บทที่ 821 กบฏบุก หมายปลงพระชนม์ฮ่องเต้
เพื่อแสดงความจริงใจ ฉินเฟิงลุกขึ้นแล้วยกจอกสุราขึ้นดื่มให้เฉินซือและคนอื่น ๆ
“โลกนี้ไม่มีศัตรูยั่งยืน และมิตรแท้ถาวร มีแต่ผลประโยชน์เท่านั้นที่จีรัง”
“และสำหรับบ้านเมืองก็ยิ่งเป็นเช่นนั้น!”
“จุดยืนและเส้นแบ่งของข้า พวกท่านก็ทราบกันแล้ว ส่วนอนาคตของสองแคว้นจะเป็นเช่นไรต่อไปก็ขึ้นอยู่กับว่า พวกท่านจะทุ่มเทเพียงใด”
“ข้าดื่มหมดแล้ว เชิญพวกท่านตามสบาย”
ปกติฉินเฟิงไม่ค่อยดื่มสุรา ความทนต่อสุราของเขาอาจไม่ถึงสามส่วนของหนิงหู่ด้วยซ้ำ แต่วันนี้ที่อยู่บนโต๊ะเจรจา ฉินเฟิงแสดงความห้าวหาญอย่างหาได้ยาก ดื่มสุราหมดจอกรวดเดียว
เห็นเช่นนี้ พวกเฉินซือสบตากัน แล้วลุกขึ้นตอบรับ
บรรยากาศที่ตึงเครียดอยู่เมื่อครู่กลับคืนสู่ความครึกครื้น สถานะของทั้งสี่คนหมุนเปลี่ยนไปมา จากมิตรเป็นศัตรู จากศัตรูเป็นคู่ค้า สุดท้ายก็วนกลับมายังจุดเดิม
มองทั้งสี่คนดื่มสุราพลางสนทนากัน ราวกับเรื่องราวก่อนหน้านี้ไม่เคยเกิดขึ้น
จิ่งฉือเฝ้าสังเกตเหตุการณ์มาตั้งแต่ต้น โลกทัศน์ราวกับพลิกกลับ นางได้เรียนรู้หลายสิ่งนัก เมื่อเผชิญหน้ากับผลประโยชน์ของแคว้นย่อมสามารถทิ้งเกียรติยศทั้งหมดได้ ขอเพียงคว้าผลประโยชน์แคว้นมา แม้จะกลายเป็นคนเลวทรามที่ทำทางไม่เลือกก็ไม่เป็นไร
แน่นอน จิ่งฉือรู้ดีว่านี่เป็นการเจรจาที่ลับ หากเป็นที่แจ้ง พวกเขาสี่คนย่อมกลายเป็นเสาหลักของแคว้นที่ซื่อตรงและสง่างามอย่างไร้ที่ติ
ขณะที่จิ่งฉือกำลังเก็บเกี่ยวความรู้และพัฒนาตนเอง ห่างออกไปหลายพันลี้ ณ เชิงภูเขาไท่แคว้นต้าเหลียง เกิดเหตุต่อสู้ดุเดือดขึ้น
ทหารองครักษ์ห้าพันคนของฮ่องเต้ต้าเหลียงต่อสู้อย่างห้าวหาญ สกัดกั้นกองกำลังกบฏไว้ที่เชิงเขา
การต่อสู้ดำเนินมาหนึ่งวันเต็มแล้ว ทหารองครักษ์จากห้าพันคน เหลือรอดเพียงพันกว่าคน พวกเขายอมตายไม่ยอมแพ้ และแม้ว่าทหารทุกคนจะเป็นทหารชั้นยอดเอาชนะศัตรูมากมายด้วยตัวคนเดียวได้
แต่ความสูญเสียใหญ่หลวงก็ผลักดันสถานการณ์ของพวกเขาเข้าขั้งวิกฤต
ถ้ายังเป็นเช่นนี้ต่อไป แนวป้องกันจะถูกทำลาย และการที่กองกำลังกบฏจะบุกมาถึงที่ประทับของฮ่องเต้ต้าเหลียงก้เป็นเพียงเรื่องของเวลา
ขณะเดียวกัน ฮ่องเต้ต้าเหลียงยืนเอามือไพล่หลังอยู่ที่ค่ายใหญ่กลางภูเขา เผชิญหน้ากับกองกำลังกบฏที่กำลังจะบุกเข้ามาอย่างท่วมท้น ไม่แสดงท่าทีหวาดกลัวแม้แต่น้อย เพียงมองลงไปยังสนามรบดุเดือดเบื้องล่างด้วยสายตาเย็นชา
จางซิวเย่ที่ติดตามมามีเหงื่อเย็นไหลโซมกายแล้ว เขาตัดสินใจกราบทูล “ฝ่าบาท ตามรายงานด่วนจากเมืองหลวง กองกำลังประจำการณ์เมืองหลวงทั้งหมดยังคงประจำการณ์อยู่ที่เดิม ไม่มีการเคลื่อนย้ายกำลังทหารแต่อย่างใด”
“กองทัพสามหมื่นคนนี้ไม่รู้แน่ว่าโผล่มาจากที่ใดพ่ะย่ะค่ะ”
สายตาของฮ่องเต้ต้าเหลียงไม่แสดงความรู้สึกใด ตลอดชีวิต เขาเคยเห็นเหตุการณ์ใหญ่มามากมาย แม้จะมีดาบจ่อคอก็ไม่อาจทำให้เขาจำนนได้ นี่คือศักดิ์ศรีของผู้เป็นฮ่องเต้ผู้ยิ่งใหญ่ที่ไม่อาจให้ผู้ใดลบหลู่
ชั่วชีวิตของเขาทำให้ผู้คนมากมายผิดหวัง แต่ไม่เคยทำให้ประชาชนนับหมื่นแสนต้องผิดหวัง
แนวป้องกันกำลังจะถูกโจมตีแตก ฮ่องเต้ต้าเหลียงยังคงนิ่งสงบ “กองทหารรักษาการณ์ยังไม่เคลื่อนไหว ยิ่งยืนยันการคาดเดาของเจิ้น”
“กองทหารรักษาการณ์ค่ายตะวันออกและค่ายตะวันตกและฝ่ายสนับสนุนฮ่องเต้แห่งแผ่นดินจงหยวนได้หันไปเข้าร่วมกับองค์ชายเจ็ดแล้ว”
“หากไม่อยากให้กองทัพมังกรซ่อนพยัคฆ์กับฉินเทียนหู่สังเกตเห็น กองทหารรักษาการณ์เพียงต้องส่งกำลังพลมาสองพันคนจากแต่ละกองกำลัง รวมกับสี่พันคนของฝ่ายสนับสนุนฮ่องเต้ในแผ่นดินจงหยวนที่อ้อมมาสมทบ เท่านี้ก็เป็นหนึ่งหมื่นคน”
ได้ยินคำพูดนี้ ดวงตาจางซิวเย่เต็มไปด้วยความหวาดกลัว ถึงขั้นตื่นตระหนกอย่างไม่อาจควบคุม
กองทหารรักษาการณ์ค่ายตะวันออกและค่ายตะวันตกเคยหมากสำคัญของฮ่องเต้ต้าเหลียง ทว่าบัดนี้กลับหันไปเข้าข้างหลี่ยง นับแต่หลี่ยงรักษาราชการแทน เขาใช้ทุ่มเทความคิดที่ควรใช้จัดการกับตระกูลหลินแห่งเจียงหนานมาโน้มน้าวกองกำลังทหารต่าง ๆ เพื่อเสริมกำลังตนเอง?

ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ