บทที่ 771 ทั่วหล้าตกตะลึง
สองคนมองหน้ากันอย่างงุนงง ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่ กว่าจะฟื้นคืนสติจากความตกตะลึง
ปากของหลู่ฉืออ้าค้างอยู่นาน ก่อนจะพูดอย่างงงงวยว่า “ข้า…ข้าไม่ได้ฟังผิดไปใช่หรือไม่? ท่านโหวฉินสังหารเฉินโหมวกับเฉินหลี่ และทำลายล้างกองพลหมาป่าเหมันต์ทั้งหมด?!”
“นี่…นี่เป็นไปได้จริงหรือ?!”
“กองพลหมาป่าเหมันต์เป็นหนึ่งในกองทหารม้าที่แข็งแกร่งที่สุดของเป่ยตี๋ แม้สู้ไม่ได้ แต่ถ้านี้ก็ยากจะตามทัน!”
หลู่ฉือไม่อยากเชื่อ แค่เขาได้ยินคำว่า ‘กองพลหมาป่าเหมันต์’ ก็ขาอ่อนแล้ว แต่ชั่วข้ามคืน กองพลหมาป่าเหมันต์กลับถูกฉินเฟิงทำลายล้าง? ต้องรู้ไว้ว่า ด้วยกำลังรบของกองพลหมาป่าเหมันต์ ถ้าพวกเขาตัดสินใจถอย ไม่มีกองทัพใดในใต้หล้าจะขวางได้
ไม่นาน ข่าวการกองพลหมาป่าเหมันต์ถูกกวาดล้างก็แพร่สะพัดไปทั่วแคว้น
พอฮ่องเต้เป่ยตี๋ทราบเรื่องก็ขังตัวเองอยู่ในห้องทรงพระอักษรหนึ่งวันเต็ม จนวันรุ่งขึ้น ฮ่องเต้เป่ยตี๋จึงเรียกหลี่อวี้กับเฉินซือเข้าเฝ้า
หลังปรับอารมณ์มาหนึ่งวันหนึ่งคืน พระทัยของฮ่องเต้เป่ยตี๋ยังคงหนักอึ้งและกดดัน
ฮ่องเต้เป่ยตี๋ทอดพระเนตรไปยังเฉินซือ ดวงตาของเฉินซือเต็มไปด้วยความเศร้าโศกและโกรธแค้น ฮ่องเต้เป่ยตี๋จึงนึกขึ้นได้…แม่ทัพและรองแม่ทัพของกองพลหมาป่าเหมันต์ล้วนเป็นคนตระกูลเฉิน เป็นพี่น้องของเฉินซือ
จิตใจของเฉินซือคงจะเจ็บช้ำนัก
ฮ่องเต้เป่ยตี๋พยายามควบคุมน้ำเสียงให้มั่นคง แล้วกล่าวอย่างจริงจัง “แม่ทัพเฉิน เจิ้นต้องแสดงความเสียใจกับเจ้าด้วย”
มุมปากเฉินซือกระตุก แต่ก็ยังคงแสร้งทำเป็นสงบ เขาค้อมคำนับฮ่องเต้เป่ยตี๋ “กระหม่อมขอแสดงความเสียใจกับฝ่าบาทด้วยเช่นกัน”
สำหรับเฉินซือ เขาเพียงสูญเสียพี่น้องร่วมตระกูลไปสองคน แต่สำหรับฮ่องเต้เป่ยตี๋ เขาสูญเสียกองพลหมาป่าเหมันต์ทั้งหมดที่ได้ชื่อว่าเป็นกองทหารม้าชั้นยอด นับตั้งแต่สงครามระหว่างแคว้นสิ้นสุดลง วันนี้คือวันที่มืดมนที่สุดของเป่ยตี๋
แม้ฮ่องเต้เป่ยตี๋อยากจะพูดเข้าประเด็น แต่พอคำนึงถึงความรู้สึกของเฉินซือ เขายังคงปฏิบัติตามธรรมเนียม กล่าวยกย่องวีรกรรมอันยิ่งใหญ่ของเฉินโหมวกับเฉินหลี่ก่อน
“เฉินโหมวกับเฉินหลี่เป็นแม่ทัพที่เจิ้นภาคภูมิใจ เฉินหลี่กล้าหาญ ส่วนเฉินโหมวทั้งกล้าหาญและเฉลียวฉลาด นับแต่ทั้งสองคนขึ้นเป็นผู้บัชาการและรองผู้บัญชาการกองพลหมาป่าเหมันต์ กองพลหมาป่าเหมันต์ก็ราวกับเสือติดปีก ชนะศึกติดต่อกันมากว่าสิบปี ไม่เคยมีศัตรูใดเอาชนะได้ ขยายดินแดนเป่ยตี๋เราจนกว้างไกล สร้างคุณูปการใหญ่หลวง”
“รอกรมพิธีการปรึกษาหารือกันแล้ว เจิ้นจะกำหนดเรื่องการแต่งตั้งยศถาบรรดาศักดิ์ให้พวกเขาภายหลัง”
พูดถึงตรงนี้ ฮ่องเต้เป่ยตี๋ก็เปลี่ยนเรื่อง เขาพูดขึ้นเสียงเบา “แม่ทัพเฉิน จนตอนนี้เจิ้นยังไม่อาจยอมรับเรื่องที่กองพลหมาป่าเหมันต์ถูกทำลายยับเยิน เจ้าไขข้อข้องใจให้เจิ้นได้หรือไม่?”
เฉินซือหลับตาลง สูดหายใจลึก กดข่มความเกลียดชังที่มีต่อฉินเฟิง สงบจิตใจ แล้วจึงตอบน้ำเสียงหนักแน่น “ตามความคิดเห็นของกระหม่อม อธิบายได้เพียงสั้น ๆ”
ฮ่องเต้เป่ยตี๋รีบกล่าว “พูดมาเถิด ไม่ต้องเกรงใจ”
สายตาเฉินซือพลันคมกริบ เอ่ยออกมา “เป็นเพราะตนเอง!”
ฮ่องเต้เป่ยตี๋ชะงักไปชั่วขณะ
ถ้าคำกล่าวนี้หลุดออกมาจากปากผู้อื่น ฮ่องเต้เป่ยตี๋คงกริ้วมาก แต่เฉินซือเป็นคนตระกูลเฉิน เป็นพี่น้องร่วมตระกูลของเฉินโหมวกับเฉินหลี่ เขาประเมินต่ำเช่นนี้ย่อมต้องมีเหตุผล



ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ