เข้าสู่ระบบผ่าน

บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ นิยาย บท 807

บทที่ 807 ต่อหน้าผู้คนแสดงละคร

จิ่งฉือไม่ใช่คนโง่ นางรับรู้ถึงความไม่พอใจของราษฎรได้ แต่นางก็ไม่มีทางเลือกอื่น ทุกอย่างต้องคำนึงถึงผลประโยชน์ของแคว้นเป็นหลัก หากมัวแต่เอาใจราษฎรจะยิ่งทำให้สถานการณ์ซับซ้อน

เพื่อปลอบประโลมราษฎร จิ่งฉือรีบเปิดเผยข้อตกลงที่นางได้ทำไว้กับฉินเฟิง

“ข้าได้เจรจากับฉินเฟิงแล้ว เพียงแค่ยกร้านค้าให้เขาหนึ่งร้าน ฉินเฟิงก็จะลดค่าปฏิกรรมสงครามลงหนึ่งล้านตำลึง นับเป็นการเริ่มต้นที่ดีสำหรับการเจรจาระหว่างสองแคว้น…”

ขณะที่จิ่งฉือกำลังอธิบายผลงานอย่างตื่นเต้น นางกลับไม่ทันสังเกตว่าบรรยากาศรอบข้างกำลังเปลี่ยนไป

ความโกรธแค้นเบนจากฉินเฟิงมาที่นางเสียแล้ว

“อะไรนะ?! องค์หญิงทำข้อตกลงลับกับฉินเฟิง?!”

“องค์หญิง เจ้าสุนัขฉินเฟิงยังทำให้พวกเราเป่ยตี๋ลำบากไม่พอหรือ? เหตุใดท่านยังไปทำข้อตกลงกับเจ้าคนสามานย์เช่นนี้อีก?”

“ยกร้านค้าให้หนึ่งร้าน? ฝันไปเถิด! หากรู้ว่าร้านใด พวกข้าจะตามไปเผาเสียยังดีกว่าปล่อยให้ฉินเฟิงได้สมใจ!”

“เพียงหนึ่งล้านตำลึงเงินก็ยอมขายเป่ยตี๋แล้วหรือ? ฮึ องค์หญิง ท่านช่างทำให้พวกข้าได้เปิดหูเปิดตาจริง ๆ”

จิ่งฉือไม่อยากเชื่อหูตนเอง นางมองประชาชนที่โกรธแค้นด้วยความงุนงง

นางไม่เข้าใจ เพื่อลดหย่อนค่าปฏิกรรมสงคราม บรรเทาแรงกดดันทางการคลังของแคว้น นางถึงขั้นยอมก้มหัวให้ฉินเฟิง ยอมรับความอัปยศอดสู แต่สุดท้ายนางกลับกลายเป็นผู้ร้าย

ยามนี้ กระแสความคิดเห็นของประชาชนปั่นป่วน

บัณฑิตบางคนถึงกับลุกยืน ชี้นิ้วใส่จิ่งฉือพลางตวาดด้วยเสียงดัง

“หญิงคณิกาไม่อาจเข้าใจความโศกเศร้าการล่มสลายของแคว้น ได้ยินแต่เสียงเพลงดอกไม้ท้ายสวนที่ดังข้ามฝั่งแม่น้ำ!*[1] เป่ยตี๋ของพวกเราผ่านศึกใหญ่คราวนี้ สูญเสียไปมากมาย บัดนี้แม้แต่ศักดิ์ศรีขั้นพื้นฐานที่สุดท่านก็จะไม่รักษาไว้แล้วหรือ?”

“องค์หญิง เรื่องใหญ่ของบ้านเมืองสมควรให้ขุนนางจัดการ ท่านเป็นเพียงสตรี มายุ่งอะไรด้วย?”

“แค้นเลือดฝังลึดใต้ทะเลระหว่างพวกเรากับฉินเฟิงไม่อาจอยู่ร่วมฟ้า อย่าว่าแต่ลดหย่อนค่าปฏิกรรมสงคราม ต่อให้ต้องชดใช้เพิ่มอีกหลายแสนหลายล้านจะเป็นไร? เป่ยตี๋ของพวกเราไม่มีวันก้มหัวให้ฉินเฟิง!”

เผชิญหน้ากับการประณามด้วยวาจาของประชาชน จิ่งฉือก้าวถอยหลัง หน้าเดี๋ยวแดงเดี๋ยวขาว ทั้งละอายใจและเศร้าใจ นางทุ่มเทหัวใจให้เป่ยตี๋ แต่กลับกลายเป็นหนูข้างถนน*[2]

ครั้นมองไปทางฉินเฟิงก็เห็นว่าฉินเฟิงกำลังส่ายหน้า ราวกับว่าผิดหวังในการกระทำของนาง

เพียงชั่วเวลาหนึ่งก้านธูป ทุกสิ่งที่จิ่งฉือทำล้วนเกินความคาดหมายของฉินเฟิง เดิมคิดว่านางเป็นสตรีเก่งกาจมีความสามารถ แต่กลับกลายเป็นว่า นางเดินหมากผิดพลาดอย่างร้ายแรง

ไม่แน่ใจแล้วว่านางฉลาดหรือโง่เขลากันแน่?

เดิมทีฉินเฟิงก็งุนงง แต่ไม่นานก็ตั้งสติได้ จิ่งฉือฉลาดหลักแหลม เพียงแต่ยังเยาว์วัย ไม่เข้าใจการเดินหมากทางการเมือง ทำอะไรตรงไปตรงมาแม้จะมีเจตนาดี ก็อาจกลายเป็นเรื่องร้ายได้โดยง่าย

ทั่วทั้งเป่ยตี๋ ผู้คนล้วนอยากเชือดเนื้อเถือหนังฉินเฟิง ความเกลียดชังรุนแรงฝังลึก

แค่เรื่องนี้ ในฐานะองค์หญิงแห่งเป่ยตี๋ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลส่วนตัวหรือส่วนรวม จิ่งฉือก็จำต้องยืนอยู่ฝ่ายตรงข้ามกับฉินเฟิง แล้วกล่าวโทษเขาอย่างรุนแรง แสดงจุดยืนให้ชัดเจน แม้จะเป็นการแสดงละคร ก็ต้องทำ ส่วนการเจรจาหลังจากนั้น ก็แค่หลบหลีกสายตาผู้คนสักหน่อย ลับหลังสายตาโกรธแค้น จะดื่มกินสังสรรค์หรือแสดงความจริงใจเพียงใดก็ไม่มีใครล่วงรู้ เมื่อไร้คนล่วงรู้ก็ย่อมไม่ถูกประณาม

ขอเพียงจิ่งฉือนิ่งเฉย รอจนเวลาเหมาะสม ประกาศให้ทั่วหล้ารับรู้ว่านางใช้วิธีการบีบบังคับให้ฉินเฟิงยอมจำนน จำต้องลดหย่อนค่าชดเชนหนึ่งล้านตำลึง จากนั้นเพื่อเป็นการปลอบขวัญแคว้นต้าเหลียง จึงพระราชทานร้านค้าหนึ่งแห่งแก่ฉินเฟิง ด้วยวิธีนี้ ราษฎรก็จะได้ทั้งแก้แค้นและผลประโยชน์ ขณะเดียวกันการค้าขายระหว่างฉินเฟิงกับเป่ยตี๋ก็จะสามารถบรรลุผลได้

การเดินหมากระหว่างแคว้นย่อมต้องแสดงทั้งจริงเท็จ สิ่งสำคัญไม่ใช่คำพูด แต่เป็นการกระทำ

จิ่งฉือกำลังจะกลายเป็นหนูข้ามถนน ฉินเฟิงไม่อยากเห็น

Verify captcha to read the content.ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ