บทที่ 707 การปะทะเดือด
องค์หญิงใหญ่ตระหนักได้ในทันที ไม่แปลกเลยที่ฉินเฟิงไม่ยอมรับตำแหน่งขุนนาง พอใจกับยศเล็ก ๆ เพียงเท่านี้ ก็ดูตอนนี้เถิด นี่คือความเฉลียวฉลาดของฉินเฟิงนั่นเอง
พอเจอเรื่องใหญ่ ฉินเฟิงสามารถใช้เรื่องนี้เป็นข้ออ้าง ปัดความรับผิดชอบได้ตามใจชอบ ช่างเป็นกลยุทธ์รุกรับที่ยอดเยี่ยม
ฉีหยางจวิ้นจู่ที่ยืนอยู่ข้าง ๆ มองมารดาที่มักเป็นผู้เหนือกว่า วางแผนการอย่างรอบคอบ แต่ตอนนี้กลับจัดการฉินเฟิงไม่ได้เลย นางประหลาดใจนัก
ชัดเจนว่าเป็นการเลี้ยงเสือไว้เป็นภัยจริง ๆ
แต่ฉีหยางจวิ้นจู่ ก็เกลียดชังไม่ลง
นางเห็นการเติบโตของฉินเฟิงมาตลอด รู้ดีว่า ฉินเฟิงกลายเป็นเช่นทุกวันนี้ ล้วนราชวงศ์หลี่บีบบังคับ
ทุกคนคิดคำนวณเอาเปรียบเขา เพื่อปกป้องตนเอง ฉินเฟิงจำต้องโต้กลับ
องค์หญิงใหญ่เรียกหาฉินเฟิงวันนี้ก็เช่นกัน หาได้มีเจตนาดี ยามนี้จึงไม่ต่างจากยกหินทุบเท้าตัวเอง
ตั้งใจจะข่มขู่ฉินเฟิง กลับถูกฉินเฟิงบีบบังคับเรื่องการอภิเษกสมรสกับองค์หญิงหมิ่งเยว่ ข่มขู่ไปถึงการเข้าเฝ้าพรุ่งนี้เสียอีก
ตอนนี้ฉินเฟิงยังไม่มีท่าทีจะจากไป เขาประมือคำนับ
“องค์หญิงใหญ่ ถ้าข้าจำไม่ผิด ทั้งวังหลังนี้มีเพียงผู้เดียวที่ถือศีลไม่ขาด”
“วัดกวนอิมนี้คงเป็นที่ประทับของฮองเฮากระมัง?”
“ข้าน้อยมาถึงที่นี่แล้ว ถ้าไม่ได้เข้าเฝ้า คารวะฮองเฮา เกรงว่าจะผิดธรรมเนียมแล้ว”
องค์หญิงใหญ่ขมวดคิ้ว ปฏิเสธอย่างเด็ดขาดและรวดเร็ว
“ฮองเฮาไม่พบปะคนนอกมานานแล้ว”
พอได้ยินแบบนี้ ฉินเฟิงก็ยกยิ้ม “ข้าน้อยกำลังจะได้เป็นพระสวามี จะยังถือว่าเป็นคนนอกอยู่อีกหรือ?”
องค์หญิงใจใจหาย ไม่คิดว่าฉินเฟิงจะมาไม้นี้
แม้ฮองเฮาจะไม่ใช่มารดาผู้ให้กำเนิดหลี่เซียวหลาน แต่ตามธรรมเนียมแล้ว ในฐานะที่เป็นองค์หญิง หลี่เซียวหลานย่อมต้องยอมรับฮองเฮาเป็นพระมารดา
และตอนนี้การอภิเษกสมรสระหว่างฉินเฟิงกับหลี่เซียวหลานก็เป็นเรื่องที่แน่นอนแล้ว
ฉินเฟิงจะถวายพระพรฮองเฮาก็ไม่นับว่าล่วงเกิน
แต่องค์หญิงใหญ่รู้ดีแก่ใจ ระหว่างฮองเฮากับหลี่เซียวหลานมีแค้นเลือด ไม่อาจให้อภัย ยามนี้ฉินเฟิงขอเข้าเฝ้าฮองเฮา ย่อมต้องเป็นการฉวยโอกาสก่อเรื่อง
ขณะที่องค์หญิงใหญ่ลังเลใจ น้ำเสียงนุ่มนวลอ่อนหวานก็ดังมาจากห้องด้านหลัง
“เฟิงเอ๋อร์อุตส่าห์นึกถึงข้าเช่นนี้ ข้าจะหลบเลี่ยงได้อย่างไร?”
สิ้นเสียง ฮองเฮาในฉลองพระองค์ลายหงส์สีดำแดงเดินออกมาจากห้องด้านหลัง
เป็นครั้งแรกที่ฉินเฟิงได้พบฮองเฮา เขาอดทึ่งไม่ได้ สมกับเป็นฮองเฮา มารดาของแผ่นดิน
ฉินเฟิงไม่ลังเล ทันทีที่เห็นก็โค้งคำนับ
“จ่างเล่อป๋อฉิน ขอเข้าเฝ้าอองเฮา”
“ถวายพระพรฝ่าบาท ขอพระองค์มีพระชนม์ยืนนาน พระวรกายแข็งแรง”
องค์หญิงใหญ่กับฉีหยางจวิ้นจู่สบตากัน ทั้งจนใจและกังวล
เมื่อครู่ ฉินเฟิงยังคงแสดงท่าทีคุกคาม เด็ดขาด แต่พริบตา กลับกลายเป็นบัณฑิตผู้เคารพกฎธรรมเนียมแล้ว
การปรับตัวของเขาช่างล้ำเลิศจริง ๆ
ไม่น่าแปลกใจ ที่ทั้งราชวงศ์หลี่และวังหลัง แทบไม่มีใครต่อกรกับเขาได้
ฮองเฮาแย้มยิ้มบาง ตรัสน้ำเสียงนุ่มนวลว่า “ฉินเฟิง เจ้าเป็นทั้งขุนนางผู้มีความชอบและอนาคตก็จะได้เป็นพระสวามีขององค์หญิงแห่งต้าเหลียง เราสองนับว่าเป็นญาติสนิท ไม่จำเป็นต้องมีพิธีรีตอง เจ้าลุกขึ้นเถิด”

ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ