บทที่ 515 เฉินผิงถูกคุมตัว
ฉากแบบนี้ แม้แต่ฉินเฟิงก็ไม่เคยเห็นมาก่อน!
ท่ามกลางสงครามกลับมีความขัดแย้งภายในอย่างนั้นหรือ? นี่มันต่างจากหันอาวุธสู้กันเองอย่างไร?
หากอยู่ในต้าเหลียง ไม่ว่าจะเป็นกองพลพญาอินทรีหรือกองทัพค้นหาและปราบปรามศัตรูควรถูกสังหารให้สิ้นเพื่อแสดงอำนาจกองทัพ!
ฉินเฟิงเองก็ไม่เกรงใจแม้แต่น้อย เขาอยู่ห่างจากศัตรูไม่ถึงสามสิบก้าว ก่อนจะโบกมือส่งสัญญาณสั่งให้ทหารสองร้อยนายยิงศัตรูที่อยู่ด้านล่าง ไม่ว่าอีกฝ่ายจะเป็นทหารฝ่ายไหน มียศอะไร ในสายตาของฉินเฟิงล้วนเป็นเพียงลูกแกะที่รอเชือด
“ศัตรูลอบโจมตี!”
“พวกโจรต้าเหลียงลงเขามาแล้ว!”
“ทุกคน หยุดต่อสู้!”
กองกำลังค้นหาและปราบปรามศัตรูจำนวนมากและทหารม้ากองพลพญาอินทรีพบพวกฉินเฟิงและตะโกนอย่างบ้าคลั่ง น่าเสียดายที่เกิดเหตุวุ่นวายมากเกินไป เสียงตะโกนรายงานสถานการณ์ทางทหารกลืนหายไปกับคำด่าทอสาปแช่ง
ทหารที่เห็นสถานการณ์ บ้างรวมเป็นกลุ่มเล็ก ๆ แล้วรีบพุ่งทะยานไปทางฉินเฟิง บ้างก็หลบหนีไป
แต่ไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไรก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงการสังหารหมู่ฝ่ายเดียวนี้ได้
จนกระทั่งทหารจำนวนมากเสียชีวิตอย่างอธิบายไม่ได้ภายใต้ลูกธนูของฉินเฟิงและทหารค่ายเทียนจี พวกทหารที่มัวแต่ต่อสู้กันเป็นกลุ่มถึงค่อย ๆ กลับมามีสติ
แต่สิ่งแรกที่พวกเขาทำไม่ใช่การจัดระเบียบกองทัพแล้วตอบโต้ศัตรู แต่… เป็นการหลบหนี!
ท้ายที่สุดแล้วการต่อสู้กับกองพลพญาอินทรีก็เป็นเพียงการระบายความไม่พอใจของพวกเขาเท่านั้น
แต่เมื่อเผชิญหน้ากับทหารค่ายเทียนจี นั่นเป็นการต่อสู้แบบเอาเป็นเอาตาย
แน่นอนว่าทหารผ่านศึกรู้ชัดเจนว่าอะไรสำคัญกว่าและตัดสินใจทำที่เป็นประโยชน์ต่อพวกเขามากที่สุดทันที
เฉินผิงรีบจัดกองพลพญาอินทรีเพื่อต่อสู้กลับ น่าเสียดายที่ทหารของเขาปะปนอยู่กับกองทหารค้นหาและปราบปรามศัตรูไปแล้ว แม้ว่าเฉินผิงจะตะโกนจนสุดเสียงก็ยากที่จะจัดกองกำลังที่ใช้งานได้
ยิ่งไปกว่านั้น ชุดเกราะของกองพลพญาอินทรียังแตกต่างอย่างมากจากชุดเกราะของกองทหารค้นหาและปราบปรามศัตรู
ทหารค่ายเทียนจีฉลาดแกมโกง เมื่อใดก็ตามที่มีโอกาส พวกเขาจะให้ความสนใจการโจมตีทหารกองพลพญาอินทรีก่อน
เมื่อเห็นว่าสถานการณ์จบสิ้นแล้ว เฉินผิงทำได้เพียงสั่งให้ถอยด้วยความไม่พอใจเท่านั้น
“ทุกคนยิง!”
ฉินเฟิงตะโกนลั่น เขาไม่เคยต่อสู้ในสงครามที่ง่ายดายขนาดนี้มาก่อนในชีวิต
ในทางตรงกันข้าม เฉินผิงเองก็ไม่เคยขี้ขลาดขนาดนี้มาก่อนในชีวิตเช่นกัน เมื่อหันกลับมามองทหารค่ายเทียนจีก็บังเอิญพบชายร่างบางที่ยืนอยู่ในกลุ่มคน ในมือเขากำแหลนเอาไว้พร้อมกับออกคำสั่งบอกคนอื่นอยู่ตลอดเวลา
เมื่อคาดเดาได้ว่าบุคคลนี้เป็นแม่ทัพศัตรู เฉินผิงก็คำรามอย่างไม่เต็มใจ
“แม่ทัพศัตรู เจ้าเป็นใครกันแน่?”
เสียงคำรามที่เต็มไปด้วยความโกรธและไม่เต็มใจนี้ดึงดูดความสนใจของฉินเฟิงทันที เขาหันไปตามเสียงนั้นก็พบกับเฉินผิงที่เบียดอยู่ในกลุ่มคนและถูกผลักให้ถอยกลับไป ฉินเฟิงไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่หรี่ตามองเฉินผิงที่ไหลตามกลุ่มคนไกลออกไปเรื่อย ๆ เท่านั้น
ฉินเฟิงไม่ชอบสายตาของชายคนนี้เท่าไหร่นัก เพราะเขาเคยเห็นสายตาแบบนั้นจากคนที่เป็นศัตรูที่แข็งแกร่งซึ่งเขาเคยเผชิญหน้ามาก่อน!
บุคคลนี้จะต้องเป็นแม่ทัพของกองพลพญาอินทรีเป็นแน่
ในคืนนั้น ฉินเฟิงและทหารค่ายเทียนจีเกือบถูกฆ่าตายก็ต้องเป็นฝีมืออีกฝ่าย!
ฉินเฟิงจดจำรูปลักษณ์และแววตาของคนผู้นี้ไว้พร้อมกับแอบตัดสินใจว่า ขอเพียงมีโอกาส เขาจะฆ่าอีกฝ่ายโดยไม่ลังเล
โชคดีที่อีกฝ่ายไม่ทราบตัวตนที่แท้จริงของเขา


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ