บทที่ 829 รักบ้านก็เลยรักนกกาไปด้วย
“การเจรจาข้อตกลงระหว่างสองแคว้น แม้จะเป็นผลเสียมากกว่าผลดีสำหรับแคว้นเป่ยตี๋ของท่าน แต่ก็ไม่ใช่สิ่งที่ยอมรับไม่ได้ นี่คือราคาที่ต้องจ่ายจากความพ่ายแพ้ ไม่เพียงแต่แคว้นของท่าน เพราะไม่ว่าแคว้นใดหากพ่ายแพ้ก็ต้องแบกรับผลที่ตามมา”
“ส่วนเรื่องความวุ่นวายในซางโจว นั่นเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับองค์หญิงในอดีตฮ่องเต้เป่ยตี๋ เพื่อให้นางกลับสู่ราชวงศ์ได้อย่างชอบธรรม”
“หากข้าส่งองค์หญิงในฮ่องเต้พระองค์ก่อนกลับเมืองหลวงเป่ยตี๋โดยตรง เกรงว่านางอาจไม่ได้เห็นแสงตะวันของวันรุ่งขึ้น ผู้มีอำนาจมีวิธีนับไม่ถ้วนที่จะทำให้องค์หญิงของฮ่องเต้พระองค์ก่อนหายไปอย่างไร้ร่องรอย”
“ตอนนี้ภัยคุกคามที่ใหญ่ที่สุดต่อแคว้นเป่ยตี๋ของท่านไม่ได้อยู่ภายนอก แต่อยู่ภายในต่างหาก”
“การคลังว่างเปล่าจะส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของประชาชนและการทหาร สองประเด็นนี้นับเป็นอันตรายต่ออำนาจการปกครอง หากไม่แก้ไขวิกฤตการคลังแคว้นเป่ยตี๋ของท่านจะต้องเกิดความวุ่นวาย กลายเป็นวงจรอุบาทว์!”
สายตาเหล่าอู๋ยังคงเย็นชา “ช่างพูดไพเราะเสียยิ่งกว่าขับขานบทเพลง!”
“การคลังของพวกข้าชาวเป่ยตี๋ว่างเปล่าก็ไม่ใช่เพราะเจ้าใช้อุบายหรอกหรือ?”
ฉินเฟิงโต้แย้งอย่างมีเหตุผล “ข้าขอพูดอีกครั้ง ผู้ที่ฆ่าคนย่อมต้องเตรียมใจถูกฆ่า! เมื่อแคว้นเป่ยตี๋ของท่านเป็นฝ่ายเริ่มสงครามก็ต้องรับผิดชอบผลที่เกิดจากสงครามให้ได้ พวกข้าต้าเหลียงทุ่มเททั้งกำลังคนและทรัพยากรจนในที่สุดก็เอาชนะเป่ยตี๋ได้ หากไม่ลงโทษต้นเหตุแห่งควมสูญเสียให้หนักจะไม่ใช่เป็นการปล่อยปละละเลยหรอกหรือ? ถึงตอนนั้น วันข้างหน้าย่อมมีผู้คนนับไม่ถ้วนเอาเป็นเยี่ยงอย่าง!”
“เพียงแคว้นเป่ยตี๋ของท่านปฏิบัติตามข้อตกลง ก็หวังว่าแคว้นต้าเหลียงจะปล่อยไปง่าย ๆ หรือ?”
“ขอเพียงแคว้นเป่ยตี๋ของท่านแก้ปัญหาภายนอกภายใน การจะกลับมามั่นคง ฟื้นอำนาจของแคว้นก็เป็นเพียงเรื่องของเวลา”
“แต่ถ้าเหล่าอู๋ยืนกรานจะสังหารข้า ดำเนินการตามแผนการที่ว่า ยอมเจ็บช่วงสั้น ๆ ดีกว่าเจ็บปวดระยะยาว ข้ารับรองได้เลย ภายในครึ่งปีแคว้นเป่ยตี๋ของท่านจะต้องล่มสลาย”
ได้ฟังคำฉินเฟิว เว่ยเซียวกับหนิงหู่ตระหนกนัก
ฉินเฟิงช่างกล้าหาญเกินไปแล้ว รู้ทั้งรู้ว่าเหล่าอู๋โกรธแค้นจนอยากลอกเนื้อเถือหนัง แต่ก็ยังยั่วยุซ้ำแล้วซ้ำเล่า
หากเหล่าอู๋ทนไม่ไหวไม่รู้ว่าเป่ยตี๋จะล่มสลายหรือไม่ แต่คืนนี้ฉินเฟิงจะต้องตายแน่แล้ว
โชคดีที่เหล่าอู๋ไม่ใช่คนไม่รับฟังหรือโง่เขลา การที่เขาปรากฏตัวคืนนี้ย่อมแสดงว่า เขาเข้าใจสถานการณ์ของเป่ยตี๋อย่างถ่องแท้ แต่ได้เห็นท่าทีของฉินเฟิง เหล่าอู๋ก็ยังโกรธจนแทบระเบิด “แค่เจ้าคนเดียวคิดจะทำลายแคว้นเป่ยตี๋ของข้าได้หรือ?!”
ฉินเฟิงกัดฟันแน่นข่มความเจ็บปวด เขาไม่ยอมอ่อนข้อแต่ก็ไม่ได้ก้าวร้าว “ข้าอาจไม่นับเป็นอะไร แต่เบื้องหลังข้ามีทหารชายแดนเหนือ องครักษ์ค่ายเทียนจี องครักษ์เสื้อแพร กองทหารม้าทมิฬ และการสนับสนุนจากองค์หญิงแห่งแคว้นเป่ยตี๋ท่าน”
“เหล่าอู๋ จริงอยู่ว่าท่านมีวรยุทธ์สูงส่ง แต่ท่านจะฆ่าคนได้สักกี่คนกัน? หรือพูดอีกอย่าง หากสงครามปะทุอีกครั้ง เหล่าอู๋ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้สันโดษบนภูเขาจะกล้าก้าวเท้าเข้าสู่สนามรบจริงหรือ?”
“ข้าไม่ได้โอ้อวด ทว่าแค่ท่านเผยจุดอ่อนแม้เพียงเล็กน้อย ท่านก็จะถูกองครักษ์ค่ายเทียนจีของข้าเข้าล้อม แล้วแค่องครักษ์ค่ายเทียนจียี่สิบคนก็สามารถจับกุมท่านได้แล้ว!”
สำหรับยอดฝีมืออย่างเหล่าอู๋ หากต่อสู้หนึ่งต่อหนึ่งไม่ต้องสงสัยเลย ผู้ที่สามารถเอาชนะเขาได้ในใต้หล้านี้หายากยิ่งกว่าการได้เจอขนเฟิ่งหวงและเขากิเลน แต่การต่อสู้แบบตัวต่อตัวกับการต่อสู้เป็นกองทัพต่างกันคนละเรื่อง ยิ่งถ้าเผชิญหน้ากับทหารชั้นยอดที่ผ่านการฝึกฝนมาอย่างดี…
ยุทธภพก็คือยุทธภพ แต่เทียบกับสนามรบแล้วไม่นับว่าเป็นอะไร
พอเห็นเหล่าอู๋นิ่งเงียบไป ฉินเฟิงรีบพูดต่อ “เมื่อถึงเวลานั้น กองทัพของพวกข้าจะยกทัพ ร่วมมือกับฝ่ายสนับสนุนราชวงศ์ชอบธรรมเป่ยตี๋ที่อยู่นอกเมือง ข้ามั่นใจร้อยส่วนเต็ม ๆ ว่าจะสามารถยึดจัวโจวได้ภายในหนึ่งเดือน!”
“ตอนนี้ประชาชนในซางโจวมีชีวิตความเป็นอยู่อุดมสมบูรณ์ ชาวเมืองจัวโจวจะต้องได้รับผลกระทบแน่ กำลังต่อต้านจะอ่อนแอ พอยึดจีวโจวได้ก็ไม่จำเป็นต้องใช้กำลังทหารมากมายในการรักษาเมืองไว้ เพียงแค่บุกต่อไปก็พอแล้ว!”
“ด้วยกำลังของกองทัพข้า หากคิดกวาดล้างเป่ยตี๋ในคราวเดียวไม่ต่างอะไรกับความฝันของคนเขลา แต่การตัดดินแดนเป่ยตี๋ให้เหลือเพียงครึ่ง บีบบังคับให้แคว้นเป่ยตี๋ท่านแยกการปกครองเหนือใต้ ก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้”
“ถึงตอนนั้น ประชาชนทั่วหล้าจะได้รับความทุกข์ทั่วหน้า แล้วแคว้นเป่ยตี๋ที่ทรงเกียรติของท่านก็จะเกิดความวุ่นวายภายใน กองทัพต้าเหลียงไม่จำเป็นต้องโจมตี แคว้นเป่ยตี๋ก็จะล่มสลายไปเอง”
การคาดการณ์ของฉินเฟิงเป็นสถานการณ์ที่ดีที่สุด
แม้ว่าความเป็นจริงและอุดมคติมักแตกต่าง แต่ฉินเฟิงเตรียมพร้อมอย่างเต็มที่แล้ว เขาออกคำสั่งเด็ดขาด ห้ามทหารคนใดย่ำยีซางโจว ผู้ใดแตะต้องประชาชนซางโจว ไม่ว่าจะมียศสูงต่ำเพียงใดมีโทษถูกประหารทันที
ภายใต้คำสั่งเด็ดขาดของฉินเฟิงจึงไม่มีการละเมิดแม้แต่น้อย



ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ