บทที่ 677 อำนาจของเสื้อ…
หัวหน้าองครักษ์ชุดดำโกรธจนแทบควบคุมตัวเองไม่อยู่
เขาพลันยกมือขึ้น องครักษ์ชุดดำรอบ ๆ ง้างสายธนูเต็มที่เล็งหลิ่วหมิงและเหล่า องครักษ์เสื้อแพร
องครักษ์เสื้อแพรที่ล้อมอยู่รอบนอกยกหน้าไม้ขึ้น
รอคำสั่ง การเผชิญหน้าคราวนี้ ไม่ว่าจะเป็นองครักษ์เสื้อแพรหรือองครักษ์ชุดดำย่อมต้องเสียหายหนักแน่นอน
“องครักษ์เสื้อแพร! นับจากวันนี้ ภายในอาณาเขตต้าเหลียง มีองครักษ์ชุดดำไม่มีองครักษ์เสื้อแพร ไม่ว่าเจอกันที่ใดก็จะสู้กันจนกว่าจะตายกันไปข้างหนึ่ง!”
“แม้หน่วยนกฮูกราตรีจะแข็งแกร่ง ก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่”
“แต่พวกเจ้าองครักษ์เสื้อแพรหยิ่งผยองเกินไปแล้ว องครักษ์ชุดดำจะเปลี่ยนทิศทาง ทุ่มเทกำลังทั้งหมดกวาดล้างพวกเจ้า!”
ได้ฟังคำพูดของหัวหน้าองครักษ์ชุดดำ หลิ่วหมิงก็เงยหน้าหัวเราะลั่น
“ฮ่า ๆๆๆ”
หัวหน้าองครักษ์ชุดดำยิ่งโกรธ
น่าเสียดาย ไม่ว่าเขาจะโกรธเพียงใด ก็ไม่อาจทำอะไรหลิ่วหมิงได้
“ข้าเกือบจะเชื่อเสียแล้ว ฮ่า ๆ”
“เป็นแค่หัวหน้าองครักษ์ชุดดำ แต่ช่างมีอำนาจจริง ๆ”
“ถ้าข้าจำไม่ผิด องครักษ์ชุดดำก็เป็นเพียงสุนัขที่ฝ่าบาททรงเลี้ยงไว้”
“สุนัขจะกัดใครก็จำเป็นต้องได้รับอนุญาตจากเจ้านายเสียก่อน!”
หลิ่วหมิงมองหัวหน้าองครักษ์ชุดดำ ทั้งสีหน้าและแววตายังคงมีร่องรอยของความขบขัน
“เจ้าควรจะกราบทูล รายงานฝ่าบาทเสียก่อนถึงจะถูกกระมัง?”
หัวหน้าองครักษ์ชุดดำเดี๋ยวหน้าแดงเดี๋ยวหน้าดำ
ถ้าไม่ใช่เพราะมีผ้าคลุมปิดหน้า เกรงว่าคงต้องอับอายเพราะสีหน้าเดือดดาลที่ปิดไม่มิด
ด้วยความโกรธแค้น หัวหน้าองครักษ์ชุดดำเตรียมจะออกคำสั่งให้ต่อสู้กับองครักษ์เสื้อแพรจนตายไปข้าง
แต่เสียงของหลิ่วหมิงกลับขัดเสียก่อน
“องครักษ์เสื้อแพรไม่เคลื่อนไหวโดยไม่สืบให้แน่ชัด?”
“แท้จริงแล้วเป็นใครกันแน่ที่โง่?”
“ถ้าไม่ใช่เพราะวางแผนไว้ก่อน พวกข้าจะมาช้าจนองค์ชายหานแห่งเกาชานถูกหน่วยนกฮูกราตรีทำร้ายทำไมกัน?”
“อววุธมืดขององครักษ์เสื้อแพรที่ซุ่มก็ล้วนแต่เตรียมพร้อม”
“เพราะกลัวว่าพวกเจ้า องครักษ์ชุดดำจะโมโหจนควบคุมตัวเองไม่ได้ แล้วทำอะไรโดยไม่คำนึงถึงผลที่ตามมา”
“ตอนนี้ถ้าปะทะกันก็ยังไม่รู้ว่าใครจะเป็นผู้”
แล้วหลิ่วหมิงก็ชี้ไปทางทิศตะวันออก
“ดูสิ ทูตส่งสารขององครักษ์เสื้อแพรบนหลังคานั่น พวกเขาเชี่ยวชาญในวิชาตัวเบา และมีสายตาแหลมคมยิ่งกว่าเหยี่ยว”
“แม้ในยามค่ำคืน ห่างไกลถึงร้อยจั้ง เขาก็มองเห็นสถานการณ์ได้ชัดเจน”
“อย่าว่าแต่พวกเจ้าองครักษ์ชุดดำที่ไร้ความสามารถ แม้แต่หน่วยนกฮูกราตรีที่ขึ้นชื่อว่าเดินทางได้ร้อยลี้ยามราตรี ก็ไม่มีทางจับพวกเขาได้”
“ถ้าเจ้ากล้าขยับมือ ทูตส่งสารก็จะกลับไปยังค่ายเทียนจีทันที”
“ไม่เกินหนึ่งก้านธูป องครักษ์จากค่ายเทียนจีก็จะจัดการองครักษ์ชุดดำทั้งรังแน่นอน”
“เป็นอย่างไร พวกเจ้าที่อ้างตัวว่าเป็นคมดาบของฝ่าบาท พวกเจ้าคงไม่ได้ดื่มยาผิดสำแดงจนสมองฝั่นเฝือน คิดจะสู้กับองครักษ์ค่ายเทียนจีกระมัง”
หัวหน้าองครักษ์ชุดดำกำหมัดแน่น ร่างกายสั่นเทา โกรธจนถึงขีดสุด แต่ไม่มีทางระบาย
ไม่ว่าจะองครักษ์ชุดดำ องครักษ์เสื้อแพร หรือหน่วยนกฮูกราตรี
ดังคำกล่าวที่ว่า ต่างสาขาก็ห่างเหมือนขุนเขากั้น*[1] พวกเขาเป็นเพียงหน่วยสอดแนม ชำนาญการรวบรวมข้อมูลและการลอบสังหาร
ถ้าจะพูดถึงการทำสงครามจริง ๆ เกรงว่า แค่เผชิญหน้ากับกองทัพแนวหน้าที่แข็งแกร่ง พวกเขาก็ทำอะไรไม่ได้แล้ว
ยิ่งไม่ต้องพูดถึงทหารค่ายเทียนจีที่เอาชนะทหารรักษาพระราชวังและองครักษ์หลวงได้
ประเด็นสำคัญที่สุดคือ
ทหารองครักษ์ค่ายเทียนจีไม่เพียงมีพลังในการต่อสู้ยอดเยี่ยม ภูมิหลังของพวกเขาคือสิ่งที่น่าสะพรึงที่สุด
มีฉินเฟิงหนุนหลัง อย่าว่าแต่บุกโจมตีกองกำลังองครักษ์ชุดดำ ต่อให้เป็นการดักฆ่าทหารรักษาพระราชวังกลางทางพวกเขาก็กล้าทำ
ทหารบ้าคลั่งกับแม่ทัพคลุ้มคลั่ง*[2]
ฉินเฟิงผู้เป็นแม่ทัพใหญ่เป็นปีศาจที่ไม่เกรงกลัวกฎหมาย เหล่าทหารใต้บังคับบัญชาย่อมดุร้ายราวกับเสือสิงห์
มองไปยังทูตส่งสารขององครักษ์เสื้อแพรที่เฝ้าสังเกตการณ์อยู่ห่างออกไปร้อยจั้ง
หัวหน้าองครักษ์ชุดดำรู้แจ้งแก่ใจ

ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ