เข้าสู่ระบบผ่าน

บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ นิยาย บท 730

บทที่ 730 เอาชนะให้ได้ภายในหนึ่งเดือน!

ทหารที่ติดตามมาด้วยมองพวกฉินเฟิงที่ตะลุมบอนกันก็ส่ายหน้า ถอนหายใจออกมาด้วยความรู้สึกหลากหลาย

“นายน้อยฉินคือเทียนลู่โหว หัวหน้าของโหวทั้งร้อย หนิงหู่คือเชียนฮู่โหว สวีโม่ก็เป็นแม่ทัพใหญ่แห่งอำเภอเป่ยซี ส่วนหลี่จางก็เป็นซื่อจื่อ”

“ทั้งสี่คน แค่คนใดคนหนึ่งกระทืบเท้า ทั้งแคว้นต้าเหลียงก็สั่นสะเทือนไปสามครั้งแล้ว”

“ถ้าไม่ได้เห็นกับตา ใครเล่าจะเชื่อว่าผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสี่คนจะหัวเราะ ด่าทอ เกลือกกลิ้งเล่นกันอยู่บนพื้นเช่นนี้?”

เหล่าทหารรอบข้างต่างก็หัวเราะชอบใจ

“ฮ่า ๆๆ ท่านโหวฉินมักทำอะไรแปลกใหม่เสมอ ไม่อาจคาดเดาด้วยเหตุผลได้หรอก”

“อย่างคำกล่าวที่ว่า ใดล้ชาดติดสีแดง ใกล้หมึกติดสีดำ อยู่ใกล้ท่านโหวฉินนาน ๆ ก็ย่อมเป็นอย่างท่าน”

ตอนนั้นเอง หลี่จางกระโดดก็ขึ้นมาเหมือนปลาคาร์ป ผลักสวีโม่ที่อยู่บนตัวออก แล้ววิ่งหนีไปไกล ก่อนจะหันมาชี้นิ้วพลางด่าทอเสียงดัง

“เจ้าโจรน้อยตระกูลฉิน กล้าดีอย่างไรไม่เคารพซื่อจื่อเช่นข้า ความอัปยศวันนี้ วันหน้าข้าจะต้องทวงคืนร้อยเท่า!”

ยังกล้าโวยวาย!

ฉินเฟิงพับแขนเสื้อพลางกระโดดโหยง ๆ ตะโกนลั่น “ถ้าวันนี้ข้าไม่ได้ถอดกางเกงเจ้า ข้าขอสาบานว่าจะเปลี่ยนไปใช้แซ่เดียวกับเจ้า! หนิงหู่ สวีโม่ พวกเจ้ายังยืนเหม่ออยู่ทำไม? ไล่ตามไปเร็วเข้า!”

หลี่จางตกใจสุดขีด เขารู้ดีว่าฉินเฟิงกล้าพูดก็กล้าทำ

ไม่กล้าลังเลอีก ซื่อจื่อรีบหันหลังวิ่งหนีต่อ

พี่น้องทั้งสี่ถกเถียงกันไปตลอดทาง จนเงียบลง

หลี่จางหน้าบึ้งตึง ต่อยไหล่สวีโม่ทีหนึ่งพลางพูดอย่างไม่พอใจ “ไอ้คนอกตัญญู กล้าดีไปช่วยคนนอก ช่างเป็นพวกหันหลังให้พี่น้องจริง ๆ”

สวีโม่หัวเราะลั่น “ซื่อจื่อ ท่านยังมีหน้ามาพูดอีกหรือ ตั้งแต่พี่ฉินจากชายแดนเหนือไป ท่านไม่เคยหยุดสั่งข้าไปโน่นมานี่เลย”

“บัดนี้พี่ฉินกลับมาแล้ว ข้าย่อมต้องแก้แค้นส่วนตัวบ้าง”

ฉินเฟิงกุมสายบังเหียน ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม ในใจซาบซึ้งนัก…ชาตินี้ได้มีพี่น้องเช่นพวกเขา นับว่าไม่เสียชาติเกิดแล้ว

“ซื่อจื่อ ทางเทือกเขาสยงอิงเป็นอย่างไรบ้าง?”

หลี่จางคาดไว้แล้วว่าฉินเฟิงต้องถามเรื่องนี้ เพราะเทือกเขาสยงอิงเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญที่สุดตอนนี้

“เทือกเขาสยงอิงเป็นหนึ่งในจุดยุทธศาสตร์สำคัญที่สุดของเป่ยตี๋ ถ้าไม่สามารถโจมตีในยามที่พวกเขาไม่ทันตั้งตัวได้ การคิดจะยึดเทือกเขาสยงอิงก็เป็นเพียงเรื่องเพ้อฝัน”

“เราพลาดโอกาสโจมตีที่ดีที่สุดไปแล้ว เทือกเขาสยงอิงจึงมีการป้องกันแน่นหนาขึ้น ก่อนหน้านี้ลองโจมตีหยั่งเชิงคราหนึ่ง ไม่ถึงชั่วยาม เราต้องสูญเสียกำลังพลไปเกือบห้าร้อยคน”

“หลังข้ากับสวีโม่ปรึกษากันเลยตัดสินใจเป็นเอกฉันท์ว่า จะยกเลิกการโจมตี”

“ตอนนี้เทือกเขาสยงอิงถูกล้อมไว้อย่างสมบูรณ์แล้ว ตามข่าวที่ได้รับมา เสบียงภายในน่าจะอยู่ได้ราวสองปี”

“แต่ด้วยตำแหน่งที่ตั้งของเทือกเขาสยงอิง พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นหิน การหาแหล่งน้ำเป็นเรื่องยาก”

“เทือกเขาสยงอิงจึงน่าจะอยู่ได้อีกราวสามเดือน เมื่อขาดน้ำพวกเขาก็จำเป็นต้องออกมา”

เมื่อทราบว่าการโจมตีเทือกเขาสยงอิงไม่เป็นผล ฉินเฟิงไม่ได้ตำหนิผู้ใด เพียงถอนหายใจเบา ๆ

เขาอยู่ในเมืองหลวง แม้ม้าเร็วจะเร่งสุดกำลังส่งคำสั่งแม่ทัพได้ภายในเวลาสองวันสองคืนแต่ก็ยังนับว่าช้าเกินไป

บนสนามรบ สถานการณ์เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ เวลาสองวันสองคืนก็เพียงพอที่สถานการณ์จะเปลี่ยนแปลงไปมาก

ยิ่งไปกว่านั้น เทือกเขาสยงอิงเป็นหนึ่งในป้อมปราการไม่กี่แห่งในแนวหน้าของเป่ยตี๋ อาจกล่าวได้ว่ามั่นคงดุจถังเหล็ก

แม้เหล่าทหารใต้บังคับบัญชาของฉินเฟิงจะชำนาญในการโจมตีป้อมปราการ แต่ถ้าอยากทะลวงกระดูกแข็ง ๆ ของเทือกเขาสยงอิงก็ยังต้องยอมแลกอย่างหนัก

หลี่จางตัดสินใจละทิ้งการโจมตี เลือกใช้กลยุทธ์ล้อมเมือง นับเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดแล้ว

Verify captcha to read the content.ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ