บทที่ 86 หลอกฟ้าหลอกดิน
พระราชโองการ?!
ก่อนที่ใครจะทันได้โต้ตอบ หลี่จ้านก็รับพระราชโองการมาจากขันทีน้อย ยกขึ้นสูงเหนือศีรษะ รอยยิ้มบนใบหน้าชายชราหายไปทันที เขาเอ่ยอย่างเคร่งขรึมว่า “พระราชโองการมาถึงแล้ว!”
ตึง ตึง ตึง…
คนกลุ่มใหญ่คุกเข่าลงทันที เหลือเพียงฉินเฟิงเท่านั้นที่ยังเอามือวางเท้าสะโพก เดี๋ยวมองตรงนั้นตรงนี้โดยไม่มีความคิดที่จะคุกเข่า
การกระทำรนหาที่ตายนี้ทำให้ทุกคนรู้สึกหนาวสั่น ทว่าหลี่จ้านไม่สนใจ
ไม่ต้องพูดถึงพระราชโองการ ต่อให้เข้าเฝ้าฮ่องเต้ ฉินเฟิงก็ไม่เคยคุกเข่าลง หลี่จ้านคุ้นชินกับพฤติกรรมเหล่านี้มานานแล้ว
“ด้วยชะตาแห่งฟ้า ฮ่องเต้ทรงมีพระบัญชา”
“ฉินเฟิงมีส่วนช่วยในการให้คำปรึกษาเป็นอย่างมาก ฝ่าบาทจึงพระราชทานเข็มขัดทองคำเป็นรางวัล”
ทุกคนที่นิ่งฟังพระราชโองการเงียบสนิท มีเพียงเสียงลมหายใจแผ่วเบาที่ดังก้องในห้องโถง
ดวงตาของเกาซงเบิกกว้างด้วยอย่างไม่อยากจะเชื่อ เขาคร่ำครวญอยู่ในใจ ‘ฉินเฟิง หัวขโมยที่ไร้ยางอายจะมีคุณธรรมและมีความสามารถถึงขนาดได้รับเข็มขัดทองคำได้อย่างไร’
แผ่นหลังของฉีเชิ่งปกคลุมไปด้วยเหงื่อเย็น ในใจไม่รู้ว่าควรโกรธ รำคาญ หรือขอบคุณดี
คำสั่งนี้ของฮ่องเต้เทียบเท่ากับการประกาศให้ทั้งต้าเหลียงรับรู้สถานะของฉินเฟิงในพระทัยของโอรสสวรรค์
หลังจากนั้นไม่นาน บทสนทนาของฝูงชนที่รอกินแตงนอกประตูก็เริ่มต้นขึ้น
“เข็มขัดทองคำ? หมายถึงอะไร? ข้าไม่เคยได้ยินมาก่อน”
“ไร้สาระ แน่นอนว่าเจ้าต้องไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อน! ฮ่องเต้พระองค์นี้ยังไม่เคยมอบเข็มขัดทองคำให้กับผู้ใดเลย และนับตั้งแต่ก่อตั้งราชวงศ์ต้าเหลียงมีเข็มขัดทองคำเพียงสองเส้นเท่านั้นที่ถูกพระราชทาน และผู้ที่ได้รับทั้งสองล้วนเป็นบรรพบุรุษผู้ก่อตั้งราชวงศ์ในอดีตอีก แม้ว่าเข็มขัดทองคำนี้จะไม่แสดงถึงอำนาจหรือตำแหน่งใด ๆ แต่ก็นับเป็นเกียรติยศสูงสุด!”
“นี่… เกิดอะไรขึ้น! ฉินเฟิงรวบรวมฝูงชนก่อกบฏ ปิดล้อมพรรคพยัคฆ์มังกรจนถูกจับกุมมาศาลาว่าการกรมเมือง ถึงเขาไม่ตายอย่างน้อยก็ต้องถูกถลกผิวหนัง แต่ปรากฏว่าฉินเฟิงไม่เพียงรอดพ้นเท่านั้น แต่…ยังได้เข็มขัดทองคำพระราชทานด้วยหรือ เรื่องดี ๆ ในใต้หล้านี้ ไปตกลงบนหัวฉินเฟิงหมดแล้วกระมัง!”
เมื่อรู้สึกถึงสายตาอิจฉาริษยาที่อยู่รอบตัว ฉินเฟิงกลับไม่สนใจเข็มขัดทองคำนี้มากนัก เขาคิดว่าฮ่องเต้ช่างรู้วิธีหลอกล่อผู้คนเสียจริง ถ้าต้องการพระราชทานรางวัล ไม่สู้มอบเงินให้สักแสนตำลึงเงินคงจะมีประโยชน์กว่า
ฉินเฟิงไม่สนใจไยดี เมื่อหลี่จ้านเห็นท่าทางโง่เขลาเพียงนี้ของเขา ขันทีชราก็อดไม่ได้ที่จะส่ายหัวถอนหายใจ และกระซิบบอก “เจ้ายังทำอะไรอยู่ รีบเร็วเข้า! นี่เป็นเกียรติยศที่หลายคนใฝ่ฝันเชียวนะ!”
ไม่มีทางเลือกอื่น ฉินเฟิงไม่สามารถขัดคำสั่งฮ่องเต้ได้ เขาจึงรับพระราชโองการอย่างไม่เต็มใจ และเอ่ยอย่างเกียจคร้าน “ขอบพระทัยฝ่าบาทที่เมตตา กระหม่อมจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อทำให้ต้าเหลียงเจริญรุ่งเรือง”
หลี่จ้านกลอกตามองไปที่ฉินเฟิง แต่ชายชราก็ทำอะไรเจ้าสารเลวผู้นี้ไม่ได้ ในใจต้องการจัดการเรื่องนี้อย่างรวดเร็ว เขาจึงขยิบตาบอกให้ขันทีน้อยส่งมอบของโดยทันที
ขันทีน้อยรีบส่งกล่องผ้าลายไม้จันทน์สีแดงให้ เมื่อเปิดออกก็เห็นเข็มขัดที่ทำจากทองคำบริสุทธิ์สลักด้วยลวดลายอันประณีต
ฉินเฟิงจึงเพิ่งเริ่มสนใจเอาก็ตอนนี้ เขากล่าวอย่างตื่นเต้นว่า “ว้าว นี่ต้องมีค่ามากใช่หรือไม่?”
หลี่จ้านคิดว่าตนเองกำลังฝัน หลังจากรู้สึกตัวว่าฉินเฟิงกล่าวถ้อยคำเหล่านั้นออกมาจริง ๆ ขันทีชราก็โกรธเกรี้ยวจากนั้นจึงเกิดกลัวขึ้นมา เขาปิดปากของฉินเฟิงแล้วกระซิบตำหนิ
“อยากตายรึ! ไม่ต้องพูดถึงเข็มขัดทอง อะไรก็ตามที่ฝ่าบาทมอบให้ เจ้าต้องเก็บรักษามันอย่างดี หากกล้าเอาไปแลกเป็นเงิน ทั้งตระกูลฉินจะถูกลากเข้ามารับโทษ!”



ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ