บทที่ 815 ไม่ยอมแม้แต่น้อย
หลี่อวี้ได้ออกคำสั่งให้เริ่มแพร่ข่าวลือในหมู่ประชาชนนานแล้วว่า ชาวซางโจวทุกข์ยากแสนสาหัส การยึดคืนซางโจวจึงเป็นสิ่งที่ต้องทำอย่างเร่งด่วน เพื่อปลุกเร้าความเกลียดชังของประชาชนทั่วแคว้นที่มีต่อแคว้นต้าเหลียงและฉินเฟิง
แต่ตอนนี้ คำพูดของฉินเฟิงสั้น ๆ เกือบทำให้แผนของหลี่อวี้ล้มเหลวแล้ว
เขาไม่กล้าพูดถึงเรื่องต่อ รีบเบนหัวข้อสนทนา “ข้าได้ยินมาว่าองค์หญิงของฮ่องเต้เป่ยตี๋พระองค์ก่อนกำลังจะกลับสู่ราชสำนักเป่ยตี๋ พวกเราส่งคนไปรับองค์หญิงกลับมาเลยดีหรือไม่?”
ฉินเฟิงปฏิเสธอย่างเด็ดขาดโดยไม่ต้องคิด “ไม่ต้องให้ใต้เท้าหลี่ลำบาก”
สีหน้าของหลี่อวี้พลันเปลี่ยน “ท่านโหวฉิน เจ้าทำเช่นนี้ไม่ถูกแล้ว องค์หญิงเป่ยตี๋จะเป็นอย่างไรย่อมเป็นเรื่องที่พวกข้าชาวเป่ยตี๋ต้องตัดสินใจ เจ้าเป็นคนนอก สอดมือเข้ายุ่งเกรงว่าจะถูกผู้คนตำหนิเอาได้”
ฉินเฟิงยักไหล่ “ใต้เท้าหลี่วางใจเถอะ องค์หญิงสบายดี รอให้ข้าจัดการเรื่องในเมืองหลวงเป่ยตี๋เรียบร้อย ข้าจะส่งคนไปรับองค์หญิงเข้าวังเอง”
เห็นฉินเฟิงไม่ยอมอ่อนข้อ หลี่อวี้ส่งสัญญาณให้จางปิ่งกั๋ว จางปิ่งกั๋วจึงตวาดด้วยเสียงดุดันขึ้นมา “ฉินเฟิง! เจ้าอย่าได้ทำเกินไป!”
“เรื่องอื่นอาจเจรจาได้ แต่เรื่องการต้อนรับองค์หญิงกลับพระราชวังไม่อาจประนีประนอม!”
“หากแม้แต่องค์หญิงแห่งเป่ยตี๋พวกข้าชาวเป่ยตี๋ยังรับกลับมาไม่ได้ จะไม่เป็นการทำลายเกียรติภูมิแคว้นเป่ยตี๋หรอกหรือ?!”
“พวกข้าแพ้สงครามก็จริง แต่ก็จะไม่ยอมให้ใครมาเหยียบย่ำศักดิ์ศรี แม้ต้องสู้จนเหลือทหารคนสุดท้ายก็จะไม่ยอมอ่อนข้อเด็ดขาด”
พูดไพเราะเสียยิ่งกว่าขับกล่อมบทเพลง
หลี่อวี้กับจางปิ่งกั๋วร่วมมือ ฉินเฟิงไม่ใส่ใจสักนิด
การมีอยู่ของจิ่งเชียนอิ่งเป็นภัยคุกคามต่อความชอบธรรมของฮ่องเต้เป่ยตี๋ เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงให้กับอำนาจราชบัลลังก์ หากจิ่งเชียนอิ่งปรากฏตัว พวกเขาจะต้องสังหารนางโดยไม่คำนึงถึงผลที่ตามมาอย่างแน่นอน
ถึงตอนนั้น แม้ฉินเฟิงจะแก้แค้น แต่เขาจะใช้กำลังทหารทำลายเป่ยตี๋ทั้งหมดให้ย่อยยับได้หรือ?
ถึงจะบ้าคลั่งเพียงใด แต่เรื่องโง่เขลาเช่นนั้นเขาย่อมไม่มีทางทำ
การชนะสงครามไม่ใช่เรื่องยาก แต่การทำลายแคว้นหนึ่งยากยิ่งกว่าขึ้นสวรรค์ ถึงตอนนั้น ถ้าถูกดึงเข้าสู่มหาสมุทรของสงครามประชาชน ก็ไม่อาจรู้ได้ว่าฝ่ายใดจะถูกทำลาย ระหว่างแคว้นเป่ยตี๋หรือฉินเฟิง
ฉินเฟิงไม่ยอมประนีประนอม และก็ไม่อยากก่อสงครามกับเป่ยตี๋อีกครั้ง และแค่เขาถ่วงเวลาสักหน่อยก็จะรักษาความได้เปรียบไว้ได้อย่างมั่นคง
ฉินเฟิงถือจอกสุรา มุมปากยกขึ้นเล็กน้อยขณะมองจางปิ่งกั๋วด้วยความสนใจ
ไม่รู้ว่าทำไม แค่ถูก ‘คนหนุ่ม’ ตรงหน้าจ้องมอง จางปิ่งกั๋วไม่มั่นคงอยู่บ้าง
จางปิ่งกั๋วสูดหายใจเข้าลึก ทำใจให้สงบ พลางเตือนตัวเอง…ที่นี่คือเมืองหลวงแห่งเป่ยตี๋ แม้ฉินเฟิงจะดุร้าย ก็ไม่มีอะไรน่ากลัว
บรรยากาศตึงเครียดขึ้นเรื่อย ๆ จิ่งฉือพลันวิตกขึ้นมา
นางไม่เข้าใจว่าคนพวกนี้ทำได้อย่างไร พวกเขาเปลี่ยนสีหน้าเร็วยิ่งกว่าพลิกหน้าหนังสือเสียอีก
แรกเริ่มพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน ปรองดองราวพี่น้อง ทว่าชั่วพริบตากลับกลายเป็นศัตรูคู่อาฆาต พร้อมเอาชีวิตกัน
ภายใต้สายตาของทุกคน ฉินเฟิงยกจอกสุราดื่มหมดในคำเดียว เขาวางจอกสุราลง แล้วกล่าวอย่างไม่ใส่ใจ “ท่านเสนาบดีจาง ท่านล้มเลิกความคิดเถิด”
“ใต้หล้านี้ ผู้ที่ข่มขู่ข้า ฉินเฟิง มีมากมาย”
“อย่าว่าแต่คำพูดสองสามคำของท่าน แม้แต่ตอนกองทัพเป่ยตี๋บุกประชิดเขตชายแดนแคว้นต้าเหลียง ข้า ฉินเฟิง ก็ไม่เคยหวั่นไหว”


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ