บทที่ 751 การพบกันอีกครั้งที่แนวหน้า
ป้อมปราการที่ส่งกลิ่นเหม็นคลุ้งน่าสะอิดสะเอียน แต่ฉินเฟิงยิ่งมองยิ่งชอบ นับจากวันนี้เป็นต้นไป เทือกเขาสยงอิงจะไม่ใช่ของเป่ยตี๋ และไม่ใช่ของต้าเหลียงด้วย เพราะฉินเฟิงจะส่งกองทัพของเขาเข้าประจำการณ์ป้อมปราการเทือกเขาสยงอิง บริหารป้อมปราการทางทหารขนาดใหญ่นี้ด้วยตนเอง!
ถึงเวลานั้น เทือกเขาสยงอิงกับอำเภอเป่ยซีจะสามารถติดต่อกันได้จากระยะไกล
แม้เทือกเขาสยงอิงจะถูกเป่ยตี๋ล้อมได้ง่าย และอาจต้องเผชิญกับสถานการณ์ถูกโจมตีเช่นตอนนี้ อีกทั้งแค่เป่ยตี๋ส่งทหารมาตั้งค่ายตามเส้นทางก็สามารถตัดขาดกำลังสนับสนุนจากอำเภอเป่ยซีได้ ทำให้เป่ยซีไม่สามารถช่วยเหลือเทือกเขาสยงอิงได้ทันท่วงที
แม้จะเป็นเช่นนั้น คุณค่าของเทือกเขาสยงอิงก็ยังประเมินค่าไม่ได้
ฉินเฟิงคิดไว้แล้ว เขายกระดับกำแพงป้อมปราการให้สูงขึ้นจากพื้นฐานเดิม
ไหน ๆ ช่างฝีมือค่ายเทียนจีก็อยู่ที่นี่ก็ยังไม่จำเป็นต้องรีบกลับไป ให้เข้าทำความสะอาดสิ่งสกปรกอย่างง่าย ๆ แล้วเริ่มลงมือซ่อมแซมสิ่งอำนวยความสะดวกที่เสียหาย
ขณะที่ฉินเฟิงกำลังวุ่นวายกับการรับมอบป้อมปราการก็มีเสียงตะโกนดังมาจากด้านล่างกำแพงเมือง
“ท่านโหวมีแขกผู้มีเกียรติต้องการพบขอรับ”
แขกผู้มีเกียรติ? ตอนนี้แขกผู้มีเกียรติโผล่มาจากไหน?
ฉินเฟิงงุนงง หันไปมองทางค่ายหน้าของกองทัพก็เห็นม้าพันธุ์ดีสีดำตัวหนึ่ง และมีหญิงสาวกำลังควบม้ามาทางนี้ พอมองดูดี ๆ ก็พบว่าเป็นจิ่งเชียนอิ่ง!
“พี่หญิงสี่?!”
ฉินเฟิงทั้งตื่นเต้นและดีใจ รีบวิ่งลงมาจากกำแพงเมืองอย่างใจร้อน
แทบจะในเวลาเดียวกับที่ฉินเฟิงวิ่งออกจากประตูเมืองที่จิ่งเชียนอิ่งมาถึง
เนื่องจากอากาศหนาวเย็นมาก อีกทั้งลมเหนือพัดแรง จิ่งเชียนอิ่งจึงสวมชุดหนังสีน้ำตาล จากเนื้อผ้าน่าจะเป็นหนังวัว
จิ่งเชียนอิ่งรูปร่างกระฉับกระเฉงอยู่แล้ว พอมาสวมชุดหนังยิ่งสง่างามองอาจราวกับวีรสตรี
ฉินเฟิงกางแขนออกตั้งใจจะกอดจิ่งเชียนอิ่งให้แน่น ๆ สักที แต่กลับถูกจิ่งเชียนอิ่งยกด้ามดาบกระแทกเข้าที่หน้าอก จนเกือบตายคาที่
“พี่หญิงสี่ ท่านช่างโหดร้ายไปแล้วนะ!” ฉินเฟิงกุมหน้าอก ทำท่าอ่อนแรงราวกับจะเป็นลม
พอจิ่งเชียนอิ่งได้รับอนุญาตจากฉินเฉิงซื่อก็รีบเร่งเดินทางมาโดยไม่หยุดพักเพื่อจะได้พบฉินเฟิงโดยเร็วที่สุด แต่ว่า… ทั้ง ๆ ที่ระหว่างทางมาเต็มไปด้วยความคิดถึง พอได้พบหน้าจริง ๆ กลับโกรธจนแทบระงับไม่อยู่
จิ่งเชียนอิ่งคว้าหูของฉินเฟิงอย่างไม่สบอารมณ์ พลางกัดฟันถาม “เจ้ายังจำได้อีกหรือว่ามีข้าเป็นพี่สาว?”
“ไม่ได้พบกันนานขนาดนี้ ผ่านหน้าบ้านทั้งทีกลับไม่ยอมเข้าบ้าน”
“เจ้ายังจำสัญญาที่เคยให้ไว้กับข้าได้หรือไม่เจ้าเด็กตัวเหม็น ข้านึกว่าเจ้าจะแตกต่างจากผู้ชายเหม็นสาบคนอื่น ที่ไหนได้ อีกาทั่วใต้หล้าล้วนสีดำ!”
เผชิญหน้ากับคำด่าทอสาดเสียเทเสียของจิ่งเชียนอิ่ง ฉินเฟิงน้อยใจนัก
เขาสร้างความดีความชอบมากมายแทนที่จะได้รับคำชมเชย กลับถูกด่าทอทันทีที่พบหน้า แม้แต่เซี่ยอวิ๋นเอ๋อร์ แม่เสือสาวน้อยดุร้ายก็ยังไม่ใจร้ายถึงขนาดนี้
ทว่าสัมผัสได้ถึงความโกรธของจิ่งเชียนอิ่ง ฉินเฟิงไม่กล้าพูดพล่าม รีบอธิบายว่า “พี่หญิงสี่เข้าใจผิดไปใหญ่แล้ว!”
“การผ่านหน้าบ้านโดยไม่แวะเข้าไปไม่ใช่สิ่งที่ข้าปรารถนา แต่สถานการณ์ในสนามรบเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว ข้าจำต้องทำเช่นนั้น ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้”
จิ่งเชียนอิ่งคาดการณ์ไว้แล้วว่าเขาจะพูดเช่นนี้ นางแค่นเสียงเบา ๆ “เฮอะ แม้รีบร้อนเพียงใด เจ้าก็น่าจะมีเวลาแวะพบหน้าและพูดสักคำสองคำไม่ใช่หรือ?”
“ข้าขอเตือนเจ้า อย่าได้เอาเรื่องการรบมาเป็นข้ออ้าง ข้าไม่ใช่เด็กสามขวบ จะยอมให้เจ้าหลอกลวงได้อย่างไร?!”

ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ