่นจะเทียบเคียงได้อย่างไรล่ะเจ้าคะ”
“ฝ่าบาททรงทราบดีว่าใครอยู่ใกล้ ใครอยู่ไกล ใครเป็นคนกันเอง ใครเป็นคนอื่น”


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ