บทที่ 743 ราชวงศ์อันชอบธรรมของเป่ยตี๋
เมื่อได้ยินเสียงถอนหายใจของหลู่ฉือ หนิงหู่ที่อยู่ข้าง ๆ ก็ถอนหายใจตาม
อย่าว่าแต่ลู่ฉือเลย แม้แต่หนิงหู่ก็ไม่เคยเห็นมาก่อน
รบหรือ? ทุ่มเงินชัด ๆ
แม้การโจมตีจะเริ่มขึ้นแล้ว แต่ฉินเฟิงก็ยังไม่ออกคำสั่งโจมตีใด ๆ เหล่าทหารทั้งหมดหลบอยู่ห่าง ๆ กลัวว่าจะถูกธนูที่ยิงออกมาจากในเมืองพรากชีวิต
อัตราการบาดเจ็บและเสียชีวิตของทหารเลยแทบไม่มีเลย แต่เพียงยี่สิบวัน เงินที่ทุ่มไปมีมูลค่าถึงหนึ่งแสนตำลึงแล้ว
ยังไม่นับรวมว่าเสบียงเสียหาย แค่การคำนวณเงินที่ถูกโยนลงไปในรถยิงเท่านั้น
หนิงหู่ถอนหายใจยาว “สงครามที่ต้องร่ำรวยแบบนี้ เกรงว่าใช้ชีวิตแปดชาติก็ไม่เคยเจอ”
ฉินเฟิงไม่สนใจเสียงงึมงำของหนิงหู่ เขาเพียงปลอบประโลมลู่ฉือ “ถ้าแม่ทัพหลู่ไม่รังเกียจก็พักอยู่ในค่ายทหารนี้สักระยะเถิด”
หลู่ฉือส่ายหัวราวกับรัวกลอง
“ขอบน้ำใจนายน้อยฉิน แต่ไม่จำเป็นต้องพัก ทหารสองพันคนก็เท่ากับปากสองพันปาก จะให้ท่านต้องเสียค่าใช้จ่ายได้อย่างไร?”
“ไม่สู้ท่านจัดการให้พวกเราได้ตั้งรกรากโดยเร็วตามที่ระบุไว้ในสารยอมจำนนดีหรือไม่”
แล้วหลู่ฉือก็จงใจเสริมอีกประโยค “ด้วยชื่อเสียงนายน้อยฉิน คงจะไม่คิดกลับคำกระมัง?”
ฉินเฟิงไม่คิดมาก เพียงล้วงมือเข้าไปในแขนเสื้อ หยิบสัญญาฉบับหนึ่งออกมาวางตรงหน้าหลู่ฉือ
“นี่ตั๋วเงินของโรงแลกเงินภายใต้สังกัดค่ายเทียนจี ทั้งค่ายเทียนจีและอำเภอเป่ยซี ผู้มีสิทธิ์ใช้ตั๋วเงินเปล่านี้มีไม่ถึงห้าคน”
“แค่ท่านถือตั๋วเงินไปที่โรงแลกเงินใดก็ได้ภายใต้สังกัดค่ายเทียนจี ท่านก็แลกเป็นเงินได้ ไม่เพียงเท่านั้น ถ้าต้องการขนย้ายไปที่ใด ค่ายเทียนจีจะส่งคนมาช่วยขนย้ายเงินที่ติดค้างให้ รับรองความปลอดภัย”
“ข้าสามารถเขียนหลักฐานการรับเงินแปดแสนตำลึงลงบนสัญญาได้ทันที”
ดวงตาของหลู่ฉือเป็นประกาย ถ้าคำพูดเหล่านี้หลุดออกมาจากปากของคนอื่นหลู่ฉือคงจะหัวเราะ และไม่สนใจ แต่ฉินเฟิงต่างออกไป
เขามั่งคั่ง
ไม่เช่นนั้นเขาจะสร้างกองทัพใหญ่แห่งเป่ยซีได้ด้วยกำลังของตนเองหรือ? ไหนจะยังค่ายเทียนจีภายใต้บังคับบัญชาซึ่งมีกิจการหาเงินแผ่ขยายไปทั่ว ทั้งด้านการทหารและการดำรงชีวิต สรุปได้ประโยคเดียว มั่งคั่งแบบน้ำไหลไฟดับ
แต่หลู่ฉือก็ไม่ได้โง่ เขาตระหนักดี คำพูกของฉินเฟิงมีนัยแฝง
“นายน้อยฉิน ถ้ามีอะไร เชิญท่านกล่าวมาตรง ๆ เถอะ ข้าเป็นคนหยาบกระด้าง ไม่เก่งคาดเดาความคิดผู้อื่น”
ฉินเฟิงหรี่ตา…หลู่ฉือผู้นี้ก็นับว่าซื่อตรง เขาเลยไม่อ้อมค้อมอีก
“แม่ทัพหลู่ ท่านคงอายุไม่ถึงสี่สิบ แต่ก็คงราว ๆ สามสิบห้าแล้วกระมัง?”
แม้หลู่ฉือจะไม่เข้าใจ แต่ชีวิตเขาขึ้นอยู่กับฉินเฟิง ไม่กล้าลังเล เขารีบตอบ “ข้าอายุสี่สิบปีแล้ว”
ฉินเฟิงพยักหน้าแล้วถามต่อ “มีบุตรกี่คนหรือ?”
หลู่ฉือขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนจะตอบ “บุตรชายสองคน บุตรสาวหนึ่งคน มีภรรยาเอกหนึ่งคน ภรรยารองหนึ่งคน”
และเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ฉินเฟิงถามต่อ หลู่ฉือตอบเองโดยไม่รอ “บิดามารดายังมีชีวิตอยู่ มีญาติพี่น้องสิบกว่าคน ล้วนพึ่งพาข้า”
ฉินเฟิงถามกลับ “ท่านรับเงินแล้วย้ายมาอยู่ในดินแดนต้าเหลียงของข้า กินดีอยู่ดี เคยคิดหรือไม่ว่าครอบครัวใหญ่ของท่านจะเป็นเช่นไร?”
ก่อนหน้านี้หลู่ฉือลังเล ไม่ยอมทรยศ ก็เพราะเป็นห่วงครอบครัว


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ