บทที่ 605 หลบหนีอย่างดุเดือด
เมื่อได้ยินคำสั่งของฉินเฟิง เสนาบดีกรมยุติธรรมตกใจจนหน้าซีด ผู้บัญชาการศาลต้าหลี่สีหน้าย่ำแย่ไม่ต่างกัน
รองผู้บัญชาการองครักษ์หลวงตะโกนสั่ง “ปกป้องใต้เท้า!”
องครักษ์หลวงละทิ้งการไล่ล่า มุ่งหน้าไปยังศาลาตัดสิน
เมื่อองครักษ์หลวงเปลี่ยนเป้าหมาย แรงกดดันในการหลบหนีก็ลดฮวบ ทหารรักษาพระราชวังเพียงอย่างเดียวไม่อาจขัดขวางฉินเฟิงและคนอื่น ๆ ที่กำลังหลบหนีสุดชีวิตได้เลย
หนิงหู่นำองครักษ์ค่ายเทียนจี บุกตรงไปยังลานประหาร
รองผู้บัญชาการองครักษ์หลวงนำทหารทั้งหลายตั้งรับอยู่ข้างลาน ก่อเป็นแนวป้องกันแน่นหนา
น่าเสียดายที่ทุกกคนลืมไปว่า ยามวิกฤติการโจมตีคือการป้องกันที่ดีที่สุด
องครักษ์หลวงทั้งหลายมุ่งแต่จะปกป้องเสนาบดีกรมยุติธรรมกับผู้บัญชาการศาลต้าหลี่ จนละทิ้งการยิงธนูสกัดกั้น
กลับกัน หนิงหู่กับองครักษ์ค่ายเทียนจี แม้จะยังอยู่ห่างจากศาลาตัดสินไกลโข ก็เริ่มยิงธนูแล้ว
เผชิญกับลูกธนูเจาะเกราะที่แม่นยำ องครักษ์หลวงไร้ทางสู้ ได้แต่พึ่งเกราะบนร่างกายต้านทานและยืนหยัด
เมื่อหนิงหู่บุกมาถึงศาลาตัดสิน รอบ ๆ ก็เหลือองครักษ์หลวงไม่ถึงสิบคนแล้ว
ทว่าลูกธนูขององครักษ์ค่ายเทียนจีก็หมดลงแล้วเช่นกัน
“ฆ่าให้หมด!”
เมื่อหนิงหู่ตะโกนสั่ง องครักษ์ค่ายเทียนจีทิ้งคันธนู ดึงแหลนที่ผลิตพิเศษของค่อยเทียนจีออกมา บุกเข้าไปยังศาลาตัดสิน
การต่อสู้ระยะประชิดดุเดือดและรวดเร็ว
เพียงไม่กี่ลมหายใจ องครักษ์หลวงถูกสังหาหมดสิ้น ไม่เว้นแม้แต่รองผู้บัญชาการ
ขณะที่ฝ่ายทหารค่ายเทียนจีก็ต้องจ่ายด้วยราคาแสนสาหัส ด้วยมีผู้เสียชีวิตถึงห้าคน
สามสิบต่อสิบ แต่ยังฆ่าทหารค่ายเทียนจีได้ถึงห้าคน แสดงให้เห็นว่าพลังการต่อสู้ของ องครักษ์หลวงไม่ธรรมดาเช่นกัน
หนิงหู่ไม่กล้าลังเล กระโดดขึ้นไปบนศลาตัดสิน ลากตัวเสนาบดีกรมยุติธรรมที่ซ่อนตัวอยู่ใต้โต๊ะออกมา
“ขุนนางชั่วเช่นเจ้าไม่ใช่หรือที่หยิ่งผยองนัก ข้าจะดูซิว่าเจ้ายังจะเห่าหอนได้อีกหรือไม่!”
เสนาบดีกรมยุติธรรมหน้าซีดเผือด วิญญาณแทบจะหลุดออกจากร่าง
แม้แต่ในความฝันก็ไม่อาจฝัน ไม่คิดเลยว่าเสนาบดีผู้สูงศักดิ์ ทั้งยังอยู่ในเมืองหลวง จะถูกจับเป็นตัวประกัน
เสนาบดีกรมยุติธรรมกลืนน้ำลายเหนียวหนืด เสียงสั่นเทา “หนิง…หนิงหู่ ข้าคือเสนาบดีแห่งต้าเหลียง หากเจ้ากล้า…”
ยังไม่ทันจบประโยค หนิงหู่ก็ตบหน้าเสนาบดีกรมยุติธรรมจนตาลาย
“อย่าพูดมากเสียเวลา ถึงขั้นนี้แล้ว เจ้าคิดว่าข้าจะสนใจอีกหรือ ว่าเจ้าเป็นอะไร!”
หนิงหู่โยนเสนาบดีกรมยุติธรรมให้องครักษ์ค่ายเทียนจี แล้วตรงไปหาผู้บัญชาการศาลต้าหลี่
พอจับตัวขุนนางควบคุมการประหารทั้งสองได้ พวกเขาก็ไปสมทบกับฉินเฟิง บุกฝ่าออกจากลานประหาร มุ่งหน้าสู่ประตูเมืองหลวง
ผู้คนที่มาดูการประหารต่างแหวกทางให้
ส่วนลูกหลานขุนนางในเมืองหลวงที่เคยตะโกนด่าทออย่างบ้าคลั่ง บัดนี้ หวาดกลัวจนหัวหด ซ่อนตัวอยู่ในฝูงชน ไม่กล้าแม้แต่จะหายใจดัง
แม้ฉินเฟิงจะอยากจัดการกับพวกขุนนางและลูกหลานขุนนางพวกนี้นัก แต่สถานการณ์เร่งด่วนเช่นนี้ ไม่เหมาะสมจะเสียไปกับพวกไร้ประโยชน์
“วิ่งไปอย่างหยุด มุ่งหน้าสู่ประตูเมือง!”
ฉินเฟิงตะโกนเสียงดัง ทว่าวิ่งไปได้ไม่กี่ก้าว เสียงฝีเท้าหนัก ๆ ก็ดังขึ้นด้านหน้า
ทหารลาดตระเวนสวมเกราะ ถืออาวุธครบมือกำลังมุ่งหน้ามา เป็นกองกำลังที่มีหลายร้อยคนทีเดียว
ทหารลาดตระเวนกับฉินเฟิงนับว่าเป็นคนคุ้นเคย
สวีโม่กับองครักษ์ค่ายเทียนจีก็ล้วนมาจากกองทหารหน่วยลาดตระเวนทั้งสิ้น
ตอนนี้ต้องเผชิญกันเอง ไม่ว่าจะเป็นฉินเฟิง หรือเหล่าทหารหน่วยลาดตระเวน ล้วนไม่อยากให้เหตุการณ์นี้เกิดขึ้น


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ