บทที่ 710 จุดสูงสุดแห่งอำนาจ
แม้ฮองเฮาจะหูตากว้างไกล แต่นางก็อาศัยอยู่แต่ในวังหลังตลอด ด้านการรับรู้ข่าวสารสู้องค์หญิงใหญ่ไม่ได้
ข่าวขององค์หญิงใหญ่ล้วนเป็นข่าวที่รับรู้มาจากฮ่องเต้แคว้นต้าเหลียงโดยตรง
พอกล่าวถึงตรงนี้ องค์หญิงใหญ่ก็ถอนหายใจออกมา แม้แต่นางก็หวาดกลัวพลังอำนาจของฉินเฟิงตอนนี้
“ชายแดนเหนือต้าเหลียงถูกเป่ยตี๋รุกรานมาอย่างยาวนาน ประชาชนยากลำบากเดือดร้อน ในยามที่เลวร้ายที่สุด ประชาชนทั้งหมดในชายแดนเหนือรวมกันมีไม่ถึงสามแสนคนด้วยซ้ำ”
“ถ้านับแค่อำเภอเป่ยซี ก็มีประชากรอยู่ไม่ถึงหนึ่งหมื่นคน”
“แต่หลังจากการพัฒนาอย่างไม่ย่อท้อของฉินเฟิง ตอนนี้นับเพียงอำเภอเป่ยซี ประชาชนมีถึงเจ็ดหมื่นคนแล้ว!”
“ทั้ง ๆ ที่เป็นเพียงอำเภอติดชายแดน แต่กลับมีประชากรเทียบได้กับอำเภอใหญ่ของเมืองหลวง ด้วยแต่ละอำเภอก็มีประชากรราวเจ็ดแปดหมื่นคนเหมือนกัน”
“แล้วเมื่อเดือนก่อน กรมคลังได้สำรวจจำนวนประชากรในชายแดนเหนือทั้งหมดก็พบว่า ชายแดนเหนือมีประชากรเกินแปดแสนคนไปแล้ว เพิ่มขึ้นจากเมื่อก่อนถึงสองเท่าตัว”
“ถึงถ้าเทียบกับภูมิภาคอื่น ชายแดนเหนือยังนับว่ามีประชากรเบาบาง”
“เพราะแค่ที่เจียงหนานเพียงอย่างเดียวก็มีประชากรกว่าห้าล้านคนแล้ว”
“แต่อย่าลืมว่า ประชาชนผู้หิวโหยอดอยากที่สามารถมีชีวิตรอดไปจนถึงชายแดนเหนือได้ ส่วนใหญ่เป็นคนหนุ่มสาว ส่วนคนชราอ่อนแอ คนป่วย คนพิการ ล้วนตายระหว่างทาง”
“ประชากรแปดแสนคนของชายแดนเหนือ จึงหมายถึงแรงงานที่แข็งแรงแปดแสนคน”
“และประชากรก็ยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตราบใดที่ภัยพิบัติและความวุ่นวายในแต่ละพื้นที่ยังไม่สงบ ชายแดนเหนือก็จะมีประชากรเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ”
“อำเภอเป่ยซีก็จะกลายเป็น ‘เมืองหลวง’ ของชายแดนเหนือ”
“ยิ่งไปกว่านั้น เนื่องจากตั้งอยู่ในเขตชายแดนที่มีสงครามต่อเนื่อง การเก็บภาษีจึงใช้อัตราต่ำสุดมาโดยตลอด กล่าวคือ ฉินเฟิงสามารถเรียกเก็บภาษีได้มาก แต่ส่วนที่ต้องส่งเข้าคลังหลวงตามกำหนดกฎหมายไม่สูง”
“ยิ่งไปกว่านั้นก็ยังมีกิจการต่าง ๆ ของค่ายเทียนจีอีก ไหนจะการเจรจาสันติภาพคราวนี้ เงินชดเชยส่วนใหญ่อย่างไรก็จำเป็นต้องจัดสรรให้ชายแดนเหนือ เพื่อซ่อมแซมแนวปราการป้องกัน อาวุธยุทโธปกรณ์”
“เรียกได้ว่า ฉินเฟิงมั่งคั่งเทียบเท่ากับแคว้นหนึ่งแล้ว”
พอได้ฟังคำพูดขององค์หญิงใหญ่ ฮองเฮาก็จมอยู่ในความเงียบงัน
อำนาจทางทหารของฉินเฟิง กองทัพและอาวุธยุทโธปกรณ์อำเภอเป่ยซีล้วนเป็นเลิศและแข็งแกร่ง แม้แต่กองกำลังรักษาการณ์เมืองหลวงก็ไม่อาจเทียบได้
ส่วนสามกองทัพที่ประจำการณ์ชายแดนเหนือ แม้อาวุธยุทโธปกรณ์จะไม่ถือว่าเป็นเลิศ แต่ขวัญกำลังใจสูงนัก
กองกำลังทหารในมือฉินเฟิง แข็งแกร่งที่สุดในต้าเหลียงแล้ว
ส่วนด้านการเงินเขาก็ไม่เป็นรองใครทั้งนั้น
ผู้ใดกล้าเผชิญหน้ากับฉินเฟิง ก็มีโอกาสถูกปราบปรามอย่างรุนแรง
แม้แต่ราชวงศ์หลี่ ถ้าต้องการเอาชนะฉินเฟิงก็ต้องรวบรวมกองกำลังทั้งหมดที่มี แต่ปัญหาอยู่ตรงที่ ไม่สามารถทำเช่นนั้นได้
ยามนี้พรรคสนับสนุนฮ่องเต้ในแผ่นดินจงหยวนไม่อาจขยับตัว หนึ่ง ต้องป้องกัน เมืองหลวงจากกองกำลังชายแดนเหนือ สอง ต้องข่มขวัญตระกูลใหญ่ทางใต้และเจียงหนาน
ส่วนกองทัพประจำการณ์เมืองหลวง ครึ่งหนึ่งก็เป็นพรรคพวกของพลพรรคเถาหลินไปแล้ว
ส่วนตระกูลใหญ่ทางใต้ที่สนับสนุนราชวงศ์หลี่มาหลายชั่วอายุคน หลายปีมานี้ เริ่มกระสับกระส่วย ไม่สงบเสงี่ยม แค้นเคืองราชวงศ์หลี่ แค่พวกเขาไม่เปลี่ยนฝ่ายไปก็นับว่าโชคดีนัก ไม่อาจหวังให้ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือได้เลย
เมื่อไม่อาจรวบรวมกองกำลัง ไม่สามารถถอนรากถอนโคนฉินเฟิงได้ ก็เป็นอย่างที่องค์หญิงใหญ่กล่าว พลังเดียวชนะสิบกลยุทธ์ ด้วยกองกำลังในมือฉินเฟิง ไม่ว่าอุบายใด ๆ ก็ใช้กับเขาไม่ได้
ฮองเฮามองรูปปั้นพระแม่กวนอิม นิ่งเงียบอยู่เนิ่นนาน
เวลาล่วงผ่านนานเท่าใดไม่ทราบ นางถึงค่อย ๆ ผ่อนลมหายใจออกมา
“ข้ารู้ดี แผนการที่ดีที่สุดตอนนี้คือการปลอบประโลมฉินเฟิง ให้เขายังเป็นขุนนางผู้ภักดี ช่วยเหลือราชวงศ์หลี่ต่อไปก่อน”
“รอให้ถึงรุ่นถัดไปค่อยหาโอกาส ค่อย ๆ ลดทอนอำนาจตระกูลฉิน”
“แต่…ข้ารอนานขนาดนั้นไม่ไหว ข้าอยากเห็นตระกูลฉินล่มสลายเสียเดี๋ยวนี้”
“ผู้ใดกำหนดเล่าว่า ถ้าจะจัดการตระกูลฉินข้าต้องลงมือเอง?”
“ฉินเฟิงไม่ได้หวังจะแต่งงานกับองค์หญิงหมิ่งเยว่หรอกหรือ ดี ข้าจะให้เขาสมปรารถนา”
“เจ้าไปทูลขอพระราชโองการจากฝ่าบาทเสีย ถึงตอนต้าเหลียงต้องส่งคณะทูตไปเยือนเป่ยตี๋เพื่อแสดงความห่วงใย ให้แต่งตั้งฉินเฟิงเป็นผู้นำคณะทูต”
“ประกาศไปว่า เมื่อฉินเฟิงกลับจากราชกิจ เขาก็จะได้แต่งงานกับองค์หญิงหมิ่งเยว่”


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ