เข้าสู่ระบบผ่าน

บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ นิยาย บท 625

บทที่ 625 กึ่งหนึ่งของราชสำนักเป็นคนของตระกูลฉิน

แม้ปากจะบอกว่าสั่งสอน แต่แววตากลับเต็มไปด้วยความเอ็นดู

ในบรรดาบุตรหลานขุนนางแห่งเมืองหลวง มีเพียงฉินเฟิงที่จี้อ๋องถูกชะตา ทั้งนิสัยใจคอก็ถือว่าเป็นเลิศ

ตลอดมาจี้อ๋องถือว่าฉินเฟิงเป็นดังหลานในไส้

ส่วนเรื่องบาดหมางระหว่างฉินเฟิงกับองครักษ์หลวง หรือแม้แต่กับราชวงศ์หลี่ จี้อ๋องเพียงวางตัวเป็นกลาง ไม่เข้าข้างฝ่ายใด

ทว่าลึก ๆ แล้ว กลับไม่เห็นด้วยกับวิธีถ่วงดุลอำนาจอย่างเย็นชาของฮ่องเต้แคว้นต้าเหลียง

การรวมพระราชอำนาจไม่ใช่เรื่องผิด

แต่หากไม่คำนึงถึงน้ำใจ ไมตรี แม้แต่ขุนนางผู้มีความชอบต่อแคว้นก็คิดกำจัดทิ้งได้โดยง่าย

เช่นนั้นแล้ว ย่อมก่อให้เกิดความแตกแยกในหมู่ขุนนาง ใครเล่าจะจงรักภักดีต่อราชวงศ์หลี่อย่างแท้จริง

ทว่าจี้อ๋องมีแต่ชื่อเสียงแต่ไร้อำนาจ นอกจากจะด่าทอเรื่องราวเหล่านี้ลับหลังแล้ว ก็ทำอะไรไม่ได้

การมาเยือนจวนสกุลฉินคราวนี้ นับเป็นการแสดงออกถึงความไม่พอใจต่อวิธีการของฮ่องเต้แคว้นต้าเหลียงอย่างหนึ่งของจี้อ๋อง

เป็นการเตือนฮ่องเต้แคว้นต้าเหลียงว่า ทุกสิ่งย่อมมีขอบเขต หากล้ำเส้น แม้มีอำนาจมากเพียงใด แข็งแกร่งเพียงใด สุดท้ายก็จะกลายเป็นเป้าโจมตีของคนทั้งปวงได้

“ฉินเฟิงอยู่ที่ใด? ไยยังไม่ออกมาให้ข้าสั่งสอนอีก?”

จี้อ๋องตวาดลั่น แสร้งทำเสียงดัง

เหล่าขุนนาง กระทั่งฉินเทียนหู่ต่างพากันหัวเราะ

“ฮ่า ๆๆ ท่านอ๋อง ไว้ชีวิตเขาสักครั้งเถิดขอรับ”

“เจ้าเด็กนั่นไม่ได้หลับไม่ได้นอนมาทั้งคืน ตอนนี้กำลังหลับอยู่ที่ลานด้านหลัง”

“หรือไม่เช่นนั้น ให้ข้าน้อยไปลากตัวฉินเฟิงมาให้ ดีหรือไม่ขอรับ?”

จี้อ๋องครางรับเบา ๆ ก่อนสะบัดแขนเสื้อ “เช่นนั้นวันนี้ข้าจะไว้ชีวิตสักครั้งก็แล้วกัน”

ทุกคนพากันหัวเราะอีกครั้ง

ฉินเทียนหู่มองภาพตรงหน้าด้วยความตื้นตันใจ เลือดในกายพลุ่งพล่าน

กระทั่งช่วงเวลาที่สกุลฉินรุ่งเรืองที่สุด เทียบกับตอนนี้แล้ว ก็ยังต่างกันราวฟ้ากับดิน

เหล่าขุนนางและผู้มีอำนาจในเมืองหลวงพากันมามอบมิตรไมตรีกับตระกูลฉิน ทั้งหมดนี้ก็เพราะฉินเฟิง

เกียรติยศนี้ยากจะหาใดเปรียบ

ตอนนี้ฉินเฟิงได้พิสูจน์คำพูดที่ว่า ‘ในอันตรายย่อมมีโอกาส’ แล้ว

หลังผ่านสถานการณ์เสี่ยงตายมานับครั้งไม่ถ้วน ฉินเฟิงได้กลายเป็นบุคคลที่ไม่มีใครในวัยเดียวกันเทียบเทียมได้

อย่างเหล่าบุคคลสำคัญจากทุกแวดวงที่มาร่วมแสดงความยินดีในวันนี้สิ พวกเขามาเพราะฉินเทียนหู่ ผู้เป็นเสนาบดีกลาโหมอย่างนั้นรึ? เห็นได้ชัดว่าพวกเขามาเพราะฉินเฟิงต่างหาก

สกุลฉินมีบุตรชายเช่นนี้ นับว่าเป็นวาสนาของบรรพบุรุษตระกูลฉิน

ฉินเทียนหู่ยิ้มจนแก้มปริ เสียดายเพียงภรรยาไม่ได้อยู่ร่วมชื่นชมความรุ่งเรืองวันนี้…

พระราชวังต้องห้าม ห้องทรงพระอักษร

องครักษ์ชุดดำนำบัญชีรายชื่อขุนนางที่ไปเยือนจวนตระกูลฉินถวายฮ่องเต้แคว้นต้าเหลียง

ฮ่องเต้แคว้นต้าเหลียงเปิดดูรายชื่อเงียบ ๆ

“เสนาบดีกรมพิธีการ เสนาบดีกรมคลัง ผู้บัญชาการใหญ่กองทัพมังกรซ่อนพยัคฆ์ ผู้บัญชาการสำนักไท่ฉาง จี้อ๋อง หย่งอันโหว…”

“เฮอะ”

ฮ่องเต้แคว้นต้าเหลียงแค่นหัวเราะ ในใจขมขื่นนัก เขาฉีกบัญชีรายชื่อเป็นชิ้น ๆ

องครักษ์ชุดดำประหลาดใจ

“ฝ่าบาท เหตุใดถึง…”

“วันนี้ตระกูลฉินรุ่งเรืองถึงขีดสุด แต่คำกล่าวที่ว่ายิ่งสูง ยิ่งหนาว ไม่เกินจริง”

“สักวันหนึ่ง ตระกูลฉินจะต้องล่มสลาย และจากนิสัยกับการกระทำของฉินเฟิง วันนั้นคงอีกไม่นานแล้ว”

“พอถึงตอนนั้น จับกุมคนในบัญชีรายชื่อทั้งหมด”

หากเป็นเมื่อก่อน ฮ่องเต้แคว้นต้าเหลียงคงโยนบัญชีรายชื่อใส่หน้าองครักษ์ชุดดำ และด่าทอว่าโง่เง่าไปแล้ว

ทว่าบัดนี้ ดวงตาของฮ่องเต้แคว้นต้าเหลียงกลับเต็มไปด้วยความเหนื่อยล้า ไม่อยากแม้แต่จะโกรธเคืององครักษ์ชุดดำ ทรงเอ่ยอย่างหมดอาลัยตายอยาก “เจ้าเป็นแค่องครักษ์ ไม่ต้องมายุ่งเรื่องนี้”

“ทำหน้าที่ของเจ้าให้ดีก็พอ ไม่ต้องเสนอความเห็นใด ๆ ทั้งนั้น”

บทที่ 625 กึ่งหนึ่งของราชสำนักเป็นคนของตระกูลฉิน 1

บทที่ 625 กึ่งหนึ่งของราชสำนักเป็นคนของตระกูลฉิน 2

Verify captcha to read the content.ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ