บทที่ 833 ตัวตนแท้จริงของฮองเฮา
ฮองเฮาไม่ได้ลุกขึ้น และไม่ลืมตา เพียงกล่าวเบา ๆ “ออกไป”
ทหารรักษาพระองค์รู้สึกเหมือนได้รับการอภัยโทษ เขารีบถอยออกไปทันที
ฉีหยางจวิ้นจู่ที่รีบกลับมาจากภูเขาไท่ยืนอยู่ที่ประตู มองฮองเฮาและมารดาคุกเข่าสวดภาวนาอย่างเคร่งครัด ความรู้สึกในใจของนางพลันซับซ้อน
นางรู้ดีว่าการกบฏคราวนี้ มารดามีส่วนเกี่ยวข้อง
แม้ว่าฉีหยางจวิ้นจู่จะเชื่อฟังคำพูดขององค์หญิงใหญ่ แต่ในฐานะทายาทของขุนนางผู้จงรักภักดี ถึงนางจะมีนิสัยเอาแต่ใจและหยิ่งผยอง นางก็จะไม่มีวันก่อกบฏเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นวิญญาณบิดาจะหลับตาอย่างสงบได้อย่างไร?
แต่ตอนนี้มารดาของนางกลับเข้าไปพัวพันกับการกบฏใหญ่ ผิดพลาดซ้ำแล้วซ้ำเล่า ไม่อาจแก้ไขได้
ยามนี้ภายในใจของฉีหยางจวิ้นจู่ยินดีอย่างยิ่งที่กบฏถูกปราบปราม ทว่าก็กังวลต่อสถานการณ์ในอนาคตมารดา
“ท่านแม่ พวกเรากลับจวนกันเถิด”
ฉีหยางจวิ้นจู่รวบรวมความกล้าเอ่ยเสียงเบา
ผ่านไปนานพอสมควร เสียงขององค์หญิงใหญ่จึงดังตอบกลับ “เจ้ากลับไปก่อนเถิด ข้ายังมีเรื่องต้องหารือกับฮองเฮา”
ฉีหยางจวิ้นจู่กำหมัดแน่นโดยไม่รู้ตัว มารดาต้องตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ก็เพราะฮองเฮา!
นางไม่อาจอดกลั้นความแค้นในใจได้อีก น้ำเสียงนางเกรี้ยวกราดโดยไม่รู้ตัว “เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้วยังจะมีอะไรให้หารืออีก!”
“ยกทัพบุกวังก็ไม่คิดดูว่าผู้ใดยืนอยู่ข้างกายฝ่าบาท!”
“ถึงวันนี้จะยึดเมืองหลวงและอำนาจได้ แต่พรุ่งนี้ฉินเฟิงก็จะยกทัพใหญ่มาถล่มจนย่อยยับ!”
เมื่อได้ยินคำพูดของบุตรี องค์หญิงใหญ่ตวาดเสียงต่ำ “บังอาจ!”
“เจ้าไม่มีสิทธิ์พูดที่นี่หรือ?!”
“มาเร็วเข้า พาจวิ้นจู่กลับจวน!”
พอเห็นท่าทีเด็ดเดี่ยวมารดา ฉีหยางจวิ้นจู่แม้จะไม่พอใจก็ทำได้เพียงยอมแพ้ หันหลังกลับไปด้วยความโกรธเคือง
ภายในวิหารกวนอิมเหลือเพียงฮองเฮากับองค์หญิงใหญ่ หลังจากความเงียบผ่านไป เสียงสงบนิ่งของฮองเฮาก็ดังก้องไปทั่ววิหาร “คนหนุ่มสาวใจร้อนเสียจริง”
“องค์ชายเจ็ดลุกขั้นก่อกบฏเป็นกรรมที่เขาก่อเองจะเกี่ยวอันใดกับเจ้าและข้าเล่า?”
“แม้ข้าจะเคยช่วยเหลือองค์ชายเจ็ดแต่ก็เพียงแค่ปากเปล่า ไม่ได้ทิ้งหลักฐานใด ๆ ไว้ ถึงฟ้าถล่มก็ไม่อาจทับพวกเราได้”
“แพ้ก็แพ้ไป ชัยชนะและความพ่ายแพ้เป็นเรื่องปกติของนักรบ เพียงแต่ต้องวางแผนระยะยาว”
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ องค์หญิงใหญ่ยิ้มขมขื่น “กระทั่งสถานการณ์เป็นเช่นนี้แล้ว ฮองเฮายังไม่หวั่นไหว ความกล้าหาญของฝ่าบาท ข้านับถือนัก”
“ส่วนเรื่องการวางแผนระยะยาว…”
“ฝ่าบาท ท่านคิดจริง ๆ หรือว่ายังมีโอกาสสำหรับแผนระยะยาว?”
ฮองเฮาไม่ตอบ แต่ถามกลับ “เจ้ากลัวแล้วหรือ?”
องค์หญิงใหญ่หลับตาลง สูดหายใจลึก แต่ไม่ตอบคำถาม หากจำเป็นต้องตอบ องค์หญิงใหญ่คงตอบไปว่า นางกลัวมาตั้งแต่แรกแล้ว
ท้ายที่สุดแล้วนางต้องยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับพี่น้องร่วมสายเลือด
องค์หญิงใหญ่เกลียดฮ่องเต้ต้าเหลียง หากไม่ใช่เพราะฮ่องเต้ต้าเหลียงออกคำสั่งส่งสามีของนางไปยังชายแดน สามีของนางก็คงไม่เสียชีวิตในสงคราม
หลังจากนั้นนางก็กลายเป็นเบี้ยหมากที่ฮ่องเต้ต้าเหลียงใช้ควบคุมวังหลัง แม้แต่การไว้ทุกข์ให้สามีก็ยังต้องรีบเร่งจบลงอย่างรวดเร็ว
แต่ไม่ว่าจะเกลียดมากเพียงใดก็ไม่อาจเปลี่ยนแปลงความจริงที่ว่านางกับฮ่องเต้ต้าเหลียงเป็นพี่น้องร่วมสายเลือด
องค์หญิงใหญ่ได้เห็นกับตาตนเองถึงการขึ้นสู่อำนาจของหลี่เฉียน และการล่มสลายของเขา หลี่ยงได้เข้าครอบครองตำหนักบูรพาราวกับว่าทุกสิ่งได้เปลี่ยนแปลงไป แม้แต่ฉินเฟิงก็เปลี่ยนไป กลายเป็นผู้แข็งแกร่งขึ้นและยากที่จะต่อกร
นับตั้งแต่วินาทีที่หลี่ยงตัดสินใจบีบบังคับราชสำนัก องค์หญิงใหญ่ก็คาดการณ์ไว้แล้วว่าผลลัพธ์จะเป็นเช่นนี้

ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ