เข้าสู่ระบบผ่าน

บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ นิยาย บท 689

บทที่ 689 เขากำลังรอ

ได้ยินคำถามของฮ่องเต้ต้าเหลียง ฉินเฟิงหัวเราะออกมา ทำให้ฮ่องเต้ต้าเหลียงอึดอัดใจ

“เจ้าหัวเราะอะไร? มีอะไรให้น่าขำหรือ?!”

ฮ่องเต้ต้าเหลียงขมวดคิ้วแน่น ชัดเจนว่าไม่พอใจ

ฉินเฟิงไม่ได้ใส่ใจ และอธิบายอย่างใจเย็น

“ฝ่าบาท ตั้งแต่คณะทูตเป่ยตี๋เข้าสู่เมืองหลวง กระหม่อมก็ส่งคนไปยังชายแดนเหนือเพื่อส่งสารแล้ว”

“ผู้คนรู้เพียงว่า กระหม่อมอยู่ในเมืองหลวง ออกคำสั่งต่อหน้าคณะทูตเป่ยตี๋”

“แต่พวกเขาไม่รู้ว่า คำสั่งนี้ไม่มีค่าอะไรเลย!”

“คำสั่งแท้จริงถูกส่งถึงเหล่าแม่ทัพที่ชายแดนเหนือแล้ว”

“ถ้าคำนวณตามเวลา ศึกควรจะใกล้สิ้นสุดแล้ว”

ฮ่องเต้ต้าเหลียงตะลึงงัน

เขาไม่คิดว่ากลยุทธ์ของฉินเฟิงจะลึกซึ้งถึงขนาดนี้ ยิ่งไม่คิดว่าฉินเฟิงจะกล้าหาญฉละรวดเร็วขนาดนี้ด้วย

ชั่วขณะนั้น ฮ่องเต้ต้าเหลียงก็เข้าใจทุกอย่าง

คำสั่งที่ฉินเฟิงประกาศต่อหน้าคณะทูตเป่ยตี๋ มีทั้งจริงทั้งเท็จ

คำสั่งเกี่ยวกับการเคลื่อนทัพเป็นเรื่องหลอกลวง

เพราะสารสั่งเคลื่อนทัพได้ถูกส่งออกไปก่อนแล้ว

เกรงว่าตอนคณะทูตเป่ยตี๋เข้าสู่เมืองหลวง สารทางทหารก็ไปถึงชายแดนเหนือเช่นกัน

แต่คำสั่งที่ฉินเฟิงประกาศต่อหน้าผู้คนก็ไม่ได้เป็นเท็จทั้งหมด เขาปิดล้อมเมืองหลวงเพื่อไม่ให้ข่าวสารรั่วไหล คำสั่งนี้เป็นจริง!

ตอนนี้องครักษ์เสื้อแพรเคลื่อนไหวชัดเจน

แม้จะดูเหมือนเป็นเพราะเหตุการณ์ที่หานอวี้หมิงถูกลอบทำร้าย ทำให้ต้องขัดแย้งกับองครักษ์ชุดดำและหน่วยนกฮูกราตรีอย่างไม่จบสิ้น

กระทั่งมีการตรวจค้นหน่วยนกฮูกราตรีทุกพื้นที่

แต่แท้จริงแล้วเป็นการฉวยโอกาส เป็นการแสดงละครตามสถานการณ์

องครักษ์เสื้อแพรไล่ล่าหน่วยนกฮูกราตรีอย่างบ้าคลั่ง ไม่ใช่แก้แค้นที่ฮั่นอวี้หมิงถูกโจมตี แต่เพื่อฆ่าปิดปาก ปิดกั้นข่าวสาร!

ยามนี้ ไม่ใช่แต่ข่าวของคณะทูตเป่ยตี๋ แม้แต่สถานการณ์สงครามภายนอกก็ถูกปิดกั้น

กระทั่งฮ่องเต้ต้าเหลียงก็ยังถูกหลอกให้อยู่ในความมืดไปด้วย

ฮ่องเต้ต้าเหลียงมองดูฉินเฟิง ในใจทั้งตื่นเต้นยินดีและหวาดกลัว

เขาเชื่อมั่นว่าเข้าใจฉินเฟิงอย่างทะลุปรุโปร่ง ตอนนี้เลยเพิ่งจะตื่นจากความฝัน

ชายหนุ่มตรงหน้าเหนือกว่าความเข้าใจของฮ่องเต้ต้าเหลียงไปแล้ว

ฮ่องเต้ต้าเหลียงพยายามควบคุมความอารมณ์ตระหนก เขากดน้ำเสียงทุ้มต่ำ

“ถ้าทุกสิ่งราบรื่น ก็คงไม่เป็นไร”

“แต่หากสงครามไม่เป็นใจ อาจส่งผลกระทบต่อการเจรจาสันติภาพ”

“ฉินเฟิง เจ้าอาจต้องรับโทษหนักเสียแล้ว”

“ในฐานะจ่างเล่อป๋อ ตำแหน่งเจ้าไม่อาจเทียบเสนาบดีกรมกลาโหมด้วยซ้ำ และราชสำนักก็ไม่ได้มอบอำนาจให้เจ้า”

“แต่เจ้ากับทำสงครามโดยไม่ได้บอกเจิ้นและกรมกลาโหม”

“เพียงเรื่องนี้ เจิ้นก็สามารถทำลายเจ้าได้แล้ว ยกเว้นชายแดนเหนือ ราษฎรทั่วแว้นและกลุ่มอำนาจต่าง ๆ สามารถลงโทษเจ้าได้ ในฐานะขุนนางผู้หญิ่งผยอง เหลิงอำนาจ!”

โอกาสที่ฮ่องเต้ต้าเหลียงรอคอยในที่สุดก็มาถึง

การก่อสงครามระหว่างแคว้นโดยพลการ เพียงข้อหานี้ก็เพียงพอจะประหารฉินเฟิงแล้ว

แต่ว่า…

ฮ่องเต้ต้าเหลียงกลับเจอปัญญา

ฉินเฟิงยื่นดาบมาให้ด้วยตนเอง แต่ฮ่องเต้ต้าเหลียงกลับไม่อาจฟันได้

สำหรับต้าเหลียงแล้ว ฉินเฟิงสำคัญนัก

เผชิญหน้ากับการตำหนิและข่มขู่จากของฮ่องเต้ต้าเหลียง

ฉินเฟิงกลับไม่ใส่ใจ ซ้ำยังแย้มยิ้มทะเล้นออกมาอีก

“ฝ่าบาท พระองค์ไม่อาจสังหารข้าน้อยได้ อย่างน้อยก็ก่อนที่การเจรจาสงบศึกจะสิ้นสุด”

“แต่ข้าน้อยก็รู้ดี โทษของการก่อสงครามโดยพลการร้ายแรงเพียงใด”

“เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว ไม่สู้พวกเรามาทำข้อตกลงกันดีหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ”

ข้อตกลง?!

ยามนี้ ความรู้สึกของฮ่องเต้ต้าเหลียงซับซ้อนนัก

เขาจำไม่ได้แล้วว่า เคยทำข้อตกลงแลกเปลี่ยนกับฉินเฟิงมาแล้วกี่ครั้ง

ตอนนี้จะได้ทำข้อตกลงแลกเปลี่ยนอีกครั้ง ฮ่องเต้ต้าเหลียงแอบตื่นเต้นอยู่ไม่น้อย

เดิมทีฮ่องเต้ต้าเหลียงก็รู้ดีอยู่แล้ว

ฉินเฟิงไม่เคยทำศึกที่ไม่มั่นใจในชัยชนะ

ยิ่งฉินเฟิงขอเจรจาแลกเปลี่ยนแบบนี้ หมายความว่าเขาชนะแน่นอนแล้ว

ตลอดชีวิตของฮ่องเต้ต้าเหลียง นี่เป็นครั้งแรกที่หวังให้ผู้อื่นเอาชนะตนเอง ด้วยมีเพียงทางนี้ แคว้นต้าเหลียงจึงจะเจริญรุ่งเรือง

ฮ่องเต้ต้าเหลียงแกล้งถามทั้งที่รู้คำตอบดี “เจ้าอยากทำข้อตกลงเช่นไร?”

ฉินเฟิงตอบทันที

“ถ้าผลการเจรจาสงบศึกเป็นไปตามที่ข้าน้อยตั้งใจ การทำสงครามระหว่างแคว้นคราวนี้ ก็ขอให้ถือว่าเป็นการมอบอำนาจจากฝ่าบาท”

“ขอฝ่าบาทอย่าได้คิดบัญชีกับเรื่องนี้ในภายหลัง”

“กลับกัน ถ้าไม่เป็นไปตามที่หวัง ฝ่าบาทจะลงโทษอย่างไร ข้าน้อยก็จะไม่บ่นสักคำ”

รับรู้ถึงความมั่นใจในแววตาของฉินเฟิง ฮ่องเต้ต้าเหลียงไม่ลังเล ตอบรับด้วยความยินดี

“ดีละ! เจิ้นรับข้อเสนอของเจ้า”

“ฉินเฟิง เจิ้นไว้ใจมอบภารกินสำคัญของบ้านเมืองให้คนนอกเป็นครั้งแรก”

“แม้แต่บรรดาองค์ชายหรืออ๋อง ก็ไม่เคยได้รับความไว้วางใจนี้”

“เจิ้นไว้วางใจเจ้า! อย่างน้อยเรื่องของแคว้นต้าเหลียง เจิ้นไม่เคยสงสัยในความจงรักภักดีของเจ้า”

ฉินเฟิงหัวเราะ พลางพยักหน้าเบา ๆ

“ไม่ว่าใครจะมองกระหม่อมเช่นไร ก็ไม่อาจสั่นคลอนความจงรักภักดีของกระหม่อมที่มีต่อต้าเหลียงได้”

ฮ่องเต้กับขุนนางมองหน้ากัน แล้วหัวเราะออกมา

ฉินเฟิงเหลือบมองตะกร้าปลาตรงหน้าฮ่องเต้ต้าเหลียง ในตะกร้ามีปลาอยู่สี่ตัวแล้ว เขาอดอิจฉาไม่ได้

“ฝ่าบาท แบ่งปลาให้ข้าน้อยสักตัวไม่ได้หรือ?”

“ข้าน้อยนั่งมาครึ่งค่อนวัน ยังไม่ได้ปลาสักตัว ถ้าเรื่องนี้แพร่งพรายออกไป จะไม่กลายเป็นเรื่องตลกหลังอาหารเย็นของทั้งเมืองหลวงหรอกหรือ?”

ได้ยินแบบนี้ ฮ่องเต้ต้าเหลียงก็เลื่อนตะกร้าปลาหลบไปด้านข้างทันที

“เจ้าตกปลาไม่ได้ แล้วเกี่ยวอะไรกับเจิ้นด้วย”

“นี่คือปลาที่เจิ้นตกได้ ใครก็อย่าได้คิดแย่งไป”

“จางซิวเย่ ตอนกลับวังนำปลาเหล่านี้ไปด้วย แล้วสั่งให้ห้องเครื่องปรุงเป็นอาหารมาให้เจิ้นคืนนี้”

“เจิ้นอยากลิ้มรสว่า ปลาที่ตกด้วยมือตัวเองจะมีรสชาติเช่นไร”

จางซิวเย่พยักหน้าซ้ำ ๆ

ส่วนฉินเสี่ยวฝูที่อยู่ข้าง ๆ ส่ายหน้าพลางถอนหายใจ เขาอดทึ่งไม่ได้จริง ๆ

วันนี้ตั้งแต่ออกจากเรือนมา ฉินเสี่ยวฝูหดหู่ใจนัก

ฉินเฟิงทิ้งการเจรจาสันติภาพ ช่างเป็นการกระทำที่ทำให้เขาหนักใจ

แต่หลังจากได้ฟังบทสนทนาระหว่างฉินเฟิงกับฮ่องเต้ต้าเหลียง เขาก็อดก่นด่าในความโง่เขลาของตัวเองไม่ได้

นี่คือนายน้อย!

แม้แต่เมฆที่ลอยเฉย ๆ หรือนกกระเรียนป่า ก็ล้วนมีเหตุผลที่เป็นเช่นนั้น

นายน้อยรู้ตั้งแต่แรก การไปเจรจาวันนี้ นอกจากพ่นน้ำลายใส่กัน ก็ไม่มีประโยชน์อะไรอีก

เขาเลยรอ

รอให้ชายแดนเหนือส่งข่าวกลับมา จะได้เอาของขวัญชิ้นใหญ่ไปยังโต๊ะเจรจา

……

เขตแดนเป่ยตี๋ แถบภูเขาชิงอวี้

กองทหารม้าเป่ยตี๋นับร้อยกำลังแตกพ่ายหนีไปทางทิศเหนือ

ผู้บัญชาการทัพ ขณะเฆี่ยนก้นม้าก็สบถไปด้วย ก่อนจะสั่งการทหาร

“ไอ้พวกโจรหัวสุนัขต้าเหลียง ช่างไร้สัจจะเสียจริง! กล้าดีอย่างไรมาโจมตี ตอนเจรจาสันติภาพเช่นนี้!”

“รีบไปยังจวนว่าการมณฑลเพื่อหลบภัย แล้วส่งทหารส่งสารกลับเมืองหลวงไปรายงานสถานการณ์”

ผู้ชาการกองทัพเป่ยตี๋ร้อนใจ เหงื่อออกท่วมตัวท่วมศีรษะไปหมด

การโจมตีของต้าเหลียงคราวนี้ ชัดเจนว่าวางแผนมาเป็นอย่างดี รุกโจมตีรุนแรงและดุดันนัก

เพียงวันเดียวก็ยึดไปสามอำเภอแล้ว

ทหารประจำการณ์ในพื้นที่มีมากกว่าสามหมื่นคน กลับตีแตกง่าย ๆ ไม่มีกำลังต้านทานแม้แต่น้อย

ถ้าปล่อยให้เป็นเช่นนี้ต่อไป กว่าข่าวจะส่งถึงเมืองหลวง ทั้งมณฑลคงถูกต้าเหลียงยึดครองแล้ว

“ไอ้พวกหมาบ้า อาจหาญเสียจริง ถึงกับกล้าบุกโจมตีเป่ยตี๋แล้ว!”

“น่าโมโหนัก!”

ขณะที่ผู้บัญชาการทหารประจำการณ์มณฑลกำลังบ่น

บทที่ 689 เขากำลังรอ 1

บทที่ 689 เขากำลังรอ 2

Verify captcha to read the content.ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ