บทที่ 67 คำตัดสินสุดท้าย
“สรุปว่าใครชนะ?”
ไม่รอให้สาวใช้ได้หยุดพักหายใจ เหล่าสตรีทั้งหลายก็เอ่ยประชดประชันขึ้นเสียก่อน
“ยังต้องถามอีกหรือ? ฉินเฟิงย่อมต้องพ่ายแพ้อยู่แล้ว ตอนนี้เขาคงจะร้องไห้งอแงอยู่กระมัง?”
“หึ ๆ ฉินเฟิงบังเอิญชนะในรอบแรก นั่นถือว่าเขาโชคดีไป แต่การประลองรอบที่สองคือการปีนหอคอย สิ่งที่ใช้แข่งขันคือวิชาตัวเบา แม้นายน้อยฉินเฟิงจะอยากชนะหนิงหู่ แต่มันก็เป็นไปไม่ได้หรอก”
เมื่อได้ยินความคิดเห็นของสตรีรอบ ๆ หลี่หนิงฮุ่ยก็ได้ใจ นางจงใจทำให้หลิ่วหงเหยียนหงุดหงิด จึงเอ่ยด้วยน้ำเสียงกระแนะกระแหน “แข่งอะไรไม่แข่ง ดันมาแข่งวิชาตัวเบา แม้แต่ทหารรักษาพระองค์ชั้นยอดในพระราชวังยังไม่กล้าพูดว่าสามารถเอาชนะหนิงหู่ได้เลย รีบให้นายน้อยฉินกลับไปเตรียมหนึ่งแสนตำลึงเงินให้แต่ละตระกูลเถิด เจ้าหมอนี่หลอกเอาเงินจากคนมากมายในเมืองหลวง ถึงเวลาต้องจ่ายคืนแล้ว”
หัวใจของหลิ่วหงเหยียนแทบกระเด็นออกมาจากอก อดไม่ได้ที่จะพึมพำ “ฉินเฟิงแพ้จริงหรือ? เสียเงินก็ช่างเถิด แต่ถ้าฮ่องเต้พิโรธขึ้นมา ทั้งตระกูลฉินต้องแบกรับผลของการกระทำครั้งนี้”
ทันใดนั้นเอง สาวใช้สูดลมหายใจเข้าแล้วเอ่ยเสียงตะกุกตะกัก “แม้… แม้ว่าจะมีเรื่องเล็กน้อย แต่ในท้ายที่สุด ท่านอ๋องเฒ่าก็เข้ามาไกล่เกลี่ยสถานการณ์โดยรวม ทั้งยังตัดสินให้นายน้อยฉินเป็นผู้ชนะเจ้าค่ะ”
ห้องโถงด้านข้างที่เดิมทีมีเสียงดังโหวกเหวก ในขณะนี้ตกอยู่ในความเงียบงัน
รอยยิ้มของหลี่หนิงฮุ่ยแข็งค้างอยู่บนใบหน้า นางคิดว่าได้ยินผิดจึงลุกขึ้นตะโกนใส่สาวใช้ “เจ้าแน่ใจรึ? ฉินเฟิงชนะจริงหรือ?”
สาวใช้ไม่กล้าลังเล นางตอบกลับอย่างรวดเร็ว “แม้บ่าวจะกินดีหมีนับร้อยอันก็ไม่กล้าหลอกลวงเหล่าคุณหนูและฮูหยินหรอกเจ้าค่ะ บ่าวฟังมาอย่างชัดเจน ฉินเฟิงชนะจริงแท้แน่นอนเจ้าค่ะ”
ตึ้ง!
หลี่หนิงฮุ่ยทรุดตัวลงบนเก้าอี้ ดวงตาของนางมึนงงอยู่ครู่หนึ่งพลางพึมพำกับตัวเอง “เป็นไปได้อย่างไร? แข่งวิชาตัวเบาไม่ใช่หรือ ฉินเฟิงเอาชนะหนิงหู่ได้จริง ๆ หรือ”
ฮูหยินและคุณหนูในเรือนด้านข้างมองหน้ากันอย่างไม่อยากจะเชื่อ
มีเพียงหลิ่วหงเหยียนเท่านั้นที่ยืนขึ้นอย่างตื่นเต้น นางหยิบเงินจำนวนหนึ่งออกมาจากแขนเสื้อแล้วโยนลงในมือของสาวใช้ “ให้เจ้า เจ้าไปเถอะ”
สาวใช้ก้มหัวขอบคุณก่อนจะกำเงินวิ่งออกไปอย่างมีความสุข
หลิ่วหงเหยียนไม่สามารถปกปิดความสุขบนใบหน้าของตนได้ น้องชายตัวแสบไม่ได้ทำให้นางประหลาดใจเท่าไหร่นัก ตอนนี้เขาเอาชนะหนิงหู่ต่อหน้าฮ่องเต้ คาดการณ์ได้ว่าภายภาคหน้าฮ่องเต้จะให้ความสำคัญกับตระกูลฉินมากขึ้นเป็นแน่
เมื่อเห็นหลี่หนิงฮุ่ยแอบกัดฟันแน่น หลิ่วหงเหยียนรู้สึกเหมือนได้ระบายความโกรธจึงอดไม่ได้ที่จะพูดเสียดสี “เมื่อกี้คุณหนูหลี่ตะโกนอย่างเอาเป็นเอาตายไม่ใช่หรือ? ทำไมจู่ ๆ เงียบไปแล้วเล่า? โอ้ ข้าเกือบลืม การเดิมพันครั้งนี้ตระกูลหลี่สูญเสียเดิมพันถึงหนึ่งแสนตำลึงเงินอีกแล้วนี่”
หลี่หนิงฮุ่ยตัวสั่น เงยหน้าขึ้นมองหลิวหงเหยียนอย่างว่างเปล่า “อีกแล้วงั้นหรือ?”
คุณหนูรองตระกูลฉินแสยะยิ้ม “คุณหนูหลี่เป็นคนสูงศักดิ์ที่ลืมง่ายเสียจริง ก่อนหน้านี้แสนตำลึงเงินที่เสียให้หอวิจิตรศิลป์ไม่นับรวมด้วยหรอกหรือ?”
ใบหน้าของหลี่หนิงฮุ่ยบิดเบี้ยว ตระกูลหลี่เสียเงินรวมทั้งหมดสองแสนตำลึงเงิน ไม่ว่าจะร่ำรวยแค่ไหน พวกเขาก็ไม่สามารถใช้จ่ายเช่นนี้ได้ ยิ่งไปกว่านั้น ในช่วงเวลาเกิดวิกฤตอย่างนี้ หากตระกูลหลี่หยิบจ่ายสองแสนตำลึงเงินออกมาในเวลาไล่เลี่ยกัน จะไม่ถูกฮ่องเต้สงสัยเอาหรือ ฉินเฟิง เจ้าสารเลวผู้นี้พยายามผลักตระกูลหลี่ไปสู่ทางตันชัด ๆ!
คุณหนูหลี่กัดฟัน แม้นางจะไม่เต็มใจยอมรับแต่เพื่อประโยชน์ของสถานการณ์โดยรวม นางทำได้เพียงสงบเสงี่ยมลงเท่านั้น “ตระกูลหลี่ของข้ายินดียอมรับความพ่ายแพ้ แน่นอนว่า เงินย่อมต้องมอบให้ แต่ว่า…”

ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ