บทที่ 894 หนึ่งจุมพิตกำหนดหัวใจ
ตามคำกล่าวของเสิ่นชิงฉือ นับตั้งแต่ฉินเทียนหู่พาจ้าวอวี้หลงออกจากเมืองหลวงไปยังจงหยวน เพื่อติดต่อกับหลี่เจิ้ง ภาระงานที่เมืองหลวงก็ตกหนักอยู่บนบ่าของสตรีทั้งสองคน
แม้ว่าทางราชสำนักจะมีพลพรรคเถาหลินกับเซี่ยปี้ และขุนนางสำคัญอื่น ๆ จัดการอยู่ แต่เฉพาะงานของค่ายเทียนจีก็ทำให้สตรีทั้งสองคนแยกตัวออกมาได้ยาก ยิ่งหลังจากหลี่เซียวหลานออกมา ภารกิจขององครักษ์เสื้อแพรไม่อาจหยุกชะงัก หลิ่วหงเหยียนจึงเป็นผู้จัดการแทน
เซี่ยอวิ๋นเอ๋อร์ พอรู้ว่าหลี่เซียวหลานจะมายังเป่ยตี๋เพื่อพบกับฉินเฟิง ก็หงุดหงิดและอิจฉานัก หลายครั้งที่นางบอกว่าจะทิ้งงานตามมาด้วย แต่เมื่อคิดถึงความสำคัญของภารกิจที่เมืองหลวง นางก็ยังต้องอยู่กับหลิ่วหงเหยียน
เมื่อรับทราบเรื่องนี้ ฉินเฟิงสงสารเซี่ยอวิ๋นเอ๋อร์กับพี่หญิงรองนัก ภายในใจเขาก็ได้แต่ก่นด่าตัวเองที่ไม่เอาไหน ถึงได้ทิ้งภาระงานมากมายให้พี่หญิงรองกับอวิ๋นเอ๋อร์ดูแล
ฉินเฟิงแอบตั้งมั่น เมื่อกลับไปถึงเมืองหลวงแคว้นต้าเหลียง จะต้องหาคนสนิทมาช่วยแบ่งเบาภาระให้สตรีทั้งสองคน เพื่อไม่ให้พวกนางต้องวุ่นวายทั้งกลางวันและกลางคืน
พอฉินเฟิงสงบใจได้ก็หันไปมองเสิ่นชิงฉือที่ยังหงุดหงิด เขายกยิ้มประจบ “พี่หญิงใหญ่ กว่าเราจะได้เจอกันไม่ง่ายเลย ไยท่านถึงไม่ดีใจ หรือข้าทำให้ท่านโกรธอีกแล้วหรือ?”
ได้ยินคำพูดนี้ เสิ่นชิงฉือก็นึกด่าฉินเฟิงว่าโง่เง่า รอคอยการพบกันมานานแสนนานนางจะไม่ดีใจได้อย่างไร ภายในใจนางเต็มไปด้วยความสุข แต่ด้วยเรื่องของสถานะนางไม่อาจแสดงออกมาได้
ฉินเฟิงสัมผัสได้ถึงความรู้สึกในแววตาของเสิ่นชิงฉือ เขารู้ได้ทันทีว่าพี่หญิงใหญ่ยังปล่อยวางไม่ได้
ภายในใจกระหยิ่มยิ้มย่อง อ้าแขนคว้าหมับเเข้าที่ตัวเสิ่นชิงฉือ แล้วดึงนางเข้ามาในอ้อมกอด พลางกล่าวว่า “พี่หญิงใหญ่ ข้าคิดถึงท่านมากจริง ๆ”
จู่ ๆ ถูกฉินเฟิงดึงมากอด เสิ่นชิงฉือเบิกตากว้าง ไม่ทันไรก็ได้ยินเสียงหัวเราะคิดคักของของเสี่ยวเซียงเซียงกับชูเฟิงดังมา นางหน้าแดงก่ำ รีบผลักฉินเฟิงออก
“เจ้า เจ้าเด็กสารเลว ปล่อยข้าเดี๋ยวนี้!”
“แถวนี้ยังมีคนอยู่นะ เจ้าได้ยินหรือไม่?!”
ฉินเฟิงไม่เพียงแต่ไม่ปล่อยมือ กลับยิ่งกอดแน่น ซุกหน้ากับอกเสิ่นชิงฉือพลางพูดหน้าตาย “มีคนแล้วอย่างไร? พวกเราทุกคนล้วนเป็นครอบครัวทั้งนั้น”
“พี่หญิงใหญ่ ท่านยังจะเขินอายอะไรอีก?”
เสิ่นชิงฉือมักจะวางตัวเย่อหยิ่ง สง่างาม ครั้นถูกฉินเฟิงกอดแน่นก็ขัดไปทั้งตัว ทั้งอายและโกรธ ทว่าหัวใจที่เคยว่างเปล่ายามนี้กลับอุ่นวาบอิ่มเอม จึงไม่ได้ผลักฉินเฟิงจริงจังนัก
ทว่าพอตั้งสติได้ และรู้สึกถึงสายตาสามคู่ที่กำลังจ้องมอง ถึงจะเป็นใกล้ชิด เสิ่นชิงฉือก็ยังคงกระดากอายจนตัวแดง หน้าแดง
“เฟิงเอ๋อร์ เจ้าปล่อยข้าดี ๆ เถิด”
“หรือจะต้องให้พี่หญิงของเจ้ากราบขอร้อง?”
ฉินเฟิงตอบโดยไม่คิด “ไม่! ต่อให้ต้องตายข้าก็จะไม่ปล่อย ข้าคิดถึงท่าน ไม่อยากจากท่านแม้แต่อึดใจ”
เสิ่นชิงฉือรู้ดี วาจาฉินเฟิงก็เป็นเพียงยาพิษเคลือบน้ำตาล ทว่าหัวใจของนางก็ยังคงอบอุ่น นางยอมรับชะตากรรมของตัวเองไปนานแล้ว ชาตินี้ นางฝากชีวิตไว้กับฉินเฟิง ฉินเฟิงคือทุกสิ่งทุกอย่างของนาง
ตอนนี้ถูกฉินเฟิงกอดแน่น เสิ่นชิงฉือย่อมปิติยินดี
นางถอนหายใจเบา ๆ ริมฝีปากบางขบเม้ม ก่อนจะกล่าวด้วยความจนใจ “ข้ายอมแล้ว ข้ายอมเจ้าแล้ว”
ขณะนั้นเอง เฉินหวังซื่อเดินเข้ามาเรือนหลัง พอเห็นฉินเฟิงกอดเสิ่นชิงฉืออยู่ก็ร้องออกมาด้วยความตกใจ
“แม่ร่วง ๆ ขออภัย ข้าไม่คิดว่าท่านโหวฉินจะกำลัง…”

ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ