บทที่ 762 ต่อสู้ตลอดคืน
เฉินโหมวตายแล้วหรือ?
เมื่อได้ยินข่าวนี้ เฉินหลี่เหมือนถูกฟ้าผ่ากลางกระหม่อม
เฉินหลี่กับเฉินโหมวไม่เพียงแค่เป็นหัวหน้ากับผู้ใต้บังคับบัญชา แต่ยังเป็นญาติพี่น้อง
เฉินหลี่ขึ้นมาถึงตำแหน่งนี้ได้ก็เพราะการผลักดันของเฉินโหมว
เฉินโหมวต่อสู้ในสนามรบมาหลายปี แต่ก็เอาตัวรอดมาได้ตลอด เรียกได้ว่าชนะแทบทุกสนามรบ แม้แต่ต้องต่อสู้กับทหารชั้นยอดและทหารม้าที่เก่งกาจของเป่ยซีแคว้นต้าเหลียง เขาก็ไม่ได้เสียเปรียบให้เลยแม้แต่น้อย
คนที่แข็งแกร่งเช่นเขา ถูกสังหารได้อย่างไร?
ช่างเป็นเรื่องตลกที่สุดที่เฉินหลี่เคยได้ยินมา
เขาจับไหล่ทหารส่งสาร กัดฟันแน่นพลางถามน้ำเสียงจริงจัง “เจ้าล้อข้าเล่นกระมัง?”
แน่นอนว่าทหารส่งสารรู้ถึงความสัมพันธ์ของเฉินหลี่กับเฉินโหมวดี พอได้เห็นเฉินหลี่โกรธและไม่อยากเชื่อจึงไม่แปลใจ เขาไม่กล้าลังเล ตอบว่า
“เรียน…เรียนท่านรองแม่ทัพ ต่อให้มีร้อยความกล้าข้าก็ไม่กล้านำข่าวลวงมารายงาน เรื่องนี้ได้รับแจ้งมาจากทหารม้าที่ถูกส่งไปลาดตระเวนและโจมตีแบบกองโจรขอรับ”
แม้ข้าไม่ได้เห็นร่างของแม่ทัพเฉินด้วยตาของตัวเอง แต่แม่ทัพเฉินถูกฉินเฟิงจับตัวไปตั้งแต่ครึ่งชั่วยามก่อนจริง และหลังจากนั้นไม่นานฉินเฟิงก็ให้ทหารบอกแกงกองทหารม้ากองพลหมาป่าเหมันต์ที่โจมตีแบบกองโจร คงหวังว่าเมื่อรู้เช่นนี้เหล่าทหารม้าเราจะล่าถอย
เฉินหลี่ยังไม่อยากเชื่อแต่ทุกอย่างช่างชัดเจน เว้นแต่จะมีปฏิหาริย์ เฉินโหมวคงไม่รอดแล้ว
เพราะเฉินโหมวเผชิญฉินเฟิง
เจ้าสารเลวฉินเฟิงปฏิบัติต่อคนทรยศอย่างหลู่ฉือกับหลี่โฉวอย่างดี แต่กลับโหดเหี้ยมไร้ปรานีต่อขุนนางผู้ซื่อสัตย์และแม่ทัพเอกที่จงรักภักดีต่อแคว้นเป่ยตี๋ ไม่มีแม้แต่โอกาสให้ต่อรอง
การตายอย่างไร้ปราณีของหม่าถิงอวิ๋นครั้งนั้นก็เป็นเครื่องยืนยันแล้ว
“ฉินเฟิงข้าจะฆ่าเจ้า!”
เสียงคำรามเดือดดาลของเฉินหลี่ก้องพื้นที่โล่งกว้าง กองพลหมาป่าเหมันต์โห่ร้องกึกก้อง
เฉินหลี่ชูธนูคู่ใจ จิตสังหารเดือดดาลฉายชัดในแววตา “ข้าขอสาบาน แค้นนี้ต้องชำระ ต่อให้ข้ากลายเป็นผีก็จะต้องสังหารฉินเฟิงให้ได้! ตั้งแต่บัดนี้ไป ฉินเฟิงคือศัตรูตัวฉกาจของกองพลหมาป่าเหมันต์ ข้าจะไม่ยอมอยู่ร่วมโลกกับฉินเฟิงเด็ดขาด!”
เหล่าทหารม้ากองพลหมาป่าเหมันต์ชูอาวุธในมือขึ้นพร้อมเพรียง และเปล่งเสียงฮึกเฮิม “ข้าขอสาบาน แค้นนี้ต้องชำระ ต่อให้ข้ากลายเป็นผีก็จะต้องสังหารฉินเฟิงให้ได้!”
…
ฉินเฟิงนำทัพ เบื้องหน้ามีทหารม้ากลุ่มเล็กคอยรบกวน พวกเขาโจมตีแล้วถอยกลับ แต่กองทัพของฉินเฟิงยังคงเป็นระเบียบ ควบม้าวิ่งเหยา แม้รู้ดีว่ากองทัพใหญ่ของศัตรูอาจบุกมาได้ทุกเมื่อก็ไม่อาจแตกตื่น
ผ่านไปเกือบหนึ่งชั่วยาม ทหารม้าที่ถูกส่งไปลาดตระเวนก็ตามทัน
“ท่านโหวฉิน ศัตรูห่างอยู่จากเรายังไม่ถึงสิบลี้แล้วขอรับ!”
ฉินเฟิงไม่ได้ตื่นตระหนก เพียงถามอย่างใจเย็น “กองทัพศัตรูมีกี่คน?”
หน่วยลาดตระเวนเช็ดเหงื่อที่หน้าผาก แล้วรีบตอบ “กะคร่าว ๆ ด้วยสายตา อย่างน้อยก็สองพันคนขอรับ!”
สองพันคน ไม่น้อยเลย
กองทหารม้าไม่เหมือนทหารราบ ค่าใช้จ่ายในการฝึกฝนแตกต่างกันลิบลับ อย่าว่าแต่ทหารม้าสองพันคนเลย ต่อให้เป็นทหารม้าสองร้อยคน สำหรับหนึ่งมณฑลก็ยากจะรับมือกับค่าใช้จ่ายไหว
ตอนนี้กองทัพทหารม้าของฉินเฟิงเหลือไม่ถึงพันคน ถ้าไม่สามารถกลับไปรวมกับกองทัพหลักได้ทันเวลา พวกเขามีโอกาสถูกกองพลหมาป่าเหมันต์สังหารหมู่
การเผชิญหน้าตรง ๆ ไม่ใช่การกระทำที่ชาญฉลาด ฉินเฟิงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วสั่งให้ทหารม้าหน่วยลาดตระเวนกลับไปจับตาต่อ รอจนกองพลหมาป่าเหมันต์เข้ามาใกล้ราวห้าลี้ให้กลับมารายงานอีกครั้ง

ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ