บทที่ 736 สารลับจากฉินเฟิง
ฉินเฟิงไม่เคยเป็นคนหยิ่งผยอง แต่เมื่อหลู่ฉือนำคนออกจากเมือง ฉินเฟิงก็อดผิดหวังไม่ได้
ถ้าเป็นเขา อย่าว่าแต่กองทัพศัตรูขุดศพเลย ต่อให้ฟ้าถล่ม เขาก็จะไม่ส่งทหารออกจากป้องปราการแม้แต่คนเดียว
ด้วยความแข็งแกร่งของเทือกเขาสยงอิงบวกกับทหารเผ่านศึกแปดพันคนที่ประจำการณ์ ขอแค่มีเสบียงอาหารและน้ำเพียงพอก็ปกป้องเทือกเขาสยงอิงได้จนโลกแตก
อย่าว่าแต่กำลังพลเพียงเท่านี้ของฉินเฟิ ต่อให้มีกองทัพสามหมื่นห้าหมื่นคนมาก็ไม่มีประโยชน์อันใด
ตั้งแต่โบราณ การรบที่ต้องบุกตีป้อมปราการ ถ้าใช้การถมชีวิตทหารเพื่อบุกตีเมือง ประสบความสำเร็จน้อยมาก
ส่วนใหญ่ล้วนใช้กลยุทธ์เอาชนะ
ชีวิตก่อนของฉินเฟิง จักรวรรดิยิ่งใหญ่ที่เริ่มต้นจากทุ่งหญ้า กวาดล้างทวีปเอเชียและยุโรป
พวกเขามีกำลังพลทั้งหมดเท่าไหร่ บุกตั้งแต่คาราโครุมไปจนถึงเวนิส ทุกที่ที่ผ่านไปล้วนเต็มไปด้วยความทุกข์ยาก
เมืองเตี้ยวอวี๋ที่มีคนเพียงสี่พันหกร้อยคนเผชิญหน้ากับการล้อมโจมตีของกองทัพม้าเหล็กจากทุ่งหญ้าสี่หมื่นถึงหนึ่งแสนคน สามารถป้องกันได้ถึงสามสิบหกปี แม้แต่ในระหว่างการบุกโจมตีอย่างหนัก ยังสามารถสังหารข่านผู้ยิ่งใหญ่ได้หนึ่งคน
เว้นแต่จะถูกบีบบังคับก็ไม่มีใครกล้าเสี่ยงบุกเมือง นอกจากคนที่สมองถูกลาเตะเท่านั้น
เป็นเหตุผลว่าทำไม ตอนฉินเฟิงตัดสินใจจะเปิดฉากโจมตีหนักเทือกเขาสยงอิง หลี่จาง ถึงไม่ยอมและพยายามคัดค้านอย่างสุดกำลัง
ป้อมปราการของเทือกเขาสยงอิงแข็งแกร่ง ทว่าจิตใจของผู้คนภายในไม่เป็นหนึ่งเดียวกัน
ขณะนั้นเอง เสียงฝีเท้าดังมาจากด้านหลังกระโจม
หนิงหู่เปิดม่านออก พบว่ากองทหารม้าเกราะเบาของกองกำลังเสริมมาถึงด้านหลัง กระโจมแล้ว
ไม่มาก เพียงสี่ร้อยคน
กองทหารม้าที่หลู่ฉือพาออกมา กองแรกถูกทำลายยับเยิน กองที่สองเหลือรอดเพียงหนึ่งในสิบ กองทหารม้าที่เหลือล้วนถูกบั่นทอนกำลังใจอย่างร้ายแรง
กองทหารม้าเกราะเบาสี่ร้อยคนของฉินเฟิงขวัญกำลังใจเต็มเปี่ยม ถ้าต้องเผชิญหน้ากับกองทหารม้าที่ต้องศูนย์เสียพวกพ้องไปเกือบห้าร้อยคน ขวัญกำลังใจต่ำเตี้ย อย่างไรก็ยังสร้างความได้เปรียบได้
หนิงหู่คำนับ รายงาน “พี่ฉิน กองทหารม้าสี่ร้อยคนจากค่ายที่สองพร้อมโจมตีทุกเมื่อ!”
ฉินเฟิงโบกมือ กล่าวอย่างไม่ใส่ใจว่า “ไม่จำเป็นแล้ว”
“แม้ขวัญกำลังใจของศัตรูจะตกต่ำ แต่พวกเขาก็ยังเป็นทหารผ่านศึกร้อยสมรภูมิ ถ้าต้องปะทะระยะประชิดจะหลีกเลี่ยงการบาดเจ็บล้มตายไม่ได้”
“กองทหารม้าอำเภอเป่ยซีล้วนเป็นสมบัติล้ำค่า ไม่คุ้มจะเอาชีวิตไปเสี่ยง”
“ยิ่งไปกว่านั้น เจตนาทางยุทธศาสตร์ของพวกเราบรรลุผลแล้ว กองทัพศัตรูเอากองทหารม้าออกมาทิ้งถึงครึ่งหนึ่ง แต่กลับไม่บรรลุเป้าหมายที่จะฝังศพทหารกล้า ขวัญกำลังใจย่อมตกต่ำลงอีก เพียงกองทหารม้าเป่ยตี๋กลับเข้าเมืองไป ข่าวความพ่ายแพ้ก็จะแพร่สะพัด”
ฉินเฟิงไม่คิดไล่ล่า สาเหตุสำคัญอีกประการหนึ่งคือ กองทหารม้าภายใต้การบังคับบัญชาของหลู่ฉืออยู่ใกล้ป้อมปราการเทือกเขาสยงอิงเกินไป
ระยะห่างเพียงหนึ่งร้อยก้าว ถ้าฉินเฟิงส่งกองทหารม้าออกไป หลู่ฉือย่อมหนีกลับเข้าเมือง
ถึงตอนนั้น ทหารม้าเกราะเบาแห่งเป่ยซีจะต้องกลับมาอย่างผิดหวัง ถ้าบุ่มบ่ามไล่ล่าก็จะถูกทหารที่ประจำการบนกำแพงเมืองยิงธนูใส่
ต้องรู้จักหยุดเมื่อได้ดี
ครั้นเห็นหลู่ฉือยังไม่ยอมจากไป ฉินเฟิงกล่าวอย่างไม่ใส่ใจว่า “ให้พลธนูกดดันขึ้นไปอีกสักหน่อย”
พลธนูตั้งขบวน พลธนูแถวแรกห้าร้อยคนถือแหลน ตามมาด้วยพลอีกห้าร้อยคนถือธนูหนักเคลือนไปข้างหน้าห้าสิบก้าว
พอเห็นเช่นนี้ หลู่ฉือพลันนำกำลังที่เหลือหนีกลับเข้าเมือง
หม่าถิงอวิ๋นยืนอยู่บนกำแพงเมือง เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดก็ทั้งโกรธและตกใจ



ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ