บทที่ 695 หมากต่อรองมาถึงแล้ว
สีหน้าของคณะทูตเป่ยตี๋ไม่สู้ดี
ข้อเรียกร้องของฉินเฟิงเสนอ ไม่เพียงแต่จะทำให้เสียอำนาจและเกียรติยศ แต่ชัดเจนว่า ต้องการให้เป่ยตี๋ล่มสลายแล้ว
ช่างอำมหิตจริง ๆ
เดิมทีเหล่าคณะทูตเข้าใจว่า วันนี้ฉินเฟิงแสดงท่าทีสุภาพ ก็เพื่อการแสดงไมตรีต่อเป่ยตี๋
ใครจะคิดว่าเป็นอุบายของสัตว์ร้าย พอเหยื่อคลายความระแวดระวัง ก็แยกเขี้ยวกางเล็บหมายขย้ำ
ยิ่งไปกว่านั้น…
เทียบกับเหล่าขุนนางเจรจาสันติภาพคนอื่น ๆ ของแคว้นต้าเหลียง ฉินเฟิงไม่ใช่แค่พวกหัวรั้นหัวรุนแรงแล้ว เขาเป็นปีศาจชัด ๆ
แม้แต่เฉินซือก็ยังขมวดคิ้วแน่น
“ฉินเฟิง เจ้ารู้หรือไม่ว่าเพิ่งพูดอะไรออกมา?”
“สองร้อยล้านตำลึงหรือ? อย่าว่าแต่พวกข้าที่เป็นคณะทูตเลย ต่อให้ฮ่องเต้เป่ยตี๋อยู่ที่นี่ก็ตัดสินใจทันทีไม่ได้!”
“ยกภาษีสามปีให้ต้าเหลียง เรื่องนี้ไม่มีทางเป็นไปได้”
“เกรงว่าการเจรจาสันติภาพวันนี้ จะจบลงโดยไม่ได้อะไรตามเคยแล้ว”
บรรดาทูตของเป่ยตี๋ทั้งหมดลุกขึ้นพร้อมกัน เตรียมจะเดินออกจากท้องพระโรง
ข้อเรียกร้องไร้เหตุผลเช่นนี้ ยังต้องเจรจาบ้าบออะไรอีก?!
ฉินเทียนหู่ส่ายหน้าพลางถอนหายใจ แม้เขาจะเข้าใจความตั้งใจของฉินเฟิงที่พยายามต่อรองเพื่อผลประโยชน์สูงสุดของต้าเหลียง
แต่ต้องไม่ลืมว่า เขากำลังเผชิญหน้ากับเป่ยตี๋ที่มีอำนาจไม่ได้ด้อยไปกว่าต้าเหลียง
การเรียกร้องมากเกินไปแบบนี้ มีแต่จะส่งผลร้ายมากกว่าผลดี
ขณะที่ทุกคนต่างคิดว่า การเจรจาสันติภาพวันนี้คงจบลงโดยไม่มีความคืบหน้าใด ๆ แล้ว
ฉินเฟิงก็หัวเราะออกมา
“ใต้เท้าทั้งหลาย พวกท่านทนไม่ไหวแล้วหรือ?”
“เป่ยตี๋แสดงจุดยืนว่าจะชดใช้ที่สิบล้านตำลึง ข้าในฐานะตัวแทนแคว้นต้าเหลียงก็เพียงแสดงจุดยืน เรียกค่าชดเชยสองร้อยล้านตำลึง”
“ถ้าไม่พอใจ ก็แค่เจรจาต่อรองกัน”
“การจากไปด้วยความโกรธแค้น ไม่ใช่ท่าทีที่ควรมีในการเจรจา”
ไม่พูดเสียดีกว่า พอฉินเฟิงพูดแบบนี้ หลู่หลีก็ยิ่งโกรธจัด
เขาหันกลับมา แล้วตวาดใส่ฉินเฟิงอย่างดุดัน
“พื้นฐานของการต่อรอง คือราคาที่เจ้าเสนออยู่ในขอบเขตที่ยอมรับได้”
“แต่เจ้าทำตัวโลภมากเช่นนี้ แล้วข้าจะต้องเสียน้ำลายไปทำไมกัน?”
“สองร้อยล้านตำลึง? เป็นเรื่องน่าขันที่สุดในใต้หล้าจริง ๆ”
“การตั้งสมมติฐานของเจ้า ราวกับคนยังไม่ตื่น! ถ้าต้าเหลียงมีความสามารถขนาดนั้นจริง ไยยังต้องมาเจรจาสงบศึกกับเป่ยตี๋อยู่เช่นนี้? ไม่สู้บุกเข้าเมืองหลวงของพวกข้าเป่ยตี๋ไม่ดีหรือ!”
คณะทูตเป่ยตี๋ที่เหลือพากันถากถาง พวกเขาคิดว่าสมองของฉินเฟิงคงถูกลาเตะเข้าแน่ ๆ ไม่อย่างนั้นจะพูดเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เช่นนี้ได้อย่างไร
“สมมติฐานหรือ? ฮ่า ๆๆ ตลกจริง ๆ”
“พวกคนต้าเหลียงช่างหลอกตัวเองเก่งนัก”
“แคว้นต้าเหลียงก็ได้แต่พูดปากเปล่า ถ้ามีฝีมือจริง ก็ส่งกองทัพโจมตีเป่ยตี๋เสียเลยสิ!”
“เฮอะ! เกรงว่าพวกเจ้าขี้ขลาดเกินกว่าจะทำได้!”
ขณะที่บรรดาทูตเป่ยตี๋เยาะเย้ยถากถาง จู่ ๆ ขันทีน้อยคนหนึ่งก็วิ่งเข้ามา ท่าทางรีบร้อน
“ท่านป๋อฉิน จ่างเล่อฉิน มีรายงานด่วนส่งมาจากอำเภอเป่ยซีขอรับ”
ทุกคนพลันหยุดชะงัก
รายงานด่วนจากอำเภอเป่ยซี?
ใครบ้างไม่รู้ว่า อำเภอเป่ยซีเป็นอาณาเขตของฉินเฟิง?
ช่วงเวลาสำคัญของการเจรจาสันติภาพระหว่างแคว้น สารด่วนจากอำเภอเป่ยซี ไม่ว่าเนื้อหาจะเป็นอย่างไร ทั้งสองฝ่ายล้วนไม่อยากได้ยิน
จะเป็นเป่ยตี๋ที่บุกโจมตีต้าเหลียง หรือว่าแคว้นต้าเหลียงแก้แค้นเป่ยตี๋กัน?


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ