เข้าสู่ระบบผ่าน

บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ นิยาย บท 866

บทที่ 866 ใต้หล้ายังมีคนไร้ยางอายเช่นนี้ได้อย่างไร?

ฉินเฟิงรู้ดีว่าชาวบ้านในเมืองฉางสุ่ยกำลังประสบความทุกข์ยาก ดังคำกล่าวที่ว่า การช่วยชีวิตคนหนึ่งคนประเสริฐกว่าสร้างเจดีย์เจ็ดชั้น หากเฉางสุ่ยเป็นอำเภอหนึ่งของแคว้นต้าเหลียง ฉินเฟิงคงไม่ต้องคิดมาก จัดหาเสบียงอาหารมาช่วยเหลือก็พอแล้ว

ทว่าที่นี่เป็นต่างแดน แม้ฉินเฟิงจะมีความสามารถก็ไม่อาจเข้าไปยุ่งในเรื่องนี้สุ่มสี่สุ่มห้าได้ หาไม่หากเกิดข้อผิดพลาด อาจกลายเป็นเหตุการณ์ใหญ่ทางการเมือง

ถ้าจะช่วยเหลือก็จำเป็นต้องอธิบายทุกอย่างให้ชัด ใจมนุษย์ยากคาดเดา ตัวอย่างของการทำดีแต่กลับเกิดผลเสียมีให้เห็นไม่น้อย

การช่วยเหลือในด้านศีลธรรมไม่อาจตอบสนองความต้องการของเหล่าอู๋ได้ ส่วนทางด้านการเมืองก็แทบจะเป็นไปไม่ได้ ตอนนี้เหลือเพียงวิธีเดียว…การเข้าไปจัดการทางด้านการค้า

เหล่าอู๋ก็คิดว่าต้องลองทุกวิถีทางจึงถามด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า “ทางด้านการค้าจะดำเนินการอย่างไร?

ฉินเฟิงแย้มยิ้ม แสดงท่าทีมั่นใจอย่างยิ่ง “เรื่องนี้ไม่ยากเลย อย่างไรเสียอากาศก็หนาวเย็น ชาวบ้านไม่มีอะไรทำ ก็ให้ชาวบ้านที่ประสบภัยในเมืองฉางสุ่ยส่งคนมาครอบครัวละหนึ่งคน มาทำงานที่เมืองหลวง ข้าจะจัดหางานให้ และจ่ายค่าแรงล่วงหน้าครึ่งเดือนเพื่อให้ครอบครัวของพวกเขาสามารถดำรงชีพได้ ส่วนค่าแรงที่เหลือจะจ่ายให้ทั้งหมดเมื่อสิ้นสุดระยะเวลาการทำงาน”

ได้ยินคำพูดนี้ เหล่าอู๋มองฉินเฟิงด้วยสายตาราวกับมองพ่อค้าเจ้าเล่ห์ อดไม่ได้ที่จะดูถูก “พูดไปพูดมา เจ้าก็ยังตระหนี่ถี่เหนียวอยู่ดี”

ฉินเฟิงผายมือสองข้างพลางยักไหล่ “สอนให้ตกปลาดีกว่ามอบปลาให้เปล่า หากแจกจ่ายเสบียงย่อมหนีไม่พ้นการขูดรีดจากเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น แต่หากชาวบ้านมาทำงาน ข้า ฉินเฟิง รับผิดชอบโดยตรงได้”

“ส่วนเรื่องที่ว่า อยากได้เงินโดยไม่ต้องออกแรง ใต้หล้านี้จะมีเรื่องดีเช่นนั้นได้อย่างไร?”

“ข้าฉินเฟิง เป็นพ่อค้า หาใช่นักบุญ”

แต่ไหนแต่ไรเหล่าอู๋ดูถูกพวกแก่ประโยชน์ของตนนัก แต่เมื่อพิจารณาว่าชาวบ้านในอำเภอฉางสุ่ยไม่มีทางรอดแล้ว แม้จะลำบากและเหนื่อยสักหน่อย ขอเพียงมีชีวิตรอดไปจนถึงฤดูใบไม้ผลิปีหน้าได้ก็นับว่าเป็นวาสนาใหญ่แล้ว

หลังไตร่ตรองถี่ถ้วน เหล่าอู๋ก็ตัดสินใจรับความช่วยเหลือทางการค้าจากฉินเฟิง

“จะเห็นผลเมื่อไร? อย่าให้ข้าต้องรอนานเหมือนข้อตกลงทางการค้าอีกเชียส” เหล่าอู๋เคยถูกงูกัดจนกลัวเชือกไปสิบปี สิ่งเดียวที่เขาเหนือกว่าฉินเฟิงมีเพียงวรยุทธ์ ส่วนด้านอื่น ๆ ต่อหน้าฉินเฟิงเขาก็เป็นเพียงเด็กไร้เดียวสา

เพื่อให้เหล่าอู๋สบายใจ ฉินเฟิงพูดตรงไปตรงมาว่า “เรื่องนี้ย่อมเห็นผลได้เร็ว ขอเพียงชาวบ้านยอมมา ก็ได้รับค่าตอบแทนแล้ว หากพูดตามตรงเรื่องนี้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับข้า แต่ขึ้นอยู่กับชาวบ้านและราชสำนักเป่ยตี๋”

“หากราชสำนักห้ามชาวบ้านออกไปทำมาหาเงินเพื่อรักษาภาพลักษณ์ เรื่องนี้ข้าก็ช่วยอะไรไม่ได้”

เหล่าอู๋แค่นเสียงเบา “เฮอะ อย่ามาใช้อุบายกับข้า คิดว่าข้าไม่รู้ถึงความสัมพันธ์ระหว่างเจ้ากับองค์หญิงจหรือ? ไม่ว่าจะเป็นองค์หญิงของอดีตฮ่องเต้ หรือองค์หญิงจิ่งฉือ เจ้าล้วนสนิทสนมกับพวกนาง เรื่องราวในราชสำนักขอเพียงเจ้าพูดคำเดียวไม่ใช่หรือ?”

ฉินเฟิงไม่คิดว่าเหล่าอู่จะเข้าใจเขาได้ดีถึงเพียงนี้ เขาลูบจมูกแล้วจำต้องพยักหน้ารับ

แล้วพอเห็นเหล่าอู๋จะจากไป ฉินเฟิงก็รีบกางมือขวางไว้ ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มกรุ่มกริ่มประจบประแจง “ฮ่า ๆ ผู้อาวุโสอู๋ ข้าช่วยท่านมากมายขนาดนี้ ท่านก็ควรจะให้ผลประโยชน์แก่ข้าบ้างไม่ใช่หรือ?”

“ต่างฝ่ายต่างได้ประโยชน์ ความสัมพันธ์ถึงจะยืนยาว”

“หากผู้อาวุโสอู่จะปฏิบัติต่อผู้น้อยเสมือนเป็นลูกน้อง คอยกดขี่ตามใจ ลำพังตัวข้าก็ไม่เป็นไร ถือเป็นเกียรติที่ได้รับใช้ผู้มีวรยุทธ์สูงส่งเช่นท่าน แต่พวกน้อง ๆ ใต้บังคับบัญชาของข้านี่สิ พวกเขาคงจะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกกับเรื่องนี้”

เหล่าอู๋มองด้วยสายตาดูแคลน “เจ้ากำลังข่มขู่ข้าอยู่หรือ?”

ฉินเฟิงรีบถอยหลังหนึ่งก้าว ยกมือสองข้างทาบอก ทำท่าตกใจเต็มที่ “ไม่กล้า ๆ แม้ผู้อาวุโสจะให้ความกล้าข้าร้อยเท่า ข้าก็ไม่กล้าข่มขู่ท่าน”

“วิชาลอบสังหารของเว่ยเซียวก็ทำให้ข้านอนไม่หลับอยู่แล้ว แต่เว่ยเซียวต่อหน้าผู้อาวุโสกลับเป็นเหมือนเด็กน้อย ถ้าข้าทำให้ท่านโกรธ ข้าคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่วันกระมัง”

บทที่ 866 ใต้หล้ายังมีคนไร้ยางอายเช่นนี้ได้อย่างไร? 1

Verify captcha to read the content.ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ