บทที่ 692 เอาใจเขามาใส่ใจเรา
สวีโม่ถือคำสั่งของฉินเฟิงราวกับเป็นพระราชโองการมานานแล้ว
พูดแล้วต้องทำ มีคำสั่งต้องปฏิบัติ
อะไรที่นอกเหนือจากคำสั่งของฉินเฟิง สวีโม่ย่อมไม่กระทำเกินเลยแม้แต่น้อย
“เรื่องนี้ยังต้องปรึกษาหารือกันก่อน”
สวีโม่ไม่ได้ปฏิเสธหลี่จางตรง ๆ เพราะหลี่จางมีสถานะพิเศษ สำหรับฉินเฟิง หลี่จางสำคัญอย่างยิ่ง
ท้ายที่สุดแล้ว หมิงอ๋องบิดาของหลี่จางก็เกี่ยวข้องโดยตรงกับความมั่นคงของฉินเฟิงในอำเภอเป่ยซี การมีหมิงอ๋องอยู่ในอำเภอเป่ยซีทำให้สถานะของฉินเฟิงชัดเจน และถูกต้อง
เรื่องความชอบธรรมทางกฎหมายสำคัญที่สุด แม้แต่ฉินเฟิงก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น
พอเห็นสวีโม่ไม่ยอมให้ความร่วมมือ หลี่จางก็ร้อนใจ
“ท่านแม่ทัพสวี เดิมทีที่ตั้งใจว่าต้องยึดหนึ่งมณฑลก็เพราะไม่มีเหตุผลอันชอบธรรม”
“แต่ตอนนี้เป่ยตี๋วางแผนลับ หมายรุกรานชายแดนต้าเหลียงเรา นับว่าพวกเรามีเหตุผลอันชอบธรรมแล้ว”
“ถ้าแค่ยึดครองดินแดนหนึ่งมณฑล นั่นจะไม่เป็นการสูญเปล่าหรือ?”
“เทือกเขาสยงอิงเป็นจุดขนส่งเสบียงสำคัญที่สุดสำหรับการวางกำลังทั่วแนวรบทางใต้ของเป่ยตี๋”
“ถ้าการยึดครองดินแดนหนึ่งมณฑลเป็นการทำให้เป่ยตี๋เจ็บปวด เช่นนั้น การยึดเทือกเขาสยงอิงก็เท่ากับเป็นการทำให้เป่ยตี๋หลั่งเลือดอย่างแท้จริง”
“เมื่อถึงตอนนั้น บนโต๊ะเจรจา ถ้าเป่ยตี๋ต้องการเทือกเขาสยงอิงคืน ก็จะต้องยอมถอยทุกด้าน”
“โอกาสดี ๆ เช่นนี้ พวกเราไม่อาจพลาดได้”
หลังฟังคำพูดของหลี่จาง สวีโม่ลูบคางครุ่นคิด
ปฏิเสธไม่ได้ว่าหลี่จางมีสายตาเฉียบคม การยึดเทือกเขาสยงอิงถือเป็นการกระทำที่ชาญฉลาดยิ่ง
แต่…
ฉินเฟิงไม่ได้สั่งเรื่องนี้
เพียงแค่จุดนี้ สวีโม่ก็ไม่อาจตอบรับแผนการของหลี่จางได้อย่างง่ายดาย
“ซื่อจื่อ ข้าสนับสนุนการตัดสินใจของท่านอย่างสุดหัวใจ แต่ว่า…”
“ในฐานะแม่ทัพคนเดียวที่ประจำอยู่ในอำเภอเป่ยซี ข้าเป็นผู้รับผิดชอบการเคลื่อนพลทั้งหมด ทั้งกองทัพอำเภอเป่ยซี และกองกำลังทั้งชายแดนเหนือ”
“นี่คือความไว้วางใจที่พี่ฉินมอบให้ข้า”
“ตราบใดเป็นคำสั่งของพี่ฉิน ข้าย่อมปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด กลับกัน ถ้าไม่ใช่คำสั่งของเขา ต่อให้ท่านพูดจนฟ้าถล่ม ข้าก็ไม่อาจทำตามได้!”
หลี่จางโกรธจนกระทืบเท้า
โอกาสหายากในรอบพันปีเช่นนี้ พลาดไปก็มีแต่จะเสียดายเท่านั้น
แต่หลี่จางก็ไม่มีวิธีจัดการกับสวีโม่ สวีโม่กับหนิงหู่เป็นแขนซ้ายขาขวาของฉินเฟิง พวกเขาเลื่อมใสและภักดีต่อฉินเฟิงอย่างถึงที่สุด
คิดจะให้สวีโม่ก้าวล่วงอำนาจฉินเฟิง?
เลิกคิดไปเสียจะดีกว่า
หลี่จางได้แต่ส่งสายตาขอความช่วยเหลือจากหลินฉวีฉี
หลินฉวีฉีรีบหันหนี เป็นเชิงบอกว่า…อย่าได้มองข้า เรื่องนี้ข้าตัดสินใจไม่ได้
หลี่จางหมดหนทางแล้ว ทว่า..ตอนที่เขากำลังจะยอมแพ้ เสียงสงบนิ่งและอ่อนโยนก็ดังมาจากห้องด้านหลัง
“แม่ทัพสวี ทำตามที่ซื่อจื่อบอกเถิด”
สวีโม่ชะงัก มองไปตามเสียงก็เห็นฉินเฉิงซื่อเดินเข้ามาพร้อมกับจิ่งเชียนอิ่ง
สวีโม่รีบคุกเข่าลง ประสานหมัดคำนับ
“คารวะฮูหยินฉิน”
“เรื่องส่งกองกำลังทหารออกรบหมายยึดเทือกเขาสยงอิง ถือเป็นการทำโดยพลการ ยังไม่ได้รับคำสั่งจากพี่ฉิน ข้าในฐานะแม่ทัพของอำเภอเป่ยซีไม่อาจตัดสินใจเรื่องนี้ได้”
แม้จะเผชิญหน้ากับฉินเฉิงซื่อ สวีโม่ก็ยังไม่ยอมอ่อนข้อ
เห็นสวีโม่ดื้อดึง ฉินเฉิงซื่อไม่ได้ไม่พอใจ ตรงกันข้าม นางกลับปลื้มปีติเสียอีก
ฉินเฟิงมีผู้ใต้บังคับบัญชาที่จงรักภักดีเช่นนี้ นับเป็นโชคแล้ว
ผู้คนต่างกล่าวว่า ฉินเฉิงซื่อคือหลักของอำเภอเป่ยซี

ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ