บทที่ 624 ผู้สนันสนุนอย่างเป็นทางการ
ทั่วทั้งเมืองหลวง ผู้คนต่างพากันจับกลุ่มพูดคุย เสียงถกเถียงดังระงม
“ได้ยินหรือไม่ องค์ชายรองถูกส่งตัวไปที่สำนักขุนนางฝ่ายในแล้ว”
“หา?! เมื่อไม่นานมานี้ข้ายังได้ยินมาว่าองค์ชายรองใกล้จะได้เป็นองค์รัชทายาทเต็มที ไฉนจู่ ๆ กลับกลายเป็นนักโทษไปได้เล่า?”
“ก็จะอะไรเล่า เรื่องคดีของหนิงกั๋วกงน่ะสิ”
“พวกเจ้าคิดดู เบื้องหลังหนิงกั๋วกงมีผู้ใดหนุนอยู่”
“ฉินเฟิง?”
“ถูกต้อง นายน้อยฉินบุกลานประหาร แล้วยังหนีรอดมาได้ คราวนี้องค์ชายรองเตะโดนแผ่นเหล็กเข้าให้แล้ว”
“ต่อให้ฉินเฟิงจะเก่งกาจ แต่จะถึงขั้นโค่นล้มองค์ชายรองได้หรือ?”
“องค์ชายรองแล้วอย่างไร? ฉินเฟิงมีชายแดนเหนือหนุนหลัง มีทหารภายใต้บังคับบัญชามากมาย ไหนจะยังมีค่ายเทียนจี โรงฝีมือ และกิจการอีกมากมาย ร่ำรวยเทียบเท่าเมืองหลวง”
“ที่สำคัญที่สุด…”
บัณฑิตผู้หนึ่งที่ราวกับรู้ตื้นลึกหนาบางดี มองไปรอบ ๆ ยืนยันว่าไม่มีทหารหรือขุนนาง ก่อนจะรวบรวมความกล้า กระซิบแผ่วเบา
“แม้แต่ฮ่องเต้ต้าเหลียง ตอนนี้ก็ยังไม่กล้าลงมือกับฉินเฟิงอย่างโจ่งแจ้ง”
“อย่างน้อยที่สุด ความดีความชอบมากมายของฉินเฟิง ก็สามารถปกป้องชีวิตเขาได้สามปี”
ผู้คนต่างก็นึกขึ้นได้ พากันคิดว่าคำพูดของบัณฑิตผู้นี้ค่อนข้างมีเหตุผล
หากฉินเฟิงไร้อำนาจ ฮ่องเต้แคว้นต้าเหลียงย่อมใส่ร้ายป้ายสี กำจัดเขาได้อย่างง่ายดาย
แต่ตอนนี้ ฉินเฟิงมีอำนาจล้นฟ้า ฮ่องเต้แคว้นต้าเหลียงต้องไตร่ตรองให้รอบคอบก่อน ไม่อาจลงมือสุ่มสี่สุ่มห้า
ด้วยเหตุนี้ เพื่อเป็นการเอาใจฉินเฟิง ฮ่องเต้แคว้นต้าเหลียงจึงยอมสละกระทั่งหลี่เฉียน ผู้เป็นองค์ชายรอง
ราษฎรเมืองหลวงต่างพากันซุบซิบนินทา ความยำเกรงต่อฉินเฟิงมากขึ้นเรื่อย ๆ
ขณะเดียวกัน บรรยากาศภายในจวนตระกูลฉินก็คึกคักเป็นพิเศษ
หากเป็นบุคคลอื่น หลังออกจากคุก ขุนนางในเมืองหลวงย่อมหลีกเลี่ยงการพบปะด้วย จนกว่าเรื่องราวจะเงียบหาย จึงค่อยทยอยเดินทางมาแสดงความยินดี
แต่กฎข้อนี้เหมือนจะใช้ไม่ได้กับตระกูลฉิน
ขุนนางและผู้มีชื่อเสียงในเมืองหลวงต่างพากันนำของขวัญมาเยี่ยมเยียน แสดงความยินดี กระทั่งผู้บัญชาการสำนักไท่ฉาง เสนาบดีกรมขุนนาง ก็มาด้วย
“ฮ่า ๆๆๆ ใต้เท้าฉิน ไม่ได้พบกันนาน ท่านสบายดีหรือไม่? ได้ยินมาว่าฉินเฟิงกับท่านเซี่ยปี้พ้นผิดแล้ว”
“ข้าน้อยตั้งใจมาแสดงความยินดี คนดีผีคุ้ม รอดพ้นภัยพิบัติทั้งปวง”
“ถูกต้องแล้ว! นายน้อยฉินกับหนิงกั๋วกงบริสุทธิ์ ย่อมไม่หวั่นเกรงเงา ไม่ถูกใส่ร้ายป้ายสีง่าย ๆ”
ฉินเทียนหู่รับมือกับเหล่าขุนนางที่เดินทางมาอย่างไม่ขาดสาย
จริง ๆ แล้วยามนี้ ตระกูลฉินควรน้อมตัวลงต่ำเข้าไว้
น่าเสียดาย อิทธิพลของตระกูลฉินใหญ่โตเกินกว่าจะปกปิด
ฉินเทียนหู่จึงเลิกกังวล อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด
ตอนนั้นเอง ท่านผู้บัญชาการสูงสุดกองทัพมังกรซ่อนพยัคฆ์ก็พาจ้าวอวี้หลงมาที่จวนตระกูลฉิน
พอเห็นฉินเทียนหู่ ก็เดินตรงเข้าหา สวมกอดทักทายกัน
“ใต้เท้าฉิน นับตั้งแต่ร่ำลากันที่ประตูเมือง ข้าก็รู้ว่าเราต้องได้พบกันอีกครั้งในไม่ช้า”
“อวี้หลง ยังยืนนิ่งอยู่ไย รีบเรียกท่านลุงเร็วเข้า!”
จ้าวอวี้หลงไม่ลังเล รีบโค้งคำนับฉินเทียนหู่อย่างนอบน้อม ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับฉินเฟิงแน่นแฟ้นไม่มีทางตัดขาด เขาย่อมนับถือฉินเทียนหู่
ฉินเทียนหู่ประคองจ้าวอวี้หลงให้ลุกขึ้น ตบไหล่หนัก ๆ สายตาชื่นชม
“ครั้งคุณชายจ้าวอยู่ในเมืองหลวงก็โดดเด่นอยู่แล้ว ยิ่งมีประสบการณ์ในสนามรบชายแดนเหนือ ตอนนี้มีสง่าราศีของแม่ทัพใหญ่จริง ๆ”
“อนาคตไร้ขอบเขตแลล้ว!”
ได้ยินฉินเทียนหู่ชมบุตรชายเช่นนี้ ท่านผู้บัญชาการใหญ่ก็หัวเราะเสียงดัง
“ฮ่า ๆ”
“ใต้เท้าฉินกล่าวเกินไป อวี้หลงมีวันนี้ได้ ก็ต้องขอบคุณนายน้อยฉินทั้งนั้น”


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ