บทที่ 720 ฮ่องเต้ต้องการให้ขุนนางตาย แต่ขุนนางไม่ยอมตาย!
เฉินเจิ้งรู้จักฉินเฟิงเป็นอย่างดี หรืออาจกล่าวได้ว่า… คุ้นเคยกันมาก
กรมม้าหลวงดูแลม้าทั่วแผ่นดิน และม้าศึกก็อยู่ในความรับผิดชอบด้วยเช่นกัน
ไม่ว่าจะจัดตั้งองครักษ์ชุดดำ หรือฉินเฟิงจะขนส่งม้าศึกไปยังชายแดนเหนือล้วนต้องรายงานต่อกรมม้าหลวงก่อน
รายงานใดที่เกี่ยวข้องกับฉินเฟิง เฉินเจิ้งล้วนดูแลด้วยตนเองทั้งหมด ดำเนินการให้อย่างราบรื่น ไม่เคยขัดขวางฉินเฟิงแม้แต่ครั้ง เพราะเฉินเจิ้งรู้ดีว่า การที่ต้าเหลียงจะชนะสงครามและสามารถกดดันเป่ยตี๋ได้ ล้วนต้องพึ่งพาฉินเฟิงทั้งสิ้น
บ้านเมืองคือบ้านเมือง ส่วนตัวคือส่วนตัว
ตอนนี้ ฉินเฟิงมาเยือนอย่างไม่ได้นัดหมาย เฉินเจิ้งไม่ได้ใส่ใจแม้แต่น้อย
ครู่ต่อมา ภายใต้การนำทางของขันทีน้อย ฉินเฟิงก้าวเข้ามาในท้องพระโรง
เมื่อครู่ฉินเฟิงยังพาฉินเสี่ยวฝูไปเดินเล่นแถวทะเลสาบแสงจันทร์ อ้างว่าไปตกปลา แต่ที่จริงแล้ว ดวงตากลับจ้องมองไปยังเรือสำราญ
บนเรือสำราญคึกคักด้วยหญิงงาม
น่าเสียดายที่ฉินเฟิงกำลังจะมีครอบครัวเลยจำต้องอดกลั้น ทำตัวเป็นคนดีมีศีลธรรม
ทะเลสาบแสงจันทร์อยู่ไม่ไกลจากพระราชวังต้องห้าม เดิมขุดทะเลสาบแสงจันทร์เป็นส่วนหนึ่งของคูเมือง แต่เมื่อเวลาผ่านไป ทะเลสาบแสงจันทร์กับคูเมืองก็ค่อย ๆ แยกเป็นสองส่วน
ฉินเฟิงรู้อยู่แล้วว่าวันนี้ฉินเทียนหู่พาเหล่าขุนนางพลพรรคเถาหลินเข้าวังเพื่อขอให้แต่างตั้งขุนนางตำแหน่งมหาเสนาและไท่เป่า
ทว่าผ่านไปทั้งวันแล้วยังไม่เห็นบิดากลับจวน
คาดว่าคงมีปัญหาเกิดขึ้นแน่
ฉินเฟิงเลยรีบเข้าวังมาดู พอเดินเข้าท้องพระโรงก็เห็นเฉินเจิ้งยืนอยู่กลางหมู่ขุนนาง เขาอดนึกขำไม่ได้
เมื่อเฉินเจิ้งออกหน้า เรื่องนี้ก็แทบจะไม่มีทางเจรจาแล้ว
ฉินเฟิงเดินเข้า คำนับฮ่องเต้แคว้นต้าเหลียงอย่างนอบน้อม
“จ่างเล่อป๋อฉินเฟิง ขอเข้าเฝ้าฝ่าบาท ขอฝ่าบาทมีพระชนม์หมื่นปีหมื่น ๆ ปี”
สีหน้าของฮ่องเต้แคว้นต้าเหลียงไม่สู้ดี เขาเกรงกลัวอิทธิพลของฉินเฟิง อีกทั้งในฐานะขุนนาง ฉินเฟิงล้วนปฏิบัติตามธรรมเนียม ฮ่องเต้ต้าเหลียงจำต้องฝืนใจตอบรับ
“ฉินเฟิง เจ้าอุตส่าห์เข้าวังมาเพราะเรื่องการแต่งตั้งมหาเสนากับไท่เป่าเช่นกันหรือ?”
ฉินเฟิงไม่ต้องคิดนาน ตอบกลับตรงไปตรงมา “พ่ะย่ะค่ะ”
สีหน้าฮ่องเต้แคว้นต้าเหลียงถมึงทึงน่ากลัว ภายในใจด่าทอ…เจ้าเด็กสารเลวนี่ แม้แต่แกล้งทำก็ไม่แกล้งแล้ว
ยังไม่ทันที่ฮ่องเต้แคว้นต้าเหลียงจะสั่งลงโทษ เถียนหยวนโซ่วที่อยู่ข้าง ๆ ก็ส่งเสียงเย้ยหยัน
“ฉินเฟิง เจ้ามาสายเกินไปแล้ว ใต้เท้าเฉินแสดงจุดยืนชัดเจน ตำแหน่งมหาเสนากับไท่เป่า ไม่อาจเป็นของตระกูลฉินได้เด็ดขาด”
สำหรับฝ่ายฮ่องเต้แล้ว แค่ตำแหน่งมหาเสนากับไท่เป่าคนใหม่ไม่ใช่คนของตระกูลฉินและพลพรรคเถาหลินก็นับว่าชนะ
ขุนนางฝ่ายฮ่องเต้จะไม่ยินดีได้อย่างไร?
แต่ฉินเฟิงกลับยักไหล่ไม่ใส่ใจ แล้วกล่าวว่า “ใต้เท้าเฉิน? เสนาบดีกรมม้าหลวง? เพียงแค่คนดูแลม้าก็ชี้นำราชสำนักได้แล้วหรือ?”
ได้ยินวาจาฉินเฟิง ทั้งท้องพระโรงพลันวุ่นวาย
คนดูแลม้า?!
กล่าวถึงเฉินเจิ้งหรือ? พึงรู้ไว้ว่า เขาเป็นบัณฑิตเอกคนเดียวที่ยังมีชีวิตอยู่ในราชสำนักต้าเหลียง
ที่เป็นเสนาบดีกรมม้าหลวงก็เพราะเฉินเจิ้งก่อเรื่องวุ่นวายทุกวัน แม้แต่ฮ่องเต้แคว้นต้าเหลียงก็ไม่อาจเลื่อนตำแหน่งให้เขาได้
อีกอย่าง กรมม้าหลวงก็เป็นหนึ่งในขุนนางชั้นสูงทั้งหกกรมเก้าขุนนาง ตำแหน่งของเขาไม่ได้ต่ำต้อยแต่
บรรยากาศในท้องพระโรงค่อย ๆ เปลี่ยนไป


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ