เข้าสู่ระบบผ่าน

บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ นิยาย บท 655

บทที่ 655 คณะทูตแผลงฤทธิ์

คณะทูตเป่ยตี๋เดินทางรวดเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้มาก

เดิมที ฉินเฟิงคาดว่าคณะทูตเป่ยตี๋น่าจะใช้เวลาอีกราวสิบกว่าวันถึงจะเข้าเขตเมืองหลวง

แต่กลายเป็นว่า ฉินเฟิงเพิ่งกลับถึงเมืองหลวง ก้นยังไม่ทันได้แตะเก้าอี้ ก็ได้ยินข่าวว่าคณะทูตเป่ยตี๋เข้าเขตเมืองหลวงมาแล้ว

ฉินเฟิงรีบออกไปดู

ถนนสายหลักของเมืองหลวงเต็มไปด้วยผู้คนที่ออกมาดูความครึกครื้น

ขบวนของคุณทูตเป่ยตี๋มีราวหนึ่งร้อยคน เดินผ่านประตูเมืองหลวง ปรากฏสู่สายตาของผู้คน

ผู้นำขบวนคือ เฉินซือ

เบื้องหลังมีขุนนางราวยี่สิบคน และทหารม้าเป่ยตี๋ที่ติดตามคุ้มครอง

เสียงซุบซิบพูดคุยของราษฎรต้าเหลียงดังอื้ออึง

ชาวบ้านชี้ชวนกันดูคณะทูตเป่ยตี๋ บ้างก็ชื่นชมรูปร่างสูงใหญ่กำยำของทหารเป่ยตี๋ บางคนก็ดูแคลนคณะทูตเป่ยตี๋อย่างไม่ไยดี

“สมเป็นทหารแห่งเป่ยตี๋ ร่างกายกำยำล้ำเลิศทุกคนจริง ๆ”

“ไม่แปลกใจเลยว่า ทำไมตอนกองทัพแคว้นต้าเหลียงเราปะทะกับเป่ยตี๋ จึงเป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำอยู่บ่อยครั้ง”

“หากวัดกันที่กำลัง ใต้หล้านี้คงไร้ผู้ใดเทียบเป่ยตี๋ได้ ศึกคราวนี้ ต้าเหลียงสามารถเอาชนะเป่ยตี๋ได้ ก็เพราะอาศัยยึดแนวป้องกันไว้ได้”

“พอเห็นทหารเป่ยตี๋ ก็น่าทึ่งจริง ๆ การเอาชนะเป่ยตี๋ได้นับว่าเป็นปาฎิหาริย์แล้ว”

ได้ยินบางคนพูดจาดูหมิ่นกองทัพตน ยกย่องฝ่ายตรงข้าม

บางคนที่อารมณ์ร้อนหน่อยก็ตะโกนด่าทอขึ้นมา

“พูดบ้าอะไรของเจ้า!”

“ปาหาริย์หรือ? ชายแดนเหนือทำสงครามใหญ่ หาได้หลบซ่อนอยู่ในเมือง ไม่กล้าออกรบในที่โล่ง”

“เหล่าทหารของต้าเหลียงต่างก็ประจันหน้ากับเป่ยตี๋บนทุ่งกว้าง ปะทะกันดุเดือด สร้างชัยชนะด้วยเลือดเนื้อ”

“นายน้อยฉินนำทัพทหารเป่ยซีต่อสู้กับเป่ยตี๋ด้วยกลยุทธ์”

“กระทั่งบุกทะลวงข้ามแดนไปถึงเป่ยตี๋นับครั้งไม่ถ้วน”

“โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ศึกที่ภูเขาชิงอวี้ที่แคว้นเป่ยตี๋ เพียงแค่ทหารสองร้อยคน ภายใต้การนำทัพของ ฉินเฟิง สังหารทหารเป่ยตี๋ไปนับพัน”

“แม้แต่จงหลิงแม่ทัพผู้โด่งดังของเป่ยตี๋ ก็ยังถูกฉินเฟิงสังหาร”

“เฉินซือเองก็ถูกตัดแขนไปข้างหนึ่ง”

“พวกเจ้าช่างโง่เขลานัก! ตาบอดกันหรือไร ถึงมองไม่เห็นวีรกรรมอันยิ่งใหญ่ของทหารต้าเหลียงเหล่านี้!”

เหล่าบัณฑิตย์เชิดหน้าขึ้น

ต้องบอกว่าคนมีความรู้ ช่างต่อว่าได้เจ็บแสบจริง ๆ

การเยาะเย้ยพลันดังขึ้น

“ฮึ เป่ยตี๋ก็เป็นเพียงผู้พ่ายแพ้ในสงคราม เขามาเมืองหลวงคราวนี้ ก็เพื่อเจรจาสงบสันติภาพ”

“เป่ยตี๋พ่ายแพ้ แต่พวกคนขายชาติอย่างพวกเจ้ากลับยังคงพยายามรักษาหน้าให้มันไม่หยุดหย่อน”

“เฮ่อ ๆ ในหมู่ประชาชนย่อมมีคนชั่วปะปนอยู่บ้าง”

“มองไปทั่วทั้งแผ่นดินต้าเหลียง เหล่าบัณฑิตคำ้จุนแผ่นดิน เหล่าทหารชายแดนปกป้องแคว้น”

“แล้วพวกเจ้าเล่า ทำอะไรกันบ้าง?”

“ถ้าอาศัยแค่พวกเจ้า เกรงว่าต้าเหลียงคงถึงคราวล่มสลาย!”

ชาวบ้านที่เคยออกปากชื่นชมเป่ยตี๋หน้าแดงก่ำด้วยความละอาย ทำได้เพียงแสร้งยิ้มแห้ง ๆ

ขณะนั้นเอง ท่ามกลางฝูงชนพลันเกิดเสียงชุลมุนขึ้น

บัณฑิตหนุ่มผู้หนึ่งสวมชุดสีขาว พุ่งตัวออกไปขวางทางขบวนของคณะทูตเป่ยตี๋

ก่อนจะชี้หน้าเฉินซือ แล้วตวาดว่า “แม่ทัพผู้พ่ายแพ้เช่นเจ้า ไยยังอวดดีได้อีก รีบลงจากหลังม้าเสีย!”

“เมืองหลวงต้าเหลียงคือสถานที่สำคัญ แม้แต่ท่านอ๋องแห่งต้าหลียงก็ยังต้องลงจากหลังม้า แล้วเดินเท้าเข้ามา”

“เจ้าเป็นแค่ขุนนางต่างแคว้น บังอาจขี่ม้ากลางเมืองหลวงเช่นนี้ ช่างผยองนัก!”

“นี่หรือความจริงใจในการมาเจรจาสันติภาพของเป่ยตี๋!”

ชาวแคว้นต้าเหลียงล้วนสะสมความคับแค้นไว้ในอกมานานแล้ว

ด้วยถูกเป่ยตี๋รุกรานเหยียบย่ำมานาน ตอนนี้มีชัยเหนือเป่ยตี๋ได้ เลยถือโอกาสระบายโทสะในใจออกมา

และตอนนี้ ชาวบ้านต่างที่มีท่าทีโกรธแค้น ก็กำลังไม่พอในที่คณะทูตเป่ยตี๋ขี่ม้าเข้าเมืองหลวง

ชั่วขณะนั้น เสียงก่นด่าทอสาปแช่งระงมไปทั่ว

“ลงมาซะ!”

“ถ้าจะเข้าเมืองหลวงก็จงลงเดิน!”

บทที่ 655 คณะทูตแผลงฤทธิ์ 1

บทที่ 655 คณะทูตแผลงฤทธิ์ 2

Verify captcha to read the content.ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ