บทที่ 879 ลมข้างหมอนน่ากลัวที่สุด
อำเภอฉางสุ่ยเป็นหนึ่งในอำเถอที่อยู่ภายใต้การปกครองของเมืองหลวง แม้จะอยู่ห่างไกล แต่ก็อยู่ภายใต้การควบคุมโดยตรงของเมืองหลวงเป่ยตี๋
เพียงเมืองหลวงออกคำสั่ง เมืองต่าง ๆ ตามเส้นทางก็ต้องเปิดทางให้
อีกอย่างถนนหลวงกว้างขวางและราบเรียบ ทั้งยังไม่มีโจรผู้ร้าย
เฉินเถียนคิดจนสมองแทบแตกก็ยังคิดไม่ออกว่า ถนนเส้นนี้จะต้องเปิดทางอะไรอีก
ฉินเฟิงไม่อ้อมค้อม อธิบายตรงไปตรงมา “จากเมืองฉางสุ่ยไปเมืองหลวงต้องผ่านอาณาเขตของสามเมือง ก่อนหน้านี้ราชสำนักส่งเสบียงบรรเทาภัยพิบัติลงมา ยังไม่ทันถึงเมืองฉางสุ่ยก็ถูกสามเมืองตามเส้นทางแย่งชิงไปจนหมดแล้ว หากขนส่งสิ่งของอื่น ๆ ก็คงหนีไม่พ้นเกิดเรื่อง พูดตามตรงก็คือ ไม่ต้องกังวลเรื่องโจร แต่ต้องกังวลเขุนนางแต่ละเมือง!”
“ประการที่สอง เมืองฉางสุ่ยเป็นเมืองที่อยู่ใต้สุดในบรรดาอำเภอต่าง ๆ ของเมืองหลวง สินค้าใด ๆ ที่มาจากทางใต้ล้วนต้องผ่านเมืองฉางสุ่ย”
ได้ยินถึงขนาดนี้แล้ว ต่อให้เฉินเถียนโง่เพียงใดก็ย่อมเข้าใจความนัยลึกซึ้งของฉินเฟิง
ฉินเฟิงมีเจตนาซ่อนเร้นอยู่เบื้องหลัง!
เขาพูดปากเปียกปากแฉะว่าต้องการจ้างคนงาน และกล่าวว่าแรงงานกรรมกรเป็นสิ่งสำคัญที่สุด แต่แท้จริงทั้งหมดนี้ล้วนเป็นเพียงฉากบังหน้า พูดให้ชัดคือ ความสำคัญของการจ้างงานไม่ได้มีน้ำหนักมากอย่างที่ฉินเฟิงกล่าวอ้างเลย
สิ่งที่ฉินเฟิงใส่ใจจริง ๆ คือที่ดินของอำเภอฉางสุ่ย
สิ่งที่เรียกว่าทางใต้ แท้จริงก็หมายถึงซางโจว
สินค้าจากแคว้นต้าเหลียงและชายแดนเหนือต้าเหลียงจะถูกขนส่งมายังซางโจวก่อน แล้วจึงขนส่งต่อมายังภายในแคว้นเป่ยตี๋ แต่เนื่องจากขาดจุดขนถ่ายสินค้า ไม่สามารถดำเนินการได้ ฉินเฟิงเลยต้องการทำให้อำเภอฉางสุ่ยเป็นสถานีขนถ่ายสินค้า
สินค้าทั้งหมดจะถูกเก็บไว้ที่อำเภอฉางสุ่ยชั่วคราว และจะถูกส่งไปยังเมืองหลวงเป่ยตี๋ตามความต้องการอย่างต่อเนื่อง
เฉินเถียนเพิ่มความระมัดระวัง เขาไม่ได้ปฏิเสธทันที แต่ถามว่า “ไม่ทราบว่าสินค้าที่โหวฉินกล่าวถึงคือ…”
ฉินเฟิงตอบโดยไม่ต้องคิด “เป็นสินค้าทางการค้า”
“แคว้นต้าเหลียงได้บรรลุข้อตกลงทางการค้ากับแคว้นเป่ยตี๋ของเจ้าแล้ว เหลือแค่นำไปปฏิบัติ พวกพ่อค้าแคว้นต้าเหลียง ของเราต้องการมาค้าขายที่นี่ จำเป็นต้องมีสถานีขนถ่ายสินค้า หากไม่มีต้นทุนและความเสี่ยงในการค้าขายจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก”
ได้ยินคำพูดนี้ เฉินเถียนจมอยู่ในภวังค์ความคิด
ผ่านไปครู่หนึ่ง เขากล่าวอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ “ในเมื่อเป็นสินค้าก็ขนส่งตรงไปยังเมืองหลวงเลยไม่ดีหรือขอรับ? ไยต้องสนใจเส้นทางที่ใช้เวลาเพียงวันเดียวคืนเดียวด้วย?”
ฉินเฟิงยิ้มพลางส่ายหน้า อธิบายอย่างอดทน “หากทำการค้าเพียงแค่เมืองหลวงก็สามารถขนส่งตรงไปยังเมืองหลวง ได้ แต่หากต้องการพัฒนาไปทางเหนือก็จำเป็นต้องมีสถานีขนถ่ายสินค้าไม่ใช่หรือ?”
“เมืองหลวงมีอิทธิพลจากหลายฝ่ายซับซ้อน ไม่เหมาะสมจะรับบทบาทเป็นสถานีขนถ่ายสินค้า”
เฉินเถียนเข้าใจความกังวลของฉินเฟิงแล้ว เขาไม่วางใจเหล่าขุนนางในเมืองหลวง กลัวว่าหากเอาไข่ทั้งหมดใส่ในตะกร้าเดียวแล้วเกิดความผิดพลาด ความสูญเสียจะมหาศาล
ทว่าเฉินเถียนยังคงสงสัยว่าแรงจูงใจในการสร้างสถานีขนถ่ายของฉินเฟิงอาจไม่บริสุทธิ์!
ภายในจดหมายจากกรมคลังได้เน้นย้ำเป็นพิเศษถึงการกระทำของฉินเฟิงในซางโจว รวมถึงความสัมพันธ์กับเจ้าหญิงของอดีจฮ่องเต้
หากเกิดเหตุแขวนหัวแกะขายเนื้อสุนัข ภายนอกฉินเฟิงบอกสร้างสถานีขนส่งสินค้า ลับหลังค้าอาวุธยุทโธปกรณ์ สำหรับเฉินเถียนนี่จะกลายเป็นความผิดร้ายแรงที่อาจทำให้ทั้งตระกูลถูกประหาร
ความเสี่ยงมหาศาล เฉินเถียนไม่อาจแบกรับได้
แต่เฉินเถียนกลับพบว่า ตนเองไม่มีทุนรอนที่จะปฏิเสธฉินเฟิง


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ