บทที่ 633 ไม่มีกุ้ยเฟยอีกแล้ว
การบูรณะหมิ่งเยว่ไจเป็นไปอย่างราบรื่น รวดเร็ว
แม้กำแพงไม่อาจขยับขยาย แต่แบบแผนห้องหับภายในปรับเปลี่ยนได้ดังใจ
ห้องบ่าวรับใช้ถูกเปลี่ยนเป็นห้องทหารที่ประจำการณ์อยู่ที่นี่
เรือนด้านหลัง นอกจากที่จำเป็น
ส่วนที่เหลือถูกเปลี่ยนเป็นคลังเสบียง
ทางด้านค่ายเทียนจีก็ก้าวหน้ารวดเร็วเช่นกัน
แม้จะถูกจำกัดด้วยอำนาจของฮ่องเต้ต้าเหลียง เกณฑ์ทหารของเมืองหลวงมาไม่ได้
แต่ก็สามารถรับสมัครจากยี่สิบหกอำเภอรอบเมืองหลวงได้
เหล่าทหารที่ผ่านการคัดเลือก ล้วนถูกพามาค่ายเทียนจีในเมืองหลวง แล้วฝึกฝนอย่างเข้มงวด
ขณะที่ฉินเฟิงกำลังดำเนินการอย่างต่อเนื่อง
องครักษ์เสื้อแพรก็นำข่าวร้ายมาแจ้ง
“นายน้อย ทูตเป่ยตี๋เดินทางมาถึงเขตแดนแคว้นต้าเหลียงแล้ว”
“หากเดินทางด้วยความเร็วเช่นนี้ อีกไม่นาน ก็จะถึงเมืองหลวง”
สิ่งใดจะมาถึง ก็ย่อมต้องมาถึง
การมาเยือนของคณะทูตเป่ยตี๋คราวนี้ หมายความว่า สงครามระหว่างแคว้นต้าเหลียงกับเป่ยตี๋จะยุติลงอย่างแท้จริงเสียที
สิ่งที่รอคอยทั้งสองแคว้นอยู่คือการฟื้นฟู
เมื่อปราศจากแรงกดดันจากเป่ยตี๋ ฮ่องเต้ต้าเหลียงก็สามารถปล่อยมือทางนั้น แล้วแก้ไขปัญหาความขัดแย้งภายในได้อย่างเต็มที่ รวมถึงจัดการเขาด้วย
แต่ฉินเฟิงก็เตรียมตัวไว้แล้ว ไม่ถือว่าตึงเครียดนัก
ฉินเฟินพยักหน้ารับรู้
องครักษ์เสื้อแพรรายงานต่อ “เรื่องร้านธัญพืชตระกูลฉิน เนื่องจากขาดการจัดการ ร้านธัญพืชตระกูลฉินเลยกำลังเผชิญกับภาวะวิกฤติ”
ได้ยินข่าวร้ายนี้ หัวใจของฉินเฟิงกระตุกวูบ
ร้านธัญพืชตระกูลฉินนับเป็นอาวุธสำคัญชิ้นหนึ่งที่ฉินเฟิงใช้คานอำนาจ กระทั่งโจมตีตระกูลหลินแห่งเจียงหนาน
เพียงแต่ช่วงที่ผ่านมาเกิดเรื่องมากมายนัก
แม้ฉินเฟิงจะมีสามหัวหกแขน ก็ไม่อาจแบ่งร่างไปดูแลร้านธัญพืชได้
ฉินเฟิงเองก็พอคากการณ์ไว้แล้วว่าอาจเกิดเหตุเช่นนี้
เพียงแต่ไม่คาดคิดว่า พอเกิดเรื่อง ก็ถึงขั้นสิ้นหวังแล้ว
ฉินเฟิงขมวดคิ้วเล็กน้อย “นับตั้งแต่ตระกูลฉินขายอุตสาหกรรมน้ำตาล ร้านหนังสือ และธุรกิจหลักอื่น ๆ ไป”
“ร้านค้าธัญพืชก็ถือเป็นแหล่งรายได้หลัก รองจากการขายลูกกวาด”
“แม้ช่วงนี้ข้าจะละเลยการดูแลไปบ้าง แต่ไม่น่าจะถึงกับล้ม”
องครักษ์เสื้อแพรก้มศีรษะลงต่ำ ตอบกลับด้วยเสียงเคร่งขรึม
“วิกฤติร้านค้าธัญพืชตระกูลฉินที่เกิดขึ้น ไม่ใช่ปัญหาของร้านค้าเอง”
“แต่เป็นเพราะถูกปิดกั้นและกดดันจากตระกูลจ้าว ที่ทำกิจการการค้าธัญพืชรายใหญ่ของทางเหนือขอรับ”
“ตระกูลจ้าวหรือ?”
ฉินเฟิงครุ่นคิด
ราวกับนึกขึ้นได้ ก่อนหน้านี้องครักษ์เสื้อแพรเหมือนจะเคยบอกเรื่องนี้แล้ว
ตระกูลจ้าวเป็นตระกูลใหญ่ที่สร้างฐานะมาจากการค้าข้าว
ด้วยการการสนับสนุน มีอำนาจมากขึ้น เลยอยากจะจัดการกับร้านค้าธัญพืชของตระกูลฉิน
ตอนนั้นฉินเฟิงไม่ได้ใส่ใจเท่าใดนัก
ตระกูลจ้าวมีเหล่าขุนนางเก่าฝ่ายราชวงศ์สนับสนุน นับว่าเป็นการได้รับแรงหนุนจากราชวงศ์หลี่ทางอ้อม
ส่วนจุดประสงค์ของร้านธัญพืชตระกูลฉิน เดิมทีก็เพื่อกดข่มตระกูลหลิน ให้ราคาข้าวที่พุ่งสูงกลับสู่ระดับปกติ
เป็นผลดีแก่แคว้นต้าเหลียง
ต่อให้ราชวงศ์หลี่จะเกลียดชังฉินเฟิง แต่ย่อมไม่บุ่มบ่ามทำเรื่องที่ต้องสูญเสียผลประโยชน์
ไม่คาดคิดเลยว่า พวกเขาจะลงมือ
เรื่องนี้เหนือความคาดหมายของนายน้อยฉินมาก
ขณะที่ฉินเฟิงกำลังจะไปตรวจสอบบัญชีร้านค้าธัญพืช องครักษ์เสื้อแพรอีกคนก็เข้ามา
“นายน้อย กุ้ยเฟยออกจากพระราชวังขอรับ”
ฉินเฟิงที่กำลังยืนอยู่ ทิ้งตัวนั่งลง


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ