เข้าสู่ระบบผ่าน

บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ นิยาย บท 531

บทที่ 531 สู้ครั้งสุดท้าย

เมื่อได้รู้จากเซียวจั๋วว่าตั้งแต่เฉินซือสั่งให้ระดมกองกำลังชั้นยอดไปปิดล้อมภูเขาชิงอวี้ ข่าวที่ฉินเฟิงติดอยู่ในดินแดนศัตรูก็แพร่กระจายออกไป เนื่องจากความเร็วของทหารม้านับว่ารวดเร็วอย่างมาก สิบกว่าวันข่าวไปถึงแคว้นที่ราบสูงก็ไม่นับว่าแปลก

แต่ว่าปฏิกิริยาของทุกคนต่อเรื่องนี้อยู่นอกเหนือความคาดหมายของฉินเฟิง

ท้ายที่สุดแล้ว ในมุมมองของฉินเฟิง เขาสูญเสียผู้คนไปมากมาย ทั้งยังเกือบจะตายจากการขาดน้ำอยู่ในดินแดนไร้มนุษย์ของเป่ยตี๋ สามารถกล่าวได้ว่า ‘สังเวชจนไม่อาจทนดู’

ทำไมในสายตาคนอื่น ตัวเขาถึงกลายเป็น ‘วีรบุรุษต่อต้านเป่ยตี๋’ ไปได้?

แต่ตอนนี้เมื่อได้รับการช่วยเหลือแล้ว ฉินเฟิงก็ไม่มัวชักช้าอีกต่อไป มุ่งหน้าไปยังชายแดนภายใต้ความช่วยเหลือจากเซียวจั๋วทันที

สำหรับฉินเฟิงและเหล่าทหาร การเดินทางสี่ร้อยลี้ อย่างน้อยต้องใช้เวลาถึงยี่สิบวัน ไม่ต่างจากหน้าผาที่ไม่อาจข้ามผ่านไปได้

แต่เมื่อมีม้า สถานการณ์ก็แตกต่างออกไป เพียงแค่หนึ่งวันหนึ่งคืน ฉินเฟิงก็ยืนข้างศิลาแบ่งเขตแดนแล้ว

ภูเขาที่ไม่มีที่สิ้นสุดเบื้องหน้าพวกเขาคือดินแดนของแคว้นที่ราบสูง ทะเลทรายรกร้างที่ทอดยาวไม่มีที่สิ้นสุดเบื้องหลังพวกเขาคือดินแดนของเป่ยตี๋

ฉินเฟิงก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าว ข้ามผ่านพรมแดน เมื่อมองดูดินแดนของศัตรูที่เต็มไปด้วยอันตรายและการเสียสละของทหารจำนวนนับไม่ถ้วน ชายหนุ่มอดไม่ได้ที่จะทอดถอนใจ แอบสาบานว่าในอนาคตไม่ว่าต้องแลกด้วยอะไร เขาก็จะเอากระดูกของเหล่าทหารที่ตายในต่างแดนกลับไปยังอำเภอเป่ยซีเพื่อทำพิธีฝังศพให้ได้

เซียวจั๋วที่อยู่ด้านข้างสั่งทหารของเขาให้อาหารม้าและพักผ่อนชั่วคราว ในเวลาเดียวกันก็เตือนฉินเฟิงว่า “ฉินเชียนฮู่ ที่นี่มีทหารม้าลาดตระเวนของเป่ยตี๋อยู่มาก ไม่เหมาะที่จะรั้งอยู่นาน ควรรีบไปเมืองหลวงโดยเร็ว หลีกเลี่ยงการเกิดปัญหาวุ่นวาย”

มุ่งหน้าไปแคว้นที่ราบสูงเพื่อหลบภัยชั่วคราว นับว่าเป็นทางเลือกที่ดี

แต่หลังจากพิจารณาอย่างรอบคอบแล้ว ฉินเฟิงก็ปฏิเสธคำเชิญอันหวังดีของเซียวจั๋ว “แม่ทัพเซียว พวกข้าคือกองทัพต้าเหลียงที่แพ้สงคราม ตัวอยู่ต่างแคว้นคงสร้างความไม่สะดวกมากมาย มิอาจไปเมืองหลวงของแคว้นที่ราบสูงได้ หากในอนาคตมีโอกาส ข้าจะเข้าเฝ้าฮ่องเต้เป่ยตี๋ให้สมพระเกียรติแน่นอน”

“ตอนนี้สงครามระหว่างต้าเหลียงและเป่ยตี๋ยังคงไม่สิ้นสุด เราควรรีบกลับไปที่ชายแดนเหนือของแคว้นต้าเหลียงเพื่อช่วยเหลือโดยด่วน”

เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ ฉินเฟิงก็ประสานหมัดไปทางเซียวจั๋ว แววตาของเขาจริงใจอย่างยิ่ง “แคว้นที่ราบสูงยื่นมือช่วยเหลือ ผู้แซ่ฉินจะไม่มีวันลืม โปรดกลับไปบอกกองทัพของเจ้าว่า จากนี้ไปค่ายเทียนจีและแคว้นที่ราบสูง ไม่เพียงแต่มีความร่วมมือทางการค้า แต่จะเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ในทุกสถานการณ์ สินค้าจากการค้าทั้งหมด ยกกำไรให้แคว้นที่ราบสูงหนึ่งส่วน”

“เมื่อสงครามในแคว้นสงบลง หากเป่ยตี๋ตั้งใจจะโจมตีแคว้นที่ราบสูง ข้าฉินเฟิงจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อขอให้ฮ่องเต้ต้าเหลียงส่งกองกำลังไปช่วยเหลือ หากมีการเปลี่ยนแปลง แม้ว่าข้าจะใช้ทหารทุกนายในอำเภอเป่ยซีก็จะไม่ทิ้งพันธมิตรแคว้นที่ราบสูงให้อยู่ตามลำพัง”

เมื่อฉินเฟิงพูดถึงขนาดนี้ เซียวจั๋วก็ไม่ฝืนบังคับ

แคว้นที่ราบสูงยากจนและอ่อนแอมาโดยตลอด เกรงว่าทั้งพละกำลังและสมบัติจะไม่ถึงหนึ่งในสิบของต้าเหลียงหรือเป่ยตี๋เลยด้วยซ้ำ

ยามนี้ได้ผูกมิตรภาพลึกซึ้งกับค่ายเทียนจีนอกเหนือจากด้านการค้า นับว่าเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาแคว้นในอนาคตอย่างมาก หากฮ่องเต้ทรงทราบคงจะปลาบปลื้มพระทัยอย่างยิ่ง

เซียวจั๋วตื่นเต้นอย่างมากเมื่อคิดว่าการขาดแคลนเสบียงที่เป็นปัญหาของแคว้นมาหลายชั่วอายุคนจะได้รับการแก้ไขจึงสั่งให้ผู้ใต้บังคับบัญชามอบม้าศึกทั้งหมดให้กับฉินเฟิง ในเวลาเดียวกันก็มอบเสบียงในการเดินทัพด้วย เขาถึงขนาดส่งหน่วยสอดแนมออกไปนำทางฉินเฟิงเข้าสู่เส้นทางการค้าลับ

เส้นทางการค้าลับบุกเบิกตามแนวภูเขาที่ต่อเนื่องกันบริเวณพรมแดนระหว่างแคว้นที่ราบสูง เป่ยตี๋ และต้าเหลียง โดยตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันตกของภูเขา ห่างจากขอบเขตการมองเห็นของเป่ยตี๋เพียงเล็กน้อย

ฉินเฟิงนำทหารที่เหลืออีกแปดสิบสามนายเร่งเดินทางทั้งวันทั้งคืน ใช้เวลาเพียงสองวันก็เข้าสู่ดินแดนของแคว้นต้าเหลียงและอีกหนึ่งวันก็ไปถึงเชิงเขาทางตอนเหนือของภูเขาอิงกังที่ติดกับชายแดนเหนือ

ตราบใดที่ผ่านภูเขาอิงกังไปได้ อำเภอเป่ยซีก็อยู่เบื้องหน้าแล้ว

บทที่ 531 สู้ครั้งสุดท้าย 1

Verify captcha to read the content.ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ