บทที่ 820 ทุกสิ่งล้วนเริ่มจากเงิน
ฉินเฟิงตบโต๊ะ ประตูห้องพลันถูกเปิดออก แล้วหนิงหู่ก็ส่งแผนที่ที่เตรียมไว้ให้ฉินเฟิง
พอเห็นเช่นนี้ ทุกคนก็ตระหนักแล้วว่า ฉินเฟิงเตรียมพร้อมมาอย่างดี
แม้ท่าทีของเขาจะเด็ดเดี่ยว แต่ในใจยังคงคิดเรื่องค่าปฏิกรรมสงครามอยู่ตลอด และเตรียมทางออกไว้แล้ว!
ฉินเฟิงไม่สนใจสายตาประหลาดใจของทุกคน กางแผนที่ แล้วชี้ภูเขาลั่วเฟิ่งทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของอาณาเขตแคว้นเป่ยตี๋
“แคว้นของพวกท่านมีแร่ธาตุอุดมสมบูรณ์ เพียงแค่ภูเขาลั่วเฟิ่ง แร่เหล็กที่ขุดได้ก็เพียงพอจะจัดหาทรัพยาการให้กองทัพนับหมื่นคนอย่างง่ายดาย”
“และภูเขาที่มีแร่เหล็กอย่างภูเขาลั่วเฟิงในดินแดนเป่ยตี๋ของพวกท่านอย่างน้อยก็มีอีกห้าสิบถึงหกสิบแห่ง”
“แต่พื้นที่ที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุเหล่านี้ล้วนอยู่ทางตอนเหนือของแคว้นเป่ยตี๋ แม้จะยกดินแดนให้ต้าเหลียงก็คงให้ไกลถึงขนาดนั้นไม่ได้”
“หากใช้แร่เหล็กล้วนมาชำระหนี้ แร่เหล็กก็ราคาถูกและหนักเกินไป ขนส่งยากลำบาก จะชดใช้เงินห้าสิบล้านตำลึงให้ครบ ไม่รู้ว่าต้องรอถึงเมื่อไหร่”
“ดังนั้นข้าจะเสนอว่า ให้แคว้นเป่ยตี๋ของพวกท่านกำหนดพื้นที่ที่อุดมไปด้วยแร่เหล็กสักแห่ง แล้วข้าจะส่งช่างฝีมือไปสร้างโรงฝีมือถลุงแร่ในพื้นที่ ขนเหล็กดิบที่ถลุงได้กลับแคว้นต้าเหลียงโดยคิดราคาตามเครื่องเหล็กทั่วไปเพื่อชำระหนี้”
ทุกคนในห้องล้วนไม่มีผู้ใดเคยคิดมาก่อนว่าฉินเฟิงจะสนใจแร่เหล็กของเป่ยตี๋
พึงรู้ไว้ว่า แร่เหล็กเป็นทรัพยากรสำรองเชิงยุทธศาสตร์แคว้น อย่าว่าแต่จะขายให้ต่างแดน แม้แต่พ่อค้าของแคว้น หากแอบซื้อขายกันเองก็ยังมีโทษถึงขั้นประหารชีวิต
ทรัพยากรสำคัญที่สุดสามอย่างในสงคราม คือ เสบียงอาหาร กำลังคน และแร่เหล็ก
ฉินเฟิงคิดจะยื่นมือยาวมายุ่งกับทรัพยากรสงคราม ข้อเสนอนี้แทบเป็นไปไม่ได้เลย!
จางปิ่งกั๋วคิดปฏิเสธ แต่ฉินเฟิงโบกมือขัดเสียก่อน เขากล่าวเสริมว่า “ข้าเข้าใจดีว่าแหล่งแร่สำคัญยิ่งสำหรับแคว้นเป่ยตี๋ของท่าน การเจรจานี้คงยากเย็น”
“แต่ไม่เป็นไร”
“ถือว่าข้าเสนอทางเลือกให้แคว้นเป่ยตี๋ของพวกท่านแล้ว จะยอมเสียดินแดน จะชำระค่าปฏิกรรมสงครามทั้งหมดในคราวเดียว หรือจะขายแหล่งแร่ พวกท่านก็เลือกสักทางเถิด”
“หากข้าเสนอไปถึงสามทาง แต่แคว้นเป่ยตี๋ยังไม่ยอมชำระ ข้าก็มีเหตุผลที่จะสงสัยในความจริงใจของพวกท่าน”
“เพลิงสงครามอาจลุกโชนอีกครั้งอย่างยากจะหลีกเลี่ยง”
ฉินเฟิงไม่ได้ขู่ปากเปล่า และไม่ใช่การคำนวณทางการเมือง แต่เป็นการแก้แค้นล้วน ๆ หากเป่ยตี๋กล้าบิดพลิ้ว ฉินเฟิงก็จะกลับต้าเหลียง จัดเตรียมทัพ แล้วบุกโจมตีเป่ยตี๋ทันที
บางคราวเรื่องระดับแคว้นและระดับบุคคลก็มีวิธีการที่ไม่ต่างกันนัก
“การชำระหนี้เป็นหน้าที่อันชอบธรรม หากกล้าบิดพลิ้วย่อมต้องถูกหักขา”
จางปิ่งกั๋วมองไปทางเฉินซือ พอเห็นเฉินซือส่ายหน้าก็เข้าใจ เป่ยตี๋จำเป็นต้องยอมรับหนึ่งในสามเงื่อนไข หาไม่ ฉินเฟิงต้องยกทัพรุกรานเป่ยตี๋แน่
สามภัยร้าย ย่อมต้องเลือกภัยที่เบาที่สุด
การยกดินแดนให้เป็นไปไม่ได้เลย ส่วนการชดใช้ค่าเสียหายสร้างความเสียหายน้อยที่สุดต่อเป่ยตี๋ แต่ก็เป็นตัวเลือกที่ยากที่สุดตอนนี้
ด้วยตอนนี้เป่ยตี๋ยากจน จะมีเงินเหลือพอชำระค่าชดเชยได้อย่างไร?
แล้วเช่นนั้น หรือว่าจะต้องขายแหล่งแร่จริง ๆ เล่า?
จางปิ่งกั๋วกลืนไม่เข้าคายไม่ออก คิดไปคิดมา เพื่อความปลอดภัยเขาควรยืดเวลาคิดอีกหน่อย “เรื่องนี้สำคัญนัก ข้าจำเป็นต้องกราบทูลฝ่าบาทและหารือในราชสำนักก่อนจึงจะตัดสินใจได้”
เรื่องใหญ่ไม่อาจบุ่มบ่าม ขุนนางคนเดียวตัดสินใจไม่ได้


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ