บทที่ 845 เอาไข่ชนหิน
เสียงกลองจะดังขึ้นก็ต่อเมื่อกองทัพศัตรูบุกมาอย่างยิ่งใหญ่ ชั่วพริบตา ทั่วทั้งเมืองหลวงเป่ยตี๋พลันตกอยู่ในความโกลาหล
ทหารรักษาเมืองหนึ่งหมื่นคนเริ่มรวมตัวกันมุ่งหน้าสู่เมืองหลวง
ทหารรักษาพระองค์ในเมืองและองครักษ์เริ่มตอบสนอง เข้าสู่สภาวะสงคราม จัดรูปแบบกองกำลังหนาแน่น มุ่งหน้าไปยังประตูเมืองหลวง พร้อมปิดล้อมและจัดการพื้นที่รอบพระราชวังในรัศมีห้าร้อยก้าวให้ว่างเปล่า
เฉินซือที่กำลังดื่มชาอยู่ในที่ทำการกรมกลาโหม ได้ยินเสียงกลองก็ชะงักงัน
ทันใด ทหารส่งสารรีบวิ่งเข้ามาอย่างร้อนรนจนสะดุดล้ม ทว่าไม่มีเวลาร้องโอดโอย รีบรายงานเสียงดัง “ท่านแม่ทัพ แย่แล้วขอรับ!”
“ประตูเมืองหลวงถูกตีแตก ทหารสามร้อยคนที่ประการณ์ที่ประตูเมืองถูกสังหารหมดสิ้น กองทัพศัตรูเข้ายึดประตูเมืองแล้ว”
อะไร?!
เฉินซือไม่อยากเชื่อหูตัวเอง มือสั่นเทาจนถ้วยชาหล่นลงพื้นแตกกระจาย
ดวงตาของเขาเบิกกว้าง อยากจะกินทหารส่งสารทั้งเป็น เขาคำรามเสียงต่ำ “พูดเหลวไหล! ที่นี่คือเมืองหลวง หากมีกองทัพศัตรูขนาดใหญ่โจมตี จำต้องบุกฝ่าด่านสำคัญมากมาย ไม่อาจเข้าใกล้เมืองหลวงได้โดยไม่ให้เรารู้ตัว!”
“และหากเป็นเพียงการแทรกซึมเล็ก ๆ ก็เป็นไปไม่ได้ที่เข้ายึดประตูเมืองในเวลาอันสั้น!”
ทหารส่งสารร้องโอดครวญ น้ำเสียงแทบจะวิงวอน “เป็นความจริงขอรับ!”
“กองทหารม้าชายแดนเหนือต้าเหลียงหนึ่งพันคนที่ติดตามฉินเฟิงมาตั้งค่ายพักอยู่ใกล้ประตูเมือง พวกเขาโจมตีอย่างฉับพลัน ทหารรักษาการณ์ไม่ทันได้ตอบโต้ ประตูเมืองเปิดกว้าง กองทหารม้าชายแดนเหนือฉวยบุกเข้าเมืองราวกับไม่มีผู้คนอยู่ ใครก็ตามที่สวมเครื่องแบบทหาร ไม่ว่าจะมียศใดล้วนถูกสังหารสิ้น”
“นายกองเฝ้าประตูคิดว่าอาจมีความเข้าใจผิดจึงก้าวออกไปอธิบาย ทว่าไม่ทันได้อ้าปากก็ถูกสะบั้นศีรษะขาดในดาบเดียว”
เฉินซือตกตะลึง
ทหารที่โจมตีประตูเมืองเป็น…คนของฉินเฟิง?!
เป็น…เป็นไปได้อย่างไร?!
เฉินซือรู้สึกเหมือนสมองไม่เพียงพอประมาณผล การเจรจาระหว่างสองแคว้นนับว่าประสบความสำเร็จอย่างงดงาม เหลือเพียงแค่ดำเนินการอย่างแข็งขันให้เสร็จสิ้น แล้วเหตุใดทั้ง ๆ ที่บรรลุข้อตกลงร่วมกันแล้ว ฉินเฟิงถึงก่อเหตุวุ่นวายใหญ่โตเช่นนี้? ขัดแย้งเกินไปหน่อยกระมัง?
จางปิ่งกั๋วที่อยู่ข้าง ๆ เหงื่อแตกพลั่กด้วยความร้อนใจ ตะโกนใส่ทหารส่งสารด้วยความโกรธ “เกิดอะไรขึ้นกันแน่?!”
“แม้ฉินเฟิงจะไม่เล่นตามกฎเกณฑ์ แต่เขาก็เป็นคนที่ให้ความสำคัญกับผลประโยชน์เป็นที่สุด”
“การเจรจาลุลวง เขาจะพลิกลิ้นโจมตีกะทันหัน ทำลายอนาคตของตัวเองได้อย่างไร?! ไม่สมเหตุสมผล!”
“อีกอย่าง กองทัพที่ฉินเฟิงนำมา แม้จะเป็นทหารฝีมือดีทั้งสิ้นแต่มีน้อยเกินไป หากเกิดการปะทะ พวกเขาจะถูกสังหารสิ้นในพริบตา เขาย่อมไม่ทำเรื่องโง่เขลาเช่นนั้น!”
ทหารส่งสารเช็ดเหงื่อเย็นที่ซึมบนหน้าผาก กัดฟันเล่าความจริงทั้งหมด
“เหมือนว่า…หลิวอี้ บุตรชายของผู้ช่วยเสนาบดีกรมโยธา ยั่วยุฉินเฟิงต่อหน้าธารกำนัลจนนำไปสู่การปะทะ…”
“หลิวอี้ถูกหักแขนหัก นายกองกองทหารตรวจตราจ้าวผู่นำทหารเข้าจัดการ ทำให้สถานการณ์ยิ่งบานปลาย”
“เหล่าทหารชายแดนเหนือต้าเหลียงคิดว่าฉินเฟิงตกอยู่ในอันตราย จึงเปิดฉากโจมตีแบบพลีชีพ”
พอรู้ถึงสาเหตุ จางปิ่งกั๋วโกรธจนตัวสั่น กวาดข้าวของบนโต๊ะทิ้งกระจัดกระจาย
ปากสาปแช่งออกมาชุดใหญ่
“ไอ้สรเลวสมควรตาย มันผลักเป่ยตี๋เข้ากองไฟแท้ ๆ”


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ