เข้าสู่ระบบผ่าน

บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ นิยาย บท 697

บทที่ 697 ใช้แผ่นดินของเจ้าเป็นโล่ของข้า

สำหรับคนนอก คำพูดของฉินเฟิงอาจฟังดูง่าย ๆ

แต่สำหรับแม่ทัพอย่างเฉินซือ ประโยคง่าย ๆ ไม่กี่ประโยคนี้มีข้อมูลสำคัญมากมายนับไม่ถ้วน

อำเภอเป่ยซีมีกองทัพที่แข้งแกร่ง มองทั่วเป่ยตี๋ ก็เห็นจะมีเพียงกองพลพญาอินทรีและกองทัพหมาป่าเหมันต์เท่านั้นที่สามารถต้านทานกองทัพอำเภอเป่ยซีได้

แต่กลับกลายเป็นว่า กองกำลังใหญ่นี้ต่อสู้หนักหน่วงในช่วงสงครามระหวังแคว้น จึงถูกถอนกำลังกลับไปพักฟื้นในแนวที่สอง

กองทัพที่เหลืออยู่ตามชายแดน แม้จะยังมีทหารชั้นยอดหนึ่งหมื่นคน แต่การจะต้านทานการโจมตีเต็มกำลังของอำเภอเป่ยซี ไม่ใช่เรื่องง่าย

และเป็นเพราะเข้าใจถึงความแตกต่างระหว่างกันและกัน แม่ทัพแนวหน้าจึงไม่กล้าบุ่มบ่ามทำการรบในที่โล่งกับกองทัพของอำเภอเป่ยซีอย่างดื้อดึง

กองทัพของอำเภอเป่ยซีบุกตรงเข้าใจกลางชายแดน เป้าหมายชัดเจนคือ มุ่งหน้าไปยังเทือกเขาสยงอิง

แม่ทัพแนวหน้าจำเป็นต้องส่งกำลังทหารส่วนใหญ่ไปตั้งป้อมปราการทางตอนใต้ของเทือกเขา สกัดกั้นกองทัพของอำเภอเป่ยซี

เมื่อเป็นเช่นนี้ กำลังป้องกันในแต่ละพื้นที่ของมณฑลย่อมอ่อนแอลง

เพียงกองทัพของอำเภอเป่ยซีแยกกำลังออกเป็นหน่วยเล็ก ๆ โจมตีไปทั่ว ก็สามารถเปิดฉากโจมตีฐานที่มั่นในอำเภอต่าง ๆ ทั่วทั้งมณฑลได้พร้อมกัน

ยิ่งไปกว่านั้น อำเภอเป่ยซีมีการจัดวางกำลังทหารและกองทหารม้าที่พิเศษอย่างยิ่ง

ตามการข่าวกรองของหน่วยนกฮูกราตรี แม่ทัพทุกฝ่ายของเป่ยตี๋ต่างก็รู้สถานการณ์ของอำเภอเป่ยซีอย่างแจ่มแจ้ง

อำเภอเป่ยซีมีกองทหารม้าแข็งแกร่ง เป้าหมายของพวกเขาคือ ต่อกรกับกองพลพญาอินทรีและกองพลหมาป่าเหมันต์ของเป่ยตี๋

กองทหารม้าขนาดเล็กอาศัยความได้เปรียบด้านความเร็วโจมตีไปมาได้

ส่วนกองทหารม้าทมิฬของเป่ยซีกับทหารราบที่ติดอาวุธจนถึงฟัน ร่วมมือกับทหารเดินเท้า ตรึงกำลังอยู่แนวหน้า กองกำลังป้องกันของเป่ยตี๋ก็ไม่กล้าเคลื่อนไหวโดยพลการแล้ว

ในอดีต แม่ทัพทุกระดับของเป่ยตี๋มักจะมีเสียงหนึ่งดังอยู่ในหัว

การจัดวางกำลังพลและม้าศึกของอำเภอเป่ยซี มุ่งสร้างในทิศทางของ ‘กองทัพเดินทางไกล’

ต่างจากกำลังทหารอื่นที่เน้นการป้องกัน อำเภอเป่ยซียึดเป้าหมาย ‘การโจมตีเชิงรุก’ มาโดยตลอด

เพียงแต่ในช่วงเวลานั้น กองทัพทั้งสองแคว้นกำลังรบพุ่งกันอย่างดุเดือด ไม่มีผู้ใดมีเวลาพอจะสนใจกองกำลังบุกทางไกลที่ค่อย ๆ ก่อตัวขึ้นของอำเภอเป่ยซี

ครั้งนี้ ฉินเฟิงใช้เวลาเพียงสิบวันก็สามารถยึดครองหนึ่งมณฑลได้

ไม่ต้องสงสัยเลย นี่พิสูจน์ข้อสันนิษฐานของเหล่าแม่ทัพเป่ยตี๋แล้ว

กองทัพอำเภอเป่ยซี คือกองกำลังที่สร้างเพื่อให้มีกำลังและเชี่ยวชาญในการเดินทางไกล!

เฉินซือไม่ได้พูดอีก ในสายตาของเขา อำเภอเป่ยซีอยู่ใกล้ชายแดนเป่ยตี๋นัก

การที่มีกองทัพเดินทางไกลเติบโตขึ้นมาตรงหน้า ถือเป็นความอัปยศอดสู

ไม่เพียงแต่เป็นความบกพร่องของหน่วยสืบราชการลับ ในฐานะแม่ทัพแนวหน้า เขาก็มีส่วนที่ต้องรับผิดชอบอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง

หลู่หลีเห็นท่าทางของเฉินซือชัดเจน

หลู่หลีรู้ทันที ฉินเฟิงไม่ได้พูดโกหก เขาคงจะยึดครองมณฑลของเป่ยตี๋ได้หนึ่งมณฑลแล้วจริง ๆ

แต่หลู่หลีไม่อาจยอมแพ้

เขากัดฟัน แค่นเสียงเย็นชา “ยึดครองได้หนึ่งมณฑล แล้วจะทำอะไรต่อ?”

“ทหารอำเภอเป่ยซีมีหนึ่งหมื่นคน ถ้าเป่ยตี๋ส่งกองพลพญาอินทรีหรือกองพลหมาป่าเหมันต์ไปยังแนวหน้าสักกอง เป่ยตี๋ก็ยึดดินแดนที่เสียไปคืนได้แล้ว!”

“เจ้าพูดไม่ผิด ป้อมปราการชายแดนของเป่ยตี๋อ่อนแอ นี่เป็นจุดอ่อนของเป่ยตี๋ แต่ก็อย่างที่เจ้าบอก”

“แม้จะยึดได้ แล้วจะรักษาไว้ได้อย่างไร?”

สายตาของหลู่หลี ถึงกำลังทหารจะเก่งกาจ แต่ในด้านกลยุทธ์ ก็ยังไม่อาจพูดได้ว่าเหนือชั้น

ดินแดนเพียงหนึ่งมณฑลนี้ ยึดได้แต่รักษาไว้ไม่ได้ จะมีความหมายอะไร?

คิดจะใช้ผลลัพธ์นี้มาต่อรองในการเจรจา ไร้เดียงสาเกินไปแล้ว!

เมื่อเผชิญหน้ากับการเยาะเย้ยของหลู่หลี ฉินเฟิงกลับหัวเราะ

“หลู่จู้กั๋ว ข้าออกคำสั่งโจมตีแล้ว ย่อมเตรียมพร้อมรับมือทุกสถานการณ์อย่างแน่นอน”

“รักษาไว้ไม่ได้? แล้วอย่างไรเล่า!”

“ใครบอกว่าข้าจะรักษาไว้?”

บทที่ 697 ใช้แผ่นดินของเจ้าเป็นโล่ของข้า 1

Verify captcha to read the content.ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ