บทที่ 521 ข่าวร้ายหรือข่าวดี
อำเภอเป่ยซี เรือนด้านหลังของศาลาว่าการอำเภอ
เมื่อได้ยินข่าวที่องครักษ์เสื้อแพรนำกลับมา หลี่จางก็เด้งตัวลุกขึ้นจากเก้าอี้ ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ
“อะไรนะ! กองกำลังค้นหาและปราบปรามแปดพันนายกับทหารม้ากองพลพญาอินทรีอีกสามพันนายกำลังปิดล้อมภูเขาชิงอวี้หรือ? ข่าวนี้แม่นยำหรือไม่?”
เสียงคำรามของหลี่จางดังก้องไปทั่วทั้งเรือนด้านหลัง หัวใจของทุกคนที่อยู่ที่นั่นแทบกระเด็นออกมานอกอก
กองกำลังหนึ่งหมื่นหนึ่งพันนาย ในนั้นยังมีกองกำลังชั้นยอดอยู่สามพันนายเข้าล้อมฉินเฟิง ส่วนฉินเฟิงมีกำลังคนเพียงสองร้อยนาย เว้นแต่จะมีปาฏิหาริย์เกิดขึ้น ฉินเฟิงคงจะต้องตายอย่างแน่นอน!
แต่ในสนามรบ ปาฏิหาริย์เป็นสิ่งที่ไม่อาจพึ่งพาได้ที่สุดแล้ว
ชั่วขณะหนึ่ง ความคิดที่น่าเศร้าอย่างยิ่งพุ่งเข้ามาในสมองของทุกคน
หรือว่า…
ฉินเฟิงที่มีชื่อเสียงไปทั่วใต้หล้า ก่อตั้งอำเภอเป่ยซีเพียงลำพังจะต้องตายในต่างแคว้นจริง ๆ?
เมื่อรู้สึกถึงสายตาเฉียบคมของทุกคน แม้แต่องครักษ์เสื้อแพรก็อดไม่ได้ที่จะประหม่าในใจ เขาไม่กล้าที่จะชักช้าแม้แต่น้อย รีบเอ่ยเสริมอย่างรวดเร็ว
“ตอบซื่อจื่อ ข่าวนี้เป็นความจริงอย่างแน่นอน! หลังจากที่พี่น้องของเราพยายามสืบข่าวอย่างไม่ลดละ เรื่องนี้เป็นที่ชัดเจนอย่างยิ่ง”
“นายน้อยฉินนำทหารม้าเกราะเบาเข้าไปในดินแดนเป่ยตี๋ เผชิญหน้ากับผู้คุมทัพของกองพลพญาอินทรี หลังจากสังหารผู้คุมทัพหมดแล้ว ในที่สุดเขาก็กลับมารวมตัวกับหนิงหู่อีกครั้ง ระหว่างทางกลับ ถูกหน่วยนกฮูกราตรีค้นพบร่องรอย กองพลพญาอินทรีและหน่วยนกฮูกราตรีของเป่ยตี๋วางกับดักซุ่มโจมตีนายน้อย”
“หลังจากที่นายน้อยฉินหนีกลับไปที่ภูเขาชิงอวี้ ภูเขาชิงอวี้ก็ถูกปิดล้อมทันที พร้อมกับตอนที่ชายแดนด้านตะวันออกทั้งหมดถูกทหารพรานเป่ยตี๋ปิดกั้น”
เมื่อพวกเขารู้ว่าฉินเฟิงนำทหารม้าเกราะเบาเป่ยซีทำลายล้างกองพลพญาอินทรีไปหนึ่งกองพล ทุกคนก็มีความหวังขึ้นมา ทว่าในพริบตาเดียวที่ถูกกองพลพญาอินทรีและนกฮูกราตรีวางแผนดักโจมตี ใบหน้าของทุกคนก็กลับมาซีดขาวอีกครั้ง
แม้แต่เสิ่นชิงฉือที่มักจะสงบและใจเย็นอยู่เสมอ ในเวลานี้ยังตื่นตระหนก รีบถามอย่างรวดเร็วว่า “กองทัพที่ปิดล้อมภูเขาชิงอวี้ได้ทำการโจมตีหรือไม่?”
องครักษ์เสื้อแพรโพล่งออกมา “นับตั้งแต่วันที่ปิดล้อมภูเขา การโจมตีก็ไม่เคยหยุดลง”
ทันทีที่สิ้นประโยค ทุกคนต่างก็รู้สึกสิ้นหวัง
แม้ว่าฉินเฟิงจะเป็นผู้เชี่ยวชาญการสงคราม ข้างกายมีพลทหารชั้นยอด แต่หากต้องเผชิญกับการล้อมและการปราบปรามของกองทัพที่มีจำนวนมากกว่าถึงห้าสิบเท่า เกรงว่าฝืนทนต่อสู้แค่รอบเดียวก็จะถูกตีจนพ่ายแพ้
ใต้หล้านี้ไม่มีใครที่สามารถหลีกหนีจากสถานการณ์ที่สิ้นหวังเช่นนี้ได้
ใบหน้าของเสิ่นชิงฉือซีดลง นางทรุดตัวนั่งบนเก้าอี้อย่างหมดแรง ดวงตามึนงงสับสนอยู่พักหนึ่ง
ท้ายที่สุดแล้ว นางคือคนที่ตัดสินใจยอมแพ้เรื่องการส่งกำลังเสริมไปช่วยฉินเฟิง ตอนนี้ฉินเฟิงตกอยู่ในอันตราย นางจึงรู้สึกว่ามันเป็นความรับผิดชอบของตัวเองอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
หากตอนนั้นสามารถเคลื่อนไหวและส่งกำลังเสริมไป แม้ว่าโอกาสจะน้อยแต่ก็ยังมีความหวังริบหรี่ ไหนเลยจะเป็นเหมือนตอนนี้ที่หมดหนทางจริง ๆ
หากฉินเฟิงเป็นอะไรไป นางจะไม่มีวันให้อภัยตัวเองตลอดชีวิต!
หลิ่วหงเหยียนมีสองหน้ามาโดยตลอด นางดูอ่อนโยนราวกับสายน้ำ แต่จริง ๆ แล้วลึกล้ำมากเล่ห์กล หลิ่วหงเหยียนเฝ้าดูฉินเฟิงเติบโตขึ้นมา เมื่อนางคิดว่าฉินเฟิงอาจตายในต่างแคว้น ดวงตาของนางก็แดงก่ำ ท่าทีที่มั่นคงพังทลายลง กลายเป็นความรู้สึกเศร้าโศกอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
น้ำตาไหลลงมาที่หางตาของหลิ่วหงเหยียน นางยกมือปิดปากกลั้นเสียงสะอื้น พยายามอย่างเต็มที่เพื่อไม่ให้ตัวเองร้องไห้โฮ
จิ่งเชียนอิ่งที่อยู่ด้านข้างจับกระบี่ล้ำค่าไว้แน่น ดวงตาแหลมคมเป็นอย่างยิ่ง นางเอ่ยเน้นทีละคำ “ข้าจะทำให้คนที่เปื้อนเลือดของเฟิงเอ๋อร์ต้องชดใช้!”

ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ