บทที่ 60 ฉวยโอกาสเล่นลูกไม้
กฎแห่งฟิสิกส์? งัดโลก?
หากเป็นผู้อื่นพูดเรื่องไร้สาระเหล่านี้คงต้องถูกลงโทษทันทีฐานหลอกลวงเบื้องสูง แต่เมื่อพ่นออกมาจากปากฉินเฟิง ทุกคนกลับคิดว่าเป็นเรื่องปกติ แม้แต่ฝ่ายตรงข้ามในราชสำนักของตระกูลฉินก็ยังไม่แปลกใจ
เมื่อเห็นนายน้อยตระกูลฉินยืนอยู่ที่นั่นราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น ฉินเทียนหู่ก็ยกขาเตะบุตรชายไปหนึ่งที ก่อนจะพูดอย่างเจ็บใจที่ไม่สามารถหลอมเหล็กให้กลายเป็นเหล็กกล้าได้ “ยืนเซ่ออะไรอยู่ เหตุใดไม่รีบขอบพระทัยฝ่าบาทสำหรับพระมหากรุณาธิคุณ!”
ฉินเฟิงกระโดดหนีไปไกล จะให้คุกเข่าลงหรือ? ไม่มีทาง! ชีวิตนี้ข้าไม่มีวันคุกเข่า!
ในใจฉินเฟิงตะคอกอย่างเย็นชา ‘ฮ่องเต้เฒ่าเอ๊ย! รู้ทั้งรู้ว่าการต่อสู้ระหว่างกรมกลาโหมกับกรมคลังไม่มีทางสิ้นสุด และตระกูลของหย่งอันโหวก็เป็นฝ่ายต่อต้านสงคราม แต่เขากลับวางท่าใหญ่โตต่อหน้าผู้คนมากมาย เห็นได้ชัดว่าต้องการใช้ประโยชน์จากสถานการณ์ดังกล่าว โยนขี้มาให้ข้าแท้ ๆ! ตาแก่นี่ไม่ใช่แค่โจรธรรมดา แต่เป็นโจรที่ชั่วช้าเสียด้วย!’
ผลของการแข่งขันถูกส่งไปที่ลานด้านข้างที่บรรดาสตรีนั่งอยู่ ทันทีเมื่อรู้ว่าฉินเฟิงเอาชนะหนิงหู่ด้วยความชาญฉลาดได้ พวกนางก็รู้สึกประหลาดใจในคราแรก แต่ไม่นานความสงสัยก็ถูกแทนที่ด้วยถ้อยคำถากถางทุกประเภท
หลี่หนิงฮุ่ยหยิบถ้วยชาขึ้นมาเป่าให้หายร้อน และพูดด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน “ก่อนหน้านี้ข้ากังวลว่า ท่านโหวน้อยอาจจะไม่สามารถเอาชนะฉินเฟิงได้ และข้าก็เดาถูกจริงเสียด้วย หึหึหึ นับประสาอะไรกับท่านโหวน้อย ต่อให้เป็นทั้งเมืองหลวง หรือทั่วทั้งต้าเหลียง ก็เกรงว่าจะไม่มีผู้ใดเอาชนะนายน้อยฉินได้แล้วกระมัง”
สาวใช้ที่อยู่ด้านข้างผสมโรงอย่างรวดเร็ว นางแสร้งทำเป็นประหลาดใจและถามว่า “คุณหนู รู้ได้อย่างไรเจ้าคะ? มีคำกล่าวว่า เหนือฟ้ายังมีฟ้า ไม่ว่านายน้อยฉินจะเก่งกาจเพียงใดก็ไม่มีทางไร้คู่ต่อกรในใต้หล้านี้กระมัง?”
หลี่หนิงฮุ่ยถอนหายใจ แสร้งทำเป็นหมดหนทาง “แน่นอนว่าสุภาพบุรุษไม่สามารถเอาชนะคนชั่วได้”
สตรีในที่นั้นเดิมทีก็ไม่เห็นฉินเฟิงในสายตา หลังจากได้ยินคำพูดของหลี่หนิงฮุ่ย ความรู้สึกเหยียดหยามก็ทวีความรุนแรงขึ้นทันที พวกนางทั้งหมดกล่าวหาฉินเฟิงว่าเป็นคนชั่วที่รู้จักแต่เล่นเล่ห์เพทุบาย ไม่สามารถคว้าชัยชนะมาได้อย่างถูกต้อง
แม้หลิ่วหงเหยียนจะเดือดดาลเพียงใดก็ไม่ได้แก้ตัว สุดท้ายแม้แต่ฝ่าบาทยังยอมรับว่าฉินเฟิงได้รับชัยชนะ แล้วเหตุใดต้องสนลมปากของแม่นางเหล่านี้เล่า?
ขอแค่ฉินเฟิงควบคุมตัวเอง และไม่กระทำการน่าตกใจใด ๆ อีกก็เป็นพอ
แม้บรรยากาศบริเวณลานสนามจะดูกลมเกลียว แต่แท้จริงแล้วมีกระแสน้ำปั่นป่วนอยู่เบื้องหลัง การที่ฮ่องเต้แคว้นต้าเหลียงสรรเสริญฉินเฟิงเมื่อครู่ ไม่เพียงเป็นการตบหน้าพ่อลูกตระกูลหนิงเท่านั้น แต่ยังทำให้ฝ่ายกรมคลังรู้สึกราวกับนั่งอยู่บนเข็ม
แม้จะทราบกันดีว่ากรมกลาโหมและกรมคลังแยกป้อมกัน เนื่องด้วยเรื่องส่งทหารไปเป่ยตี๋
แต่ไม่ว่าจะเป็นกองกำลังในราชสำนักหรือความคิดเห็นของราษฎรในตอนนี้ ก็ล้วนเป็นประโยชน์ต่อฝ่ายกรมคลังทั้งสิ้น
หากไม่ใช่เพราะฮ่องเต้แคว้นต้าเหลียงมีแนวโน้มว่าอยากทำศึก พวกเขาคงจัดการฉินเทียนหู่ได้อย่างไม่มีอะไรต้องกังวลนานแล้ว
ตอนนี้ฉินเฟิงไม่เพียงขโมยความโดดเด่ดในงานเลี้ยงวันคล้ายวันพระราชสมภพของจี้อ๋องไปเท่านั้น แต่ยังได้รับคำชมจากฝ่าบาทต่อหน้าธารกำนัลอีกด้วย จึงมีขุนนางที่วางตัวเป็นกลางไม่น้อยเริ่มเอนเอียงไปเข้าข้างเสนาบดีกรมกลาโหม
หากฉินเทียนหู่ได้รับอำนาจและการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากฮ่องเต้แคว้นต้าเหลียง เรื่องส่งกองกำลังไปรบกับเป่ยตี๋ย่อมไม่อาจเลี่ยงลิขิตสวรรค์
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ เสนาบดีกรมคลังรีบขยิบตาทันที พอเลขาธิการกรมคลังเห็นดังนั้น เขาก็เรียกเฉิงฟามากระซิบสองสามคำ พลันบุตรชายเลขาธิการกรมคลังก็รีบไปยุยงหนิงหู่

ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ